“แค่เสียงพล่อยๆ ที่ลอยออกไป เธอรู้บ้างไหมมันทรมาน” เนื้อเพลงโดนๆ บวกกับน้ำเสียงขั้นเทพของ “พัดชา AF2” หรือ พัดชา อเนกอายุวัฒน์ ยิ่งทำให้เพลงนี้หรือเพลงไหนๆ ที่เธอร้องเพราะเข้าไปใหญ่ ความสามารถของนักล่าฝันคนนี้ไม่ได้เริ่มต้นขึ้นที่บ้านเอเอฟ แต่บ่มเพาะจากหัวใจที่รักดนตรีจนมุ่งเดินทางสายนี้มาตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย
อะไรที่ทำให้พัดชาเลือกเรียนทางด้านดนตรี
ก่อนหน้านี้พัดไม่เคยเรียนดนตรีแบบจริงจังเลย แต่ชอบร้องเล่นๆ มาตั้งแต่เด็ก พอขึ้น ม.ปลาย เด็กทุกคนก็ต้องถามตัวเองว่าจะเรียนอะไร เข้าคณะอะไร จบแล้วจะทำงานอะไร พอมาเจอวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ที่มหิดลเพิ่งเปิดก็สนใจหาข้อมูล เลยรู้ว่ามี Pre-College ด้วย คือเป็นเหมือนชั้น ม.4 ม.5 ม.6 เพื่อเตรียมพื้นฐานทางดนตรี และสามารถเข้าเรียนตอน ม.6 ได้เลย อย่างเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันส่วนใหญ่จะเรียนไวโอลิน เรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก เขาก็จะมีพื้นฐานมากกว่า พัดก็เลยสอบเข้า ม.6 ไปเตรียมตัวแบบจริงจังก่อนเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ
คุณสมบัติสำคัญของคนเรียนดุริยางคศิลป์คืออะไร
ต้องมีคุณสมบัติของนักดนตรี ถ้าคุณรักมันจริงๆ ต้องมีใจและต้องอดทนให้ได้ พัดโชคดีตรงที่เป็นนักร้อง เราสามารถที่จะซ้อมที่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเพื่อนๆ สมมติว่าเรียนดับเบิ้ลเบส เปียโน เรียนเครื่องที่ต้องอยู่ในห้องซ้อม เขาต้องอยู่คณะทั้งวันยันค่ำ นอกจากอดทนแล้ว ต้องมีความเข้าใจ ถ้าเราขาดความเข้าใจในเพลงหรือในสิ่งที่เรากำลังแสดงอยู่ เสน่ห์มันจะลดลงไป และที่สำคัญไปอีกขั้นหนึ่งคือต้องมีความเป็นทีมเวิร์ค การเรียนดนตรีจะต้องช่วยเหลือดูแลกันเพราะว่าเด็กหนึ่งคนไม่สามารถเก่งทุกวิชาที่เราเรียน วงดนตรีก็ต้องอาศัยนักดนตรีทุกประเภทถึงจะแสดงได้ดีค่ะ
เป็นคณะดนตรีในมหาวิทยาลัยที่เน้นวิทยาศาสตร์ ทำกิจกรรมอะไรบ้างคะ
มหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณะเครียดๆ ค่อนข้างเยอะ เขาก็จะเนี้ยบมาก ตอนขึ้นแสตนด์งานเฟรชชี่ไนท์ คณะอื่นเขาก็จะมีบูมมีอะไรไล่กันไป แต่คณะพัดเป็นคณะที่บันเทิงมาก จะไม่มีการมานั่งเชียร์แบบหน้านิ่งๆ แต่จะเป็นการเล่นคอนเสิร์ตปิดท้ายของเฟรชชี่ไนท์ค่ะ ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ
พัดว่ามี 3 อย่างที่ทำให้เราอยู่ในอาชีพหนึ่งนานๆ โดยเฉพาะวงการบันเทิง ความสามารถ โอกาส และดวง ความสามารถ แน่นอนดวงเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม โอกาสหมายถึงคอนเน็คชั่นหรือการที่เราไปอยู่ในจุดที่มีคนเห็น ส่วนสำคัญที่สุดน่าจะเป็นฝีมือ ถ้าคุณไม่มีตรงนี้จะไม่สามารถเริ่มอะไรได้ทั้งสิ้น หลังจากนั้นคิดว่าน่าจะต้องขวนขวายเดินไปในทางที่มีโอกาสมากที่สุดค่ะ
พื้นฐานการเรียนดนตรีช่วยให้เราได้โอกาสเข้าบ้านเอเอฟด้วยไหม
พอเข้าไปออดิชั่นเจอครูบิ๊ก (ธานัท ธัญญหาญ) ซึ่งครูบิ๊กก็เรียนปริญญาโทอยู่ที่ดุริยางคศิลป์ด้วย พอเห็นประวัติเราก็ถามว่าเรียนดนตรีอยู่แล้ว จะเข้ามาเรียนอะไรในบ้านเอเอฟ ก็เลยกลายเป็นว่า อุ๊ย! งานเข้า แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาจะต้องตั้งมาตรฐานขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่งเพราะถือว่าเรามีต้นทุนมาก่อนคนอื่น ก็ต้องสอบยากขึ้นค่ะ
อยากให้พัดชาแนะนำน้องๆ ที่สนใจเรียนคณะดุริยางคศิลป์ ม.มหิดลค่ะ
ตอนนี้พัดเห็นเด็กรุ่นใหม่ๆ ยิ่งรุ่นน้องที่คณะเก่งมาก ถ้าสมมติว่าทำแล้วมีความสุข พัดเชื่อว่าคุณจะพัฒนาไปได้อีกไกลมากค่ะ แต่ว่าต้องอย่าท้อแท้กับพื้นฐานอันแสนน่าเบื่อ อีกอย่างที่สำคัญสำหรับพัดคือการวางทัศนคติที่ดีก่อน เพราะว่าคนที่เรียนได้ 4.00 ไม่ได้หมายความว่าคนนี้ฉลาดเสมอไป บางทีความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ถ้าเปิดใจเรียนรู้ก็จะดีกับตัวคุณและคนรอบข้างรวมถึงสังคมด้วยค่ะ
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล |