Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง คว้า GAT อังกฤษ 146 คะแนน

  Favorite

          สวัสดีค่ะ แนะนำตัวนิดนึง พี่ออง-นงค์รัตน์ งามกิจวรสิน เป็นเด็ก TCAS ปี 61 หลังจากผ่านระบบ TCAS ที่ตะลุมบอนมาก ๆ คะแนนเฟ้อหนักหน่วงจนจุกกันไปหลายคน พี่ก็สามารถเข้าคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ค่ะ! (เย้) โดยยื่นคะแนนรอบที่ 4 แอดมิชชั่น ติดคณะอันดับ 2 ด้วยรูปแบบคะแนน GAT ล้วน ซึ่งคะแนน GAT พี่ได้ 281.34 ค่ะ ไทย 135 อังกฤษ 146.34 ดีกว่า GAT ไทยซะงั้น 555555 และไม่ได้เรียนติวเตอร์นะคะ บอกเลย ดังนั้นวันนี้พี่จะมาบอกทริคในการเป็นเทพอังกฤษแบบฉบับพี่เองค่ะ

 

          บอกไว้ก่อนเลยว่า การฝึกภาษาอังกฤษที่ดี ไม่ควรท่องจำเป็นช่วง ๆ แล้วเทหลังสอบเสร็จ เหมือนที่เราชอบทำกันนะคะ (ฮั่นแน่ ทำบ่อยล่ะสิ) การฝึกภาษาที่ดีคือการเรียนรู้ทุก ๆ วันและให้มั่นใจว่าเรานำไปใช้จริงได้ด้วย แล้วเจอข้อสอบไหนเราก็จะไม่กลัวค่ะ

 

ดิกชันนารี่เป็นเพื่อนคู่ใจ

          เริ่มแรกเลยคือ พี่มีดิกชันนารี่เป็นเพื่อนคู่ใจค่ะ จะเป็นเล่มหรือเป็นแอปในมือถือก็ได้ทั้งนั้น เจอศัพท์คำไหนที่ไม่รู้จักหรือไม่แน่ใจอย่าปล่อยทิ้งไว้ เสิร์ชเลยค่ะ เปิดเลยค่ะ รู้ความหมายแล้วก็ให้จดหรือติดดาวคำเหล่านั้นไว้นะคะ

 

ติดดาวคำศัพท์

          เราจดหรือติดดาวคำศัพท์ไว้แล้ว ระหว่างนั้นก็เสพสื่อภาษาอังกฤษไปเรื่อย ๆ ตามปกติเราเลย พอเจอคำนี้อีกรอบให้หยุดทบทวนในหัวดูว่าคำนี้แปลว่าอะไร ถ้าเห็นศัพท์ปุ๊บรู้ปั๊บแปลว่ามันอยู่ในสายเลือดน้องแล้วค่ะ สามารถยกเลิกการติดดาวคำ ๆ นั้นได้ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจต้องใช้เวลาในการคิดความหมาย อย่าเนียนยกเลิกติดดาวศัพท์คำนั้นนะคะ (บางทีพี่ก็เกือบจะแอบเนียนละ ต้องห้ามใจตัวเอง 55555) เก็บไว้นั่นแหละค่ะ จนกว่าจะอยู่ในสายเลือด ความรู้สึกทุกครั้งเวลายกเลิกติดดาวคำศัพท์นี่มันดีมากนะคะ รู้สึกว่าฉลาดขึ้นนิดนึง 5555555

 

เสพสื่อภาษาอังกฤษ

          ต่อมาคือการเสพสื่อภาษาอังกฤษค่ะ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวเลยนะคะ ใครชอบการ์ตูนก็ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษได้ ใครชอบหนังชอบซีรีย์อะไรก็ว่าไป ดูคลิปยูทูปเป็นภาษาอังกฤษก็ได้นะคะ ส่วนเรื่องของการเปิดซับเวลาดูสื่อภาษาอังกฤษเหล่านี้เนี่ย จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องผิดนะคะ ไม่ถือว่าน้องโกงแต่อย่างใด สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มฝึก การดูสื่อที่มี Subtitle ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะเราสงสัยคำไหนก็ก้มลงมาดูซับหาคำปริศนานั้นได้ทันที ขนาดพี่ที่ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับดีพอสมควรก็ยังมีการเปิด Subtitle อยู่บ้างบางครั้งเลยค่ะ เพราะภาษาอังกฤษมันมีศัพท์ให้เรียนรู้อีกมากมาย ที่เราว่ารู้เยอะแล้ว ยังมีศัพท์เฉพาะทางหรือพวกศัพท์สูงกว่านั้นอีกเยอะแยะ (ซึ่งศัพท์เหล่านั้นอาจจะไปโผล่อยู่ในบทเรียนในมหาลัยของน้อง ๆ ก็ได้ ดังนั้นอย่าหยุดเรียนรู้ค่ะ)

 

ขอแนะนำการ์ตูนเรื่อง We Bare Bears

          ถ้าใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มดูสื่ออะไรดี พี่แนะนำที่พี่เคยดูก็ได้ค่ะ การ์ตูนเรื่อง We Bare Bears โดยขณะที่พี่ดู พี่จะเปิดเว็บสคริปบทพูดในการ์ตูนไว้ด้วย แล้วก็ดูการ์ตูนไปสบายใจ เจอศัพท์ที่ไม่แน่ใจปุ๊บเปิดสคริปเลยค่ะ แล้วก็เสิร์ชหาความหมาย ติดดาวไว้ ตามที่บอกข้อแรกเลยย เว็บที่พี่เจอชื่อ www.springfieldspringfield.co.uk นะ แต่แค่เสิร์ชว่า We bare bear script ก็ขึ้นอันแรกแล้วล่ะ

 

เรื่องของ Grammar

          เรื่องสุดท้าย เรื่องของ Grammar บอกเลยว่าในบรรดาทักษะภาษาอังกฤษทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย พี่ไม่เคยตั้งใจเรียนแกรมม่าจริง ๆ จัง ๆ ซักที 5555555 แต่พี่ก็พอทำแกรมม่าได้นะ ถือว่าดีด้วยล่ะ หลักสำคัญของการนำ Grammar และ Tenseไปใช้ได้อย่างถูกต้องคล่องแคล่วนั้นคือ ฟังและอ่านเยอะ ๆ ค่ะ เลือกฟังจากแหล่งที่เชื่อถือได้นะคะ ไอพวกเด็กฝรั่งวัยรุ่นที่ศัพท์สก๊อย แสลงเยอะ ๆ อย่าเพิ่งดูก็ดี 555555 ให้เราเก่งในระดับภาษาปกติก่อนค่อยไปพัฒนาด้านแสลงนะน้องนะ แล้วถ้าเราไม่มั่นใจจากการฟังและอ่านเหล่านั้น หรืองงใน Grammar หรือ Tense ที่เลือกใช้ตรงนั้น ค่อยเสิร์ชค่อยเปิดหนังสือค่ะ

 

เสิร์ชหาความรู้เรื่องภาษาอังกฤษด้วยภาษาอังกฤษ

          และทิปสุดท้ายคือ การเสิร์ชหาความรู้เรื่องภาษาอังกฤษด้วยภาษาอังกฤษ นอกจากเราจะได้ฝึกภาษาในการอ่านแล้ว เรายังได้ข้อมูลจาก Native ด้วยนะคะ บางเว็บมีทั้งคน US ทั้ง UK และอีกมากมายมาอธิบายความต่าง ยิ่งได้ความรู้เพิ่มแบบพิเศษใส่ไข่ไปอีก

 

ทริคทำข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษ

          ปิดท้ายด้วยแนวข้อสอบกันซักเล็กน้อย สำหรับ GAT อังกฤษ ศัพท์ยากทั้งหลาย น้องก็ควรจำปกติแหละ ใช้ทริคท่องศัพท์ตามที่พี่บอกไปข้างบนก็ได้ Conversation กับพวกสำนวนน้องก็จะได้จากการเสพสื่อต่าง ๆ แต่บทความนี้พี่จะเน้นเรื่องของ Reading ให้นิดนึงเพราะเห็นเสียเวลาและเสียคะแนนให้พาร์ทนี้กันหลายคนมากจริง ๆ

          ในการทำข้อสอบ พี่จะทำการอ่านแบบ Scan ก่อน ก็คือมองผ่าน ๆ ทั้งบทความอย่างรวดเร็ว ดูแค่ไม่กี่คำในแต่ละ 2 - 3 บรรทัด แล้วลองจับใจความว่าบทความนี้ต้องการสื่ออะไรในภาพรวม ได้แล้วอย่าลืมเช็คหัวข้อบทความด้วยนะว่าเป็นแนวเดียวกับความหมายที่เราจับใจความได้รึเปล่า ถ้าไม่ใช่ แปลว่ามีบางช่วงที่อาจจะมีศัพท์ยากที่เราไม่แน่ใจหรือมีศัพท์ที่ดูคำเดียวไม่ได้ความหมาย ต้องดูทั้งประโยค เราก็ขีดเส้นใต้หรือวงไว้ก็ได้ว่าจุดนี้นะสำคัญ ได้ความหมายโดยรวมแล้ว เปิดไปดูคำถามเลยค่ะ ซึ่งหลังจากที่เราสแกนบทความแล้ว เราก็จะจำได้คร่าวๆว่า เนื้อหาสำหรับคำถามนี้อยู่ช่วงพารากราฟไหน หรือถ้าจำไม่ได้สแกนอีกรอบก็ได้ค่ะ "จุดที่สำคัญมาก!!" คือ บางทีโจทย์ชอบถามโดยใช้คำอื่นที่ไม่ได้เป็นคำนั้นเป๊ะ ๆ แล้วมีช้อยส์หลอกเป็นศัพท์คำนั้นเป๊ะ ๆ แต่ความหมายไม่ถูกต้อง อย่าลืมอ่านให้ละเอียดนะคะ ศัพท์เดียวกันแต่ใช่ว่าจะเป็นคำตอบที่ถูกเสมอไป

 

          พี่ก็ขอแนะนำไว้เท่านี้แหละค่ะ ถ้าทำตามที่แนะได้บ่อย ๆ ภาษาอังกฤษก็จะไม่ยากอีกต่อไป แต่ถ้าไม่ว่างเสพสื่อ อย่างน้อยก็เสิร์ชหาความรู้จะเรื่อง Grammar, Tense หรือ Vocab ก็ได้อย่างน้อยซักอาทิตย์ละครั้งนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

เรื่อง : นงค์รัตน์ งามกิจวรสิน

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us