Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
อนาคตการศึกษาไทย ทำอย่างไรให้มี...อนาคต !

  Favorite

          เมื่อไม่นานมานี้ พี่นัทได้มีโอกาสเป็นตัวแทนทรูปลูกปัญญาไปร่วมงาน Enconcept Exclusive Dinner Think Beyond 2020 นับเป็นโอกาสอันดี ที่ได้ร่วมวงแลกเปลี่ยนสนทนากับนักพัฒนาการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน เครือข่ายผู้ปกครอง เด็กนักเรียน และสื่อมวลชนสายการศึกษาอีกหลายสำนัก รวมทั้งบุคคลที่สำคัญที่สุดของงาน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะมีประเด็นไหนน่าสนใจบ้าง ลองไปดูกันเลยค่ะ

 

 

Education for Future World : The Best Education Money Cannot Buy

การศึกษาในโลกอนาคต การศึกษาที่ดีที่สุด และเงินซื้อไม่ได้ เป็นอย่างไร

โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

 

          หมอธีเริ่มเปิดเวทีเสวนาด้วยคำถามชวนคิดว่า เคยได้ยินประโยคนี้มั้ย “ไม่ต้องมีครูก็ได้ ในยุค Disruption”

          นับว่าเป็นประโยคที่ท้าทายการศึกษาของไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยหมอธีให้แง่คิดที่น่าสนใจว่า  “โลกมันเปลี่ยนไปเร็วกว่าที่คิดเยอะ ให้ดูประวัติศาสตร์เมื่อร้อยปี ตอนที่เอดิสันเห็นทีวีครั้งแรก เขาบอกว่า อีก 10 ปี ข้างหน้าจะไม่มีโรงเรียน ทุกคนจะเรียนจากทีวีหมด แต่พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าเชื่อเพราะเข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือคนเก่ง แต่ต้องลอง และเราจะเจอเรื่องที่ Surprise กันเรื่อย ๆ”  

          แต่มีบางอย่างที่เป็นความเชื่อมั่นอันแรงกล้าของหมอธีคือ มันมีบางอย่างที่เป็น “อกาลิโก” คือเป็นจริงตลอดเวลาในโลกของการศึกษา

 

ในเรื่องของการศึกษา อะไรล่ะ ที่เป็นความจริงตลอดเวลา ?

          เพลโตพูดเรื่องการศึกษาที่สำคัญว่า การศึกษาต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์ ทั้งนี้จุดประสงค์ของการศึกษาคือการสร้างคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์  ปลายทางการศึกษาคือการใช้ชีวิต ไม่ใช่ปริญญา

 

การศึกษาในอนาคตควรเป็นอย่างไร

          Private to Personalized

          การเรียนแบบส่วนตัวหรือเรียนร่วมกับคนหมู่มากทำได้ แต่เป็นแค่การผลิต Follower ไม่ได้ผลิต Leader ดังนั้นควรเรียนแบบเฉพาะตัว  

          Extensive to Intensive

          นักเรียนชั้นมัธยมปลายของประเทศไทยเรียนเยอะมาก ทำให้เสียโอกาส ไม่มีประเทศไหนเรียนมากเท่าประเทศไทย เราไม่ต้องรู้เยอะมาก แต่ต้องรู้ลึกในแต่ละเรื่อง และเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับชีวิต 

          Complex to Simple

          คนเก่งที่สุดคือคนที่ทำเรื่องง่ายให้ง่ายขึ้น และทำเรื่องยากให้ง่าย  

 

แนวคิดด้านการศึกษา

          มีหัวใจสำคัญอยู่ 2 อย่าง หนึ่งคือการสั่งสอน และสองคือการทำซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องนิสัย

 

การแนะแนวในยุค Disruption ควรเน้นในเรื่องใด

          เน้นการเรียนรู้ให้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ไปตามวัย  คงความอยากรู้อยากเห็นไว้ แล้วเสริมทักษะที่จำเป็นในอนาคต เพราะถึงแม้ว่าเด็กจะมีความฝันว่าอยากประกอบอาชีพอะไร แต่ในวันข้างหน้า อาชีพเหล่านั้นอาจไม่มีอยู่แล้ว หรืออาจมีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยที่เด็กยังไม่รู้จัก ดังนั้นการแนะแนวเด็กควรเน้นให้เด็กเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และเสริมทักษะด้านต่าง ๆ ให้รองรับต่ออาชีพในอนาคต  

 

การศึกษาที่ดีที่สุดเป็นอย่างไร

          การศึกษาที่ดีที่สุดคือ sixth form  (ช่วงมัธยมปลายของอังกฤษ) ช่วงเวลาสองปีสุดท้ายก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งสอดคล้องกับระบบการศึกษาของอังกฤษ คือ 6 5 2 (ปัจจุบันไทยใช้ 6 3 3 ประถมศึกษา 6 ปี, มัธยมต้น 3 ปี, มัธยมปลาย 3 ปี   

          เด็กไทยนิยมเรียนหลักสูตรอินเตอร์ ประเทศไทยมีโรงเรียนอินเตอร์มากที่สุด มี English Program ให้เด็กเรียนจำนวนมาก แต่ปัญหาสำคัญที่เจอคือ ภาษาอังกฤษไม่ได้ดี คณิตศาสตร์ก็แย่ เราไปสร้างให้พวกเขาเอง  คือ ให้เรียนหลักสูตรไทย แต่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่พอที่จะเข้าใจคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ แล้วก็สอบเป็นแบบไทย  โรงเรียนส่วนใหญ่จึงต้องมีครูไทยเข้าไปประกบ

          มีงานวิจัยที่ชัดเจนบอกว่า เรียนวิชาที่ยากเป็นภาษาแม่ เราควรจะเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง ในขณะเดียวกันก็เรียนวิชาต่าง ๆ ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่เรามี อย่ามองภาษาอังกฤษเป็นแค่วิชาหนึ่ง แต่ให้มองเป็นเครื่องมือที่ใช้แสวงหาความรู้ และถ้าเครื่องมือ (ภาษาอังกฤษ) ไม่พร้อม ก็จะเข้าถึงเนื้อหาวิชานั้นไม่ได้ ทำให้เสียหายทั้งสองอย่าง

          ถ้ามีโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรมัธยมปลายแบบประเทศอังกฤษ เปิดให้คนทั่วโลกเรียน เรียนจากที่ไหนของโลกก็ได้ และสอบได้  เรียนเข้มข้นแบบอังกฤษ สอนคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ด้วยภาษาไทย ด้วยคนที่เก่งที่สุดที่เรามี อายุไม่ห่างกับเด็กเกินไปนัก นี่คือแนวทาง Personalized sixth form

 

 

          นี่คือส่วนหนึ่งของการเสวนา การศึกษาในโลกอนาคต ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่เคย สิ่งที่เคยมี อาจไม่มีอีกแล้ว และสิ่งที่ไม่เคยมี ก็อาจจะเกิดใหม่ขึ้นได้อีก การปรับตัวและรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตทางการศึกษาของน้อง ๆ

          หากใครสนใจกิจกรรมการศึกษาที่มากกว่าการแนะแนว ก็สามารถไปร่วมงานนี้ได้ Think Beyond "MAX TO THE FUTURE” เตรียมพร้อมสู่โลกที่จะไม่เหมือนเดิม น่าจะช่วยนำทางไปสู่อนาคตของเด็ก ๆ ในยุค Disruption ได้เป็นอย่างดี งานมีวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563 เวลา 09.00 - 18.00 น.โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 สยามพารากอน

          โอกาสหน้าถ้ามีกิจกรรมการศึกษาอะไรที่น่าสนใจอีก พี่นัทจะเก็บข้อมูลมาบอกกล่าวเล่าเรื่องให้น้อง ๆ ได้รับทราบต่อ แต่สำหรับงานนี้ บทสรุปที่พี่นัทได้ คือ...

          สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการศึกษา คือ การไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไร ! แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไป อย่างคิดว่าตัวเองเป็น...ผู้รู้ !

 

 

พี่นัท ทรูปลูกปัญญา

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us