สวัสดีค่าพี่ชื่อฐิตาภรณ์ ชูโต เรียกสั้น ๆ ว่า พี่โบนัส จบจากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 แผนการเรียนศิลป์ - คำนวณ โครงการห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ Special Program (SP) พี่เป็นเด็ก TCAS ในรุ่น 61 ค่ะ ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 ของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น้อง ๆ ที่เข้ามาอ่านไม่ต้องสังสัยว่าพี่มาทำอะไร พี่มารีวิวเคล็ดลับการเรียนดี ๆ ไว้ให้น้อง ๆ ไว้เก็บไปใช้ในการเตรียมตัว เผื่อว่าจะเป็นส่วนที่ช่วยน้อง ๆ ได้ เราไปดูกันดีกว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
 

การค้นหาตัวเองกับคณะในฝัน
 

พี่เป็นคนที่ชอบดูหนังมาตั้งแต่เด็กค่ะ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ชอบก็คือชอบ ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบหลายอย่าง แต่พอโตขึ้น ความชอบหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป แต่ความชอบที่ยังเหมือนเดิมและเผลอ ๆ มากขึ้นคือชอบดูหนัง เลยคิดว่าถ้าเราได้ทำงานกับสิ่งที่ชอบเราคงมีความสุข การมาเรียนคณะวารสารศาสตร์ก็เหมือนเป็นก้าวแรกที่จะต่อยอดให้เราไปทำงานในอนาคตได้ค่ะ แล้วก็ชอบธรรมศาสตร์คงเพราะทั้งคุณแม่และพี่ชายเรียนค่ะ พอมารับพี่ชายที่หอบ่อย ๆ ก็เหมือนซึมซับไปเรื่อย ๆ แล้วก็คิดว่าถ้าได้มาเรียนที่นี่คงจะดี แล้วก็มีวันนั้นจริงๆ ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ

เคล็ดลับในการเรียนและการอ่านหนังสือสอบ
 

จริง ๆ เราก็ไม่ใช่เด็กเก่งอะไร ไม่เคยได้ที่ 1 เลย เต็มที่ก็ท็อปเท็น แต่เราก็ตั้งใจเรียนในห้องนะ แล้วก็อ่านหนังสือก่อนสอบอย่างน้อยวิชาละครั้ง ติวกับเพื่อน ๆ ก่อนสอบ ส่วนเรื่องการอ่านหนังสือสอบ ทุกคนก็จะมีสไตล์การอ่านไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านที่บ้าน บางคนชอบอ่านข้างนอก ตามร้านกาแฟ ห้องสมุดงี้ อย่างเราเราอ่านได้ทุกที่ แต่ถ้าอัดทั้งวัน เราจะมึน เวลาอ่านเราจะมีเวลาพักระหว่างอ่านบ้าง อาจจะแว้บไปทานขนม ดูหนังบ้าง ให้ไม่เครียดจนเกินไปแล้วก็ค่อยกลับมาอ่านต่อ สมองจะแล่นกว่า
 

สำหรับเคล็ดลับการเตรียมตัวสอบในแต่ละวิชาที่ต้องใช้คะแนนในการสอบ คะแนนที่เราใช้ยื่นวารสารศาสตร์ฯ มี GAT O-NET แล้วก็ GPAX แต่เราจะทุ่มไปที่ GAT เพราะมัน 50% เลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราทิ้ง O-NET นะ เพราะมันติดตัวเราไปตลอด555 ส่วนคะแนนที่เราได้ก็คือ ส่วนคะแนนที่เราได้ก็คือ GPAX 3.64 O-NET 334.55 GAT 284.17 ค่ะ เรามีเคล็ดลับการเตรียมตัวในแต่ละคะแนนสอบมาฝากด้วย ไปดูกันเลย

O-NET

เราโหลดข้อสอบเก่ามาทำซึ่งช่วยได้เยอะมาก ๆ แล้วก็ไปเรียนพิเศษบ้าง ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเรียนที่ไหนก็ลองไปทดลองเรียนดูว่าเราชอบสไตล์การสอนของที่ไหนเพราะแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกัน แล้วแต่คนว่าอยากจะอ่านเองหรือเรียนพิเศษเอาซึ่งก็ได้ผลทั้งคู่

GAT ไทย (เชื่อมโยง)
ถ้าเข้าใจวิธีทำแล้วจะไม่ยากเลย แต่ตอนแรกอาจจะงงว่าต้องเชื่อมอะไรยังไง ตอนเริ่มเราก็งงมาก แต่พอลองทำไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มจับทางได้ละ แล้วมันก็จะมีแพทเทิร์นที่ซ้ำกันอยู่

GAT อังกฤษจะมีหลายพาร์ท แบ่งตามนี้

1. Speaking : จะเป็น Conversation มีทั้งบทสนทนาสั้น ๆ โต้ตอบกันสองประโยคและยาวเป็นไดอะล็อก ไม่ยาก พาร์ทนี้ถ้าเก็บครบได้จะดีมาก พวกสำนวนการพูดคุยอ่านไว้หน่อยก็ดีค่ะ

2. Vocabulary : พาร์ทนี้ก็จะมีย่อยลงไปอีก คือ

- 2.1 Odd one out : เลือกศัพท์ที่ความหมายไม่เหมือนข้ออื่น

- 2.2 Meaning Recognition : เขาจะให้ประโยคโจทย์มาแล้วขีดเส้นใต้ศัพท์คำนึงไว้ อย่างที่รู้กันว่าศัพท์คำนึงมีได้หลายความหมาย แต่เราต้องเลือกข้อที่ศัพท์คำนั้นความหมายตรงกับโจทย์

- 2.3 Meaning in Context : จะเป็นพารากราฟสั้น ๆ ประมาณสองสามบรรทัดแล้วจะเว้นช่องไว้สองช่อง ต้องเลือกคำที่ถูกต้องใส่ลงไป มันจะยากตรงที่เราไม่รู้ศัพท์ไม่ก็ความหมายศัพท์ใกล้เคียงกัน ต้องดูดี ๆ

Vocab เป็นอะไรที่ถ้ารู้ก็คือรู้ ถ้าไม่รู้ก็คือไม่ได้เลย บางทีอาจจะเคยเห็น คุ้น ๆ แต่จำไม่ได้ แล้วการมานั่งท่องศัพท์บางทีมันน่าเบื่อ แล้วก็จำไม่ได้อีก สำหรับเราเรามี 2 วิธี วิธีแรกคืออ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ดูหนังซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ เล่นเกมเป็นภาษาอังกฤษ อะไรแบบนี้ เพราะมันจะสนุกแล้วก็จะจำได้เอง หลายคำที่เราเจอในพวกนี้แต่ไม่เคยเจอในห้องเรียน แต่วิธีนี้ใช้สำหรับมีเวลาเยอะ เก็บสะสมไปเรื่อย ๆ วิธีสองหรือวิธีด่วนๆก็ไม่พ้นทำข้อสอบเก่า ทำแบบย้อนหลังไปหลาย ๆ ปี บางทีศัพท์อาจจะมีซ้ำก็ได้ แล้วเราก็จะชินกับการทำข้อสอบด้วย

3. Reading : เมื่อก่อนเราเคยชอบพาร์ทนี้เพราะยังไงคำตอบมันก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว แต่มันเป็นพาร์ทที่ใช้เวลานาน หลายคนมีวิธีทำต่างกันไป บางคนอ่านโจทย์ก่อน บางคนอ่านเนื้อหาก่อน ต้องลองทำดูว่าเราทำแบบไหนแล้วเวิร์ค

4. Structure and Writing : ต้องแม่นแกรมมาร์พอสมควร มีแยกย่อยอีก คือ

- 4.1 Error : อันนี้วัดไวยากรณ์เต็ม ๆ แกรมมาร์ คำ ความหมาย การใช้ ต้องฝึกทำเยอะ ๆ พอทำเยอะ ๆ เราจะเห็นว่าบางทีแพทเทิร์นมันก็จะซ้ำ โครงสร้างต่าง ๆ รูปประโยค พวกข้อยกเว้นอ่านไว้หน่อยก็ดี

- 4.2 เติมประโยคให้สมบูรณ์ : จะเป็นประโยคยาว ๆ มาให้แล้วก็ให้เติมคำที่ถูกต้องลงไป อาจจะเป็นพวกบุพบท การใช้คำ ผัน verb

- 4.3 เรียงประโยค : เป็นพาร์ทที่ยากเลย เรียงผิดนิดเดียวผิดเลย ต้องดูความหมายดี ๆ

อุปสรรค์ที่ต้องเจอและผ่านไปให้ได้
 

ความกดดันทั้งจากตัวเองแล้วก็คนรอบตัวค่ะ เราอาจจะเห็นเพื่อนติดกันไปก่อนแล้ว อาจจะมีคนถามว่าทำไมยังไม่ติดมหาวิทยาลัยอีก แต่เราต้องอย่ากดดันตัวเอง ติดช้าก็คือติดเหมือนกัน แล้วเราก็จะได้ที่ที่เราอยากได้จริง ๆ ด้วย ไม่ต้องเครียด คิดบวกไว้ แล้วมันจะเป็นผลดีกับการอ่านหนังสือสอบด้วย

รีวิวหนังสือที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบให้ติด

คณะวารสารฯ รอบ Admission มีการยื่นคะแนน 3 แบบ คือ

- พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 1 (GAT ล้วน) (เรายื่นรูปแบบนี้ค่ะ)

- พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 2 (GAT, PAT7)

- พื้นฐานวิทยาศาสตร์ (GAT, PAT1)

GAT เชื่อมโยง

เราขอแนะนำหนังสือ GAT ไทยของอ.ขลุ่ย เราซื้อมาทำเป็นเล่มแรกแล้วเราก็เข้าใจเลย จะมีวิธีทำอยู่ข้างหน้าแล้วที่เหลือเป็นแบบฝึกหัด เวลาฝึกทำก็ลองจับเวลาดูว่าทำทันไหม ทำเหมือนสอบจริงไปเลย เวลาสอบจริงจะได้ตื่นเต้นน้อยหน่อย

แต่ถ้าอยากฝึกยาก ๆ ขึ้นมาอีกลองดูเล่ม Mastering GAT connect test แต่เราไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่หรือเปล่า

GAT ภาษาอังกฤษ

เราทำสองเล่มนี้ ยากพอสมควร สำหรับคนที่อยากจะโหลดข้อสอบเก่า ก็สามารถโหลดมาทำได้นะ

สุดท้ายพี่อยากบอกว่าตอนพี่อยู่ม.ปลาย พี่ก็คิดว่ารุ่นพี่ที่ติดมหาวิทยาลัยเก่งจัง แล้วก็เครียดว่าเราจะทำได้อย่างพี่ ๆ เขาไหม แต่พอมาถึงเวลาที่เราต้องสอบเอง เราก็ทำได้นะ เราทำให้ดีที่สุดของเราก็พอ พี่ไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่งทุกวิชา ไม่ได้ได้ที่ 1 ของห้อง แต่พี่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร พี่ว่าถ้าเราชอบอะไรเราจะทำมันได้ดีนะ ลองหาตัวเองให้เจอ ถามว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าต้องอยู่กับมันในมหาวิทยาลัยไป 4 ปี แล้วก็ทำงานกับมันในอนาคตโอเคไหม อย่ากดดันตัวเองจนเกินไป คลายเครียดบ้าง หาเวลาพักผ่อน ทำอะไรที่ชอบ สู้ ๆ นะคะ ถ้าพี่ทำได้น้อง ๆ ทุกคนก็ทำได้อยู่แล้ว