5,632 views
Favorite
สวัสดีค่ะ วันนี้ “พี่พิงค์” จะพาน้อง ๆ มารู้จักกับ “กิจกรรมรับน้องก้าวใหม่” ซึ่งก็คือกิจกรรมรับน้องปี 1 ที่เข้ามาในรั้วจามจุรี เป็นกิจกรรมแรกและกิจกรรมเดียวที่รวมน้องจากทุกคณะ ก่อนที่น้องจะเข้าสู่กิจกรรมรับน้องแยกตามคณะของตัวเองนั่นเองค่ะ
พี่ซัน: บ้านโจ๋เป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในจุฬาฯ ตั้งมายาวนานถึง 26 ปีและก็เป็น 1 ใน 2 บ้านแรกของจุฬาฯ
พี่พร: บ้านโจ๋มีสีประจำบ้านคือสีแดง เป็นบ้านไซด์ L ที่ใหญ่ที่สุด คนก็จะเยอะมาก ๆ น้องก็จะได้รู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มเยอะแยะเลยค่ะ
พี่ซัน: บ้านโจ๋จะโดดเด่นในเรื่องของการเต้นสันทนาการและนอกจากนั้นยังมีกิจกรรมที่จะทำให้น้อง ๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่จากต่างคณะกันมากขึ้น เรายังมีโชว์บ้านโจ๋ซึ่งพี่ ๆ เตรียมไว้เซอไพรซ์น้อง ๆ ในทุกปี รับรองว่าตลอดระยะเวลาสามวันน้อง ๆ จะได้รับความสนุกอย่างเต็มที่แน่นอน
พี่พร: หลังจากจบงานรับน้องแล้ว เราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น้อง ๆ สามารถมาเข้าร่วมกันได้ อย่างเช่น First Meet ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้น้อง ๆ ได้กลับมาเจอเพื่อน ๆ พี่ ๆ บ้านโจ๋อีกครั้ง และก็ยังมีทริปต่าง ๆ ให้พวกเราได้มีโอกาสรวมตัวกันไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กันอีกด้วย
พี่ซัน: สิ่งที่ได้รับจากงานรับน้องก้าวใหม่เมื่อปีที่เเล้ว คือความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับจากพี่ ๆ สตาฟ เมื่อปีที่เเล้ว เลยรู้สึกว่าอยากจะส่งต่อความรู้สึกที่ดีนี้ต่อไปให้น้อง ๆ รุ่นต่อไป
พี่พร: จุดเริ่มต้นเริ่มมาจากการอยากท้าทายตัวเอง ฝึกทักษะความเป็นผู้นำ รวมถึงการที่อยากจะส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้น้องรุ่นถัด ๆ ไป
พี่ซัน: งานมันเริ่มตั้งเเต่ช่วงเตรียมบ้านเลยครับ ในช่วงเเรกเราต้องพยายามดึงเพื่อน ๆ ให้เข้ามาทำบ้านกับเราให้ได้ก่อน เราถึงจะตั้งทีม ที่เรียกว่าทีมสตาฟได้ ในช่วงเเรกๆจะเป็นช่วงที่ยากที่สุดสำหรับเราเลย เพราะเราต้องเป็นคนเริ่มเพื่อที่จะให้เพื่อนๆตาม เเต่หลังจากนั้นมันก็จะสนุกขึ้นเรื่อย ๆ
พี่พร: เราต้องวางแผนในการดึงเพื่อน ๆ ที่เราแทบไม่รู้จักมาทำบ้านด้วยกัน ซึ่งการวางแผนก็ได้รับคำปรึกษาจากรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ทำบ้านมาก่อน อย่างที่ซันบอกว่ามันเป็นช่วงแรกมันเป็นเวลาที่ยากและเหนื่อยมาก ๆ เพราะมันคือการวางรากฐานของบ้าน ถ้าเสาบ้านไม่แข็งแรงก็ไม่สามารถทำบ้านให้เป็นบ้านได้
พี่ซัน: พอได้มาทำบ้าน เรารู้สึกว่าเราได้อะไรมากเลย ถ้าเป็นเรื่องการทำงาน เราก็ได้ความเป็นผู้นำ กล้าที่จะคิด กล้าที่จะตัดสินใจมากขึ้น เเต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเราได้ “ครอบครัว” ที่เราใช้คำว่าครอบครัว เพราะเพื่อนที่ได้มาจากการทำบ้านมันไม่ใช่เเค่เพื่อน มันเป็นคนที่เราผ่านทุกข์ ผ่านสุขมาด้วยกัน มันจึงทำให้พวกเรารักกันเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเลย
พี่พร: อย่างแรกที่ได้เลยคือ มิตรภาพ เพราะตั้งแต่แรกที่เราได้เป็นน้องบ้านเราก็ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างคณะ ยิ่งมาเป็นพี่บ้านก็ทำให้เรารู้จักกับเพื่อนแบบใกล้ชิดมากขึ้น ทำงาน สร้างสีสัน ความสนุกไปด้วยกัน รวมถึงการเรียนรู้ที่จะได้ทำงานกับรุ่นพี่โจ๋รุ่นอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือเราได้รู้จักเพื่อนต่างบ้านอีกด้วยเพราะเราต้องคอยประสานงานกับบ้านอื่น ๆ ในจุฬาฯ
พี่ซัน: ก้าวเเรกที่น้องเข้ามหาวิทยาลัยมา น้องยังไม่รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ เลย บ้านรับน้องนี่เเหละจะเป็นสื่อกลางที่ทำให้น้องได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น ก็อยากจะฝากบ้านโจ๋ไว้ในใจของน้องที่กำลังคิดเลือกบ้านด้วยนะครับ ความรู้สึกดี ๆ ที่เราส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น กำลังรอให้น้อง ๆ มารับไปนะครับ
พี่พร: อยากจะบอกว่าบ้านโจ๋เป็นบ้านที่มากกว่าบ้านรับน้อง เพราะบ้านเราเป็นครอบครัว และทุก ๆ ปีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็จะกลับมา เป็นที่ปรึกษา คอยดูแลเราไปเรื่อย ๆ จนเราก้าวออกไปทำงาน สิ่งเหล่านี้จะเกิดไม่ได้แน่ ๆ ถ้าเราไม่มีความผูกพันกันหรือสนิทกันภายในบ้าน อย่าลืมฝากติดตาม เพจบ้านโจ๋จุฬาฯ และ #ติดจุฬาฯมาบ้านโจ๋ด้วยนะ
นี่ก็เป็นอีกมุมนึงของกิจกรรมบ้านรับน้องในจุฬาฯ กว่าพี่ ๆ จะเตรียมตัวทำบ้านรับน้องขึ้นมาแต่ละบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านไหนก็ตาม พี่บ้านทุก ๆ คนในจุฬาฯรับรองได้เลยว่าทุก ๆ บ้านจะสามารถมอบทั้งความสนุกและความอบอุ่นให้น้อง ๆ อย่างแน่นอน
เรื่อง : พิชญา วัชโรดมประเสริฐ
