ตอนนี้น้อง ๆ คงวุ่นวายกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ หลายคนคิดว่าการสอบติดมหาวิทยาลัยคือด่านสุดท้ายของชีวิต ไม่ต้องเครียดอะไรอีกแล้ว แต่ขอบอกเลยว่า มหาวิทยาลัยไม่ใช่จุดสุดท้ายของชีวิต เรายังต้องวางแผนพัฒนาตัวเองเรื่อย ๆ การวางแผนเตรียมตัวก่อนคนอื่น มีการวางแผนที่ดี ก็จะได้เปรียบกว่าคนอื่น วันนี้พี่มี 4 ข้อแนะนำให้น้อง ๆ รู้ไว้ว่าวางแผนอย่างไรจึงจะใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยคุ้มค่าที่สุด

1. ปิดเทอม อย่าปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์

หลังจากเรียนมาเหนื่อยทั้งปี ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่น้อง ๆ หลายคนตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะหยุดพักผ่อน ไม่ต้องทำการบ้าน ไม่ต้องอ่านหนังสือ แต่รู้มั้ยว่ามีบางคนกลับเอาช่วงนี้หยุดพักผ่อนเหล่านี้ไปทำกิจกรรมดี ๆ ให้สังคม ไปทำค่ายอาสา ไปประกวดล่ารางวัล หาตังใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ ได้ไปรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ แต่บางคนกลับเอาเวลานี้ไปฝึกปรือ ลับคมมีดตัวเองให้เก่งขึ้น จนเปิดเทอมมาเพื่อน ๆ เห็นศักยภาพตกใจเป็นแถวเลยว่าไปทำอะไรมาถึงเก่งขึ้นขนาดนี้

2. หาสิ่งที่ใช่จากกิจกรรมมหาวิทยาลัย

ในรั้วมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยกิจกรรม ชมรมต่าง ๆ มากมายให้เลือกเข้าไป ทั้งชมรมฟุตบอล ชมรมบาส ชมรมวอลเลย์ ชมรมดนตรี ชมรมถ่ายภาพ ชมรมค่ายอาสาพัฒนาชุมชน ชมรมนั่งสมาธิ และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการเรียน นอกจากนี้อาจเป็นสตาฟ์กิจกรรมของมหาวิทยาลัย สโมรสรนักศึกษา จะได้เรียนรู้การทำงานกับผู้อื่น และยิ่งไปทำกิจกรรมเยอะ ยิ่งได้เรียนรู้เยอะ ซึ่งนี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ค้นหาตัวเองเจอง่าย ๆ อีกทาง

3. เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศ

ทุนฟรีแลกเปลี่ยนไปต่างประเทศแบบเต็มจำนวนมีเยอะมาก ถ้าใครมีโอกาสได้ไป ขอแนะนำว่าไปนะ รีบคว้าโอกาสดี ๆ นี้ไว้ ทุนเหล่านี้ออกตั้งให้ตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าสอบ ค่าเทอม เรียกว่าคุ้มแบบสุด ได้ไปเที่ยวฟรี มีประสบการณ์ชีวิตใหม่ ๆ ในต่างเดิน และยังได้เพื่อนใหม่กลับมาอีกด้วย การไปต่างประเทศจะช่วยเปิดโลกของให้กว้างขึ้น ช่วยทำให้มีมุมมอง ทัศนคติ ความคิดที่ยาวไกลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง บางคนได้ภาษากลับมา มาเปิดสอนเป็นติวเตอร์ หารายได้พิเศษอีกช่องทางหนึ่งเลยนะ

4. ฝึกงานเพิ่มประสบการณ์ลงพอร์ตโฟลิโอ

ฝึกงานไม่จำเป็นเฉพาะเด็กปี 4 เท่านั้นแล้วนะเดี๋ยวนี้ เด็กปีไหนก็สามารถไปฝึกงานได้ ถ้าน้อง ๆ อยากลอง อยากรู้ว่าอาชีพที่ใฝ่ฝันว่าอยากทำในอนาคตทำงานยังไง ต้องลองไปทำจริงถึงจะรู้ ซึ่งน้อง ๆ สามารถติดต่อกับบริษัทที่จะฝึกงานได้โดยตรงเลยนะ ทำเอกสารไปให้ทางบริษัท การฝึกงานจะช่วยทำให้โตขึ้น รู้กระบวนการทำงาน ฝึกแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างทำงาน ตอนนั้นมันอาจจะเหนื่อย ท้อแท้ แต่สุดท้ายสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้น้อง ๆ กลับมาแกร่งและเก่งกว่าคนอื่น แถมเวลาต้องไปสมัครงานจริง จะช่วยทำให้พอร์ตโฟลิโอน่าสนใจมากขึ้น จนนายจ้างต้องหยิบขึ้นมาดูเลย

เรื่อง : พิชญา เตระจิตร