Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
[รีวิว] สถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น สถาบันเล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่เดียวในไทย

  Favorite

หากพูดคำว่า “ไทย - ญี่ปุ่น” น้อง ๆ หลายคนอาจจะนึกถึงสนามกีฬาแถว ๆ ดินแดงที่มีคนมาเตะฟุตบอลหรือวิ่งออกกำลังกาย และอาจจะงงว่าตกลงจะแนะนำการออกกำลังกายรึเปล่า ? หากน้อง ๆ คิดอย่างนั้นพี่ขอบอกเลยว่า “You Don’t Have สติมาก” เพราะที่นี่ไม่ใช่สนามกีฬา แต่ที่นี่คือสถาบันการศึกษาที่ให้น้องได้เรียนทั้งวิชาชีพ พร้อมกับทักษะภาษาญี่ปุ่นที่เข้มข้น จนเหมือนหลุดมาอยู่เมืองปลาดิบที่อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

สวัสดีครับน้อง ๆ ชาวปลูกปัญญาทุกคน ก่อนอื่นพี่ขอแนะนำตัวก่อน พี่ชื่อ “พี่โบ๊ท” ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่นนี้เอง ในช่วงแอดมิดชั่นอย่างนี้ น้อง ๆ หลายคนคงกำลังมองหามหาวิทยาลัยที่ตอบสนองความต้องการของตนเองอยู่ ซึ่งอาจจะมีทั้งรัฐและเอกชน น้อง ๆ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “สถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น” มากันบ้างแล้ว วันนี้พี่เลยจะมารีวิวสถาบันฯ ให้น้อง ๆ ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มาดูสิว่า สถาบันลูกครึ่งแดนปลาดิบย่านพัฒนาการแห่งนี้ จะเป็นอย่างไร !

 

What is ไทย - ญี่ปุ่น ?

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

“สถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น” (พี่ขอเรียกสั้น ๆ ว่าไทย - ญี่ปุ่น แล้วกันเนาะ) ที่แห่งนี้เนี่ย ตั้งแต่ก่อตั้งจนมาถึงทุกวันนี้ก็ประมาณ 11 ปีแล้วหละ ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ โดยเราเป็นสถาบันเล็ก ๆ ที่อบอุ่น ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่า “สถาบัน” แต่เราก็เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษา เอาง่าย ๆ ก็คือระดับปริญญาตรีเทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยดัง ๆ อื่น ๆ นั้นแหละ โดยเราเน้นการเรียนการสอนแบบ “Monodzukuri” ของญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่เรียนในห้องเรียน แต่เน้นให้ได้ปฏิบัติจริง ๆ ตามหลักปรัชญาที่ว่า “สร้างนักคิด ผลิตนักปฏิบัติ” นั้นเอง ซึ่งตอนนี้ TNI ของเรามีทั้งหมด 3 คณะ ซึ่งประกอบด้วย คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสาขาวิชาที่ทางบริษัทญี่ปุ่นเขาต้องการในตลาดแรงงานญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และนอกจากนักศึกษาของเราจะมีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาชีพแล้ว ยังสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ดีด้วย ทำให้มีสถิติที่ว่า จบไปมีงานทำแน่นอน 100% เห็นไหม ของเขาดีมีคุณภาพ ฮ่า ๆ หากอยากรู้ข้อมูลของสาขาวิชาต่างๆ ก็คลิ๊กดูได้เลย www.tni.ac.th (มีความ Hard sale สุด ๆ ฮ่า ๆ )

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

รวมหอพักเด็ดรอบสถาบัน

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

เอาจริง ๆ ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย น้อง ๆ ต้องสลัดคาบคุณหนูที่ล้างจานไม่เป็น เจอน้ำเย็นแล้วร้องกรี๊ดออกไปให้หมด เพราะหลังจากหนูก้าวข้ามรั้วมหาวิทยาลัยเข้ามาแล้ว คำว่าลูกคุณหนูจะไม่สามารถ Survival อีกต่อไป หลายคนกำลังคิดในใจว่าพี่นี่โม้เปล่า หึ! ถ้าไม่ลองก็จะไม่รู้บอกเลย เรามารีวิวกันดีกว่าเผื่อน้อง ๆ จะเตรียมตัวเตรียมใจได้ทัน

 

มาเริ่มต้นที่ “ชีวิตเด็กหอ” ถ้าพูดถึงเรื่องหอต้องบอกไว้ก่อนว่าไทย - ญี่ปุ่นของเราเนี่ยไม่มีหอใน เรามีแต่หอที่อยู่โดยรอบสถาบันฯ ซึ่งเรทราคาก็ตกอยู่ที่ 3,000 - 10,000 บาท/ต่อเดือน ไม่รวมน้ำไฟ แต่ห้องก็ต่างกัน ว่าจะมีเฟอร์นิเจอร์ มีแอร์หรือพัดลม ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่แบบไหน ส่วนเทคนิคการเลือกหอเนี่ยพี่แนะนำให้เรา Walk In เข้าไปเลย อย่าหลงเชื่อรูปภาพในอินเตอร์เน็ต เพราะเราไม่สามารถนิมิตได้ว่าภาพนั้น เวิร์คสุด ! สำหรับหอที่แนะนำก็จะเป็นหอที่ใกล้ ๆ สถาบันฯเลย เพราะตอนที่เราตื่นสายจะได้วิ่งทัน (ซึ่งพี่เป็นบ่อย ฮ่า ๆ) โดยใกล้ ๆ สถาบันจะมีทั้ง หอหญิง หอชาย หอรวม อยากรู้ว่ามีหออะไรบ้าง คลิกนี้เลย รวมข้อมูลของหอพักเราไว้ทั้งหมดแล้ว http://studentaffairs.tni.ac.th/home/?page_id=199 และถ้าหากน้องไม่ไหวเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องหอเนี่ย พี่แนะนำให้หารูมเมทมาช่วยหารค่าห้อง ซึ่งหลายคนอาจจะถามว่าแล้วจะไปหาจากไหนได้ เอาเวลาไหนหา บอกเลยว่าไม่ยากเราจะมีการเรียนปรับพื้นฐาน ซึ่งตรงนี้น้อง ๆ จะได้พบเพื่อนที่อยู่ในคณะเดียวกัน ถูกใจใครก็เข้าไปถามเลย “เธอ ๆ มีหอหรือยัง ” แค่เนี่ยหาไปเดี๋ยวก็เจอ แต่พี่แนะนำให้หาคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกับเรา เช่น ตื่นนอนเวลาพอ ๆ กัน นอนเวลาเดียวกัน เพราะเรื่องนอนในชีวิตเด็กมหาลัยนี้ช่างอ่อนไหวนัก และถ้าน้องหารูมเมทที่เข้ากับเราได้ ชีวิตเด็กหอของน้องก็จะ Happy Very much !

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

สำหรับที่พักช่วงสอบสัมภาษณ์ หากน้อง ๆ เป็นเด็กต่างจังหวัด แล้วต้องการมาค้างคืนที่กรุงเทพฯก่อนวันสอบ รอบสถาบันก็มีที่พักรายวันคอยบริการ โดยวันนี้พี่ขอแนะนำที่พักที่ได้รับความนิยมสำหรับเด็กต่างจังหวัดในช่วงการสอบสัมภาษณ์มาฝาก

- CNK Mansion เป็นอพาทเม้นท์ ที่ตั้งอยู่สุดซอย พัฒนาการ 40 มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารตามสั่ง ร้านค้ามินิมาท สระว่ายน้ำ ฟิตเนต แต่อาคารอาจจะเก่านิดนึง โดยเรทราคาอยู่ที่ประมาณ 750 บาท/วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0859101970

- เกรย์สเกล ช็อตแอนด์ลองสเตย์ ตั้งอยู่ที่ซอย รามคำแหง 24 แยก 6 เป็นห้องพักเปิดใหม่มีบริการทั้งรายวัน สำหรับห้องพักรายวัน ค่าบริการราคาอยู่ที่ 500 - 700 บาท/วัน

- หอพักรุ่นพี่ ต้องใช้คำว่าความน่าสงสารเข้าสู้ อิอิ แบบหากน้อง ๆ รู้จักพี่ ๆ คนไหนที่เรียนอยู่ที่นี้ก็อาจจะใช้ความน่าสงสารไปขอค้างด้วยสักคืน ซึ่งน้อง ๆ หลายคนอาจจะมีรุ่นพี่จากโรงเรียนเก่าที่เรียนอยู่ที่นี่ ก็ใช้ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องให้เป็นประโยชน์ พักเสร็จแล้วก็อย่าลืมขอบคุณพี่ ๆ เขาด้วยนะ

 

บรรยากาศการเรียนในสถาบัน

ขอบคุณภาพจาก ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์และจัดหาทุน TNI

 

มาที่ “ชีวิตเด็กเรียน” ถึงแม้ว่าไทยญี่ปุ่นของเราเนี่ยจะเป็นสถาบันเอกชน ที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนคิดว่าเข้าง่ายจบง่าย ซึ่งคำนี้เนี่ยใช้ไม่ได้กับสถาบันฯของเรา เนื่องจากที่นี่ “เข้ายาก จบก็ยาก” ในการเข้ามาต้องมีการคัดเลือกทั้งรอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ โดยที่หากได้คะแนนสูง ๆ ก็มีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษาตลอดสี่ปี กว่า 50 ทุน ส่วนที่บอกว่าจบยากเพราะว่า สถาบันฯของเราเป็นสถาบันน้องใหม่ที่ต้องป้อนทรัพยากรมนุษย์ให้แก่องค์กร บริษัทญี่ปุ่น จึงต้องสร้างมาตรฐานนักศึกษาที่ดีเพื่อเป็นความเชื่อมั่นแก่น้องรุ่นหลัง ๆ แต่อย่ากังวลว่าจะไม่จบ เพราะที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัว อาจารย์ช่วยลูกศิษย์ รุ่นพี่ช่วยรุ่นน้อง ทุกครั้งก่อนสอบก็จะมีภาพบรรยากาศที่น่ารัก ๆ บริเวณใต้อาคารที่จะเต็มไปด้วยสำนักอาจารย์ต่าง ๆ ที่เปิดต้อนรับคนมาติวสอบ ราวกับว่าเปิด Section ใหม่กันเลยทีเดียว โดยสถาบันฯของเราเนี่ยมีที่รองรับนักศึกษาในการอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดซึ่งมี 2 ชั้น ใต้อาคารเรียน 2 อาคาร หรือแม้กระทั้งโรงอาหาร ในช่วงสอบก็สามารถมาอ่าน มาติวหนังสือได้ และที่ดังกล่าวก็เป็นที่นั่งอู้ เอ้ย ! นั่งพักระหว่างรอเรียนได้อีกด้วย

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

มาต่อกับ “ชีวิตเด็กเล่น” ชีวิตมันก็ต้องมีเล่นบ้างจะให้เรียนอย่างเดียวมันก็น่าเบื่อไป และที่นี่ก็มีกิจกรรมให้น้อง ๆ ได้ทำตลอดทั้งปี ไม่สิ ! ตลอดสี่ปีเลยก็ว่าได้ งั้นพี่จะขอยกตัวอย่างตอนปีหนึ่งและกันเนาะ เมื่อน้องก้าวเข้ามาน้องจะได้เจอกับกิจกรรมค่าย First Meet ของแต่ละคณะซึ่งจะมีชื่อต่างกัน ของบริหารก็จะชื่อ BA Camp วิศวะก็จะเป็น New Gear ส่วนเทคโนฯสาระสนเทศก็ตรงตัว IT Freshy Camp ซึ่งทั้งสามค่ายเนี่ยก็จะเป็นค่ายที่ให้น้อง ๆ ได้เข้ามารู้จักเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในคณะ มีกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สันทนาการ Walk rally และแต่ละคณะก็จะมีสไตล์และธีมการจัดที่ต่าง ๆ กัน ที่เด็ดที่สุดคือประสบการณ์ได้นอนค้างในสถาบันที่มีครั้งนี้ครั้งเดียวเลยก็ว่าได้ !

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

หลังจากจบค่ายก็จะเป็น “เทศกาลรับน้อง” แต่เดี๋ยวก่อน อย่าคิดว่าจะน่ากลัวเหมือนในข่าว ที่นี่เรายังคงคอนเซ็ปต์ คิคุอะโนเนะ อะไรแบบนี้ ฮ่า ๆ ซึ่งการรับน้องก็จะเป็นกิจกรรมสันทนาการ ส่วนใครกลัวกิจกรรมรับน้องว่าจะปลอดภัยรึเปล่า บอกเลยไม่ต้องกลัว เพราะทุกกิจกรรมที่เราทำ จะต้องผ่านกฎเกณฑ์ของทางกิจการนักศึกษา และอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์อย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 อาทิตย์ จะมีรุ่นและพี่อาจารย์คอยดูแลไม่ห่าง ไม่ต้องกลัวเลยจ้า และกิจกรรมที่ต้องทำต่อเนื่องทั้งปีคงหนีไม่พ้นกิจกรรม “ชมรม” ซึ่งตามนโยบายของกิจการนักศึกษาที่ว่า นักศึกษาทุกคนต้องอยู่อย่างน้อย 1 ชมรม ทางสถาบันฯก็มีชมรมด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น ชมรมละคร ชมรมพับกระดาษสไตล์ญี่ปุ่น เป็นต้น ด้านกีฬาและนันทนาการ เช่น ชมรมบาส ชมรมแบดมินตัน ชมรมดนตรีสากลเป็นต้น ด้านวิชาการ เช่น ชมรม Aisec ชมรมเกียร์ เป็นต้น ด้านสุดท้ายก็จะเป็นด้านชมรมอาสา ซึ่งจะมี 2 ชมรม คือ ชมรม Rotaract และชมรม Se-I นั้นเอง น้อง ๆ แต่ละคนสามารถอยู่ได้หลายชมรม แล้วแต่เวลาที่สะดวก และความชื่นชอบนั้นเอง

 

ร้านเด็ดรอบรั้วไทย - ญี่ปุ่น

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

พูดถึง “ของกิน” ที่ไทย - ญี่ปุ่น นอกจากมีโรงอาหาร 3 แห่งนั้นก็คือใต้อาคารบี โรงอาหารกลาง และใต้อาคารดี ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่อยากออกไปไหนไกล โดยภายในโรงอาหารก็ครอบจักรวาลอาหารที่โลกนี้มีอยู่ แล้วก็ราคาไม่แพงเริ่มต้นเพียง 25 บาทเท่านั้น และถ้าใครเบื่อโรงอาหารแล้ว ภายนอกสถาบันก็ยังมีศูนย์อาหารถึง 4 ที่ นั้นก็คือ

- เต้นท์อาหารข้างสถาบัน เป็นศูนย์อาหารที่อยู่นอกสถาบันฯที่ใกล้ที่สุด เพียงเดินออกจากรั้วแค่สองก้าวก็ถึงแล้ว ภายในจะมี อาหารตามสั่ง ส้มตำ ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ช่วงเที่ยงจะเป็นช่วงที่คนเยอะมาก ๆ เพราะตรงนี้เป็นที่ยอดฮิตสุดๆ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 35 บาท

- ศูนย์อาหารชววุฒิ เป็นศูนย์อาหารใต้หอหญิงชววุฒิ ซึ่งอยู่ตรงข้ามเต้นท์อาหารนี้เอง ตรงนี้มีร้านอาหารตามสั่ง และร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่เคียงคู่ เด็กไทย - ญี่ปุ่น มาหลายปี ซึ่งตรงนี้เนี่ยรสชาติอาหารถือว่าโอเคเลยทีเดียว กับราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท

- ศูนย์อาหารเจ๊น้อย เดินเลยเต้นท์และศูนย์อาหารชววุฒิมาทางด้านขวามือ จะเป็นศูนย์อาหารที่มีอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยว อาจจะมีที่นั่งน้อยกว่าสองที่ข้างบน แต่รสชาตินี้ถือว่าคุ้มที่จะรอ ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท

- ศูนย์อาหาร Univ Plaza เดินมาทางมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เกือบถึงปากซอย พัฒนาการ37 จะเป็นศูนย์อาหารที่มีหลากหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารฝรั่งพวกสเต็ก และก็อาหารตามสั่ง ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาทเช่นกัน

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

มาในส่วนของ “ที่เที่ยว ที่ shop” ย่านนี้มีที่เที่ยวอะไรบ้างนะ ? หากอยากได้ของใช้ภายในบ้านราคาย่อมเยาจะไปที่ไหนดี มาเลยจ่ะ มาดูไปพร้อมกันเลยว่ามีที่ไหนให้น้องเสียเงินได้บ้าง Tesco Lotus, MaxValue, Seacon Square ศรีนครินทร์, Paradise Park, และตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ถือเป็น Land Mark ที่สำคัญอีกที่หนึ่งที่เด็กไทย - ญี่ปุ่นชอบไปเที่ยวกัน เพราะเป็นตลาดนัดกลางคืนขนาดใหญ่ ที่รวมสินค้ามากมาย อีกทั้งยังมีของกินที่เด็ดดวงมากมาย และยังมีที่ Hang Out กับเพื่อน ๆ แต่เน้นนะจ๊ะ ร้านพวกนี้ต้อง 20 บวก ถึงจะเข้าได้ (เพราะตรวจเข้มมาก)

 

ส่วนคนที่ชอบสวนสาธารณะ ต้องนี้เลย สวนหลวง ร.๙ เป็นหนึ่งที่สำคัญสำหรับสถาบันฯเรา เนื่องจากที่นี้จะเป็นที่ที่เราใช้ในการจัดพิธีประสาทปริญญาบัตร นอกจากมีหอประชุมที่สวยงามแล้ว ยังร่มรื่นเหมาะกับการวิ่งออกกำลังกาย และยังมีเรือเป็ดให้ถีบ จะถีบคนเดียวแบบเหงา ๆ หรือถีบแบบคู่รัก ก็ทำได้ แต่ระวังสายตาคนโสดรอบข้างนะจ๊ะ นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ สถาบันของเรา ยังมีอีกหลายที่ที่น้องสามารถเลือกไปตามไลฟ์สไตล์ของน้อง ๆ ได้เลย ถ้ามาอยู่ก็ลองชวนเพื่อนออกไปเที่ยวสิ สร้างมิตรภาพด้วยการเที่ยวก็ดีไปอีกแบบนะ

 

รวมทุกเรื่องการเดินทาง

ขอบคุณภาพจาก ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์และจัดหาทุน TNI

 

บอกเลยว่าในปัจจุบัน การคมนาคมมาสถาบันฯ เราก็ไม่ยากเหมือนแต่ก่อนเพราะสามารถต่อรถได้อย่างสบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า ก็สามารถมาได้ โดยวันนี้พี่ได้เอาแผนการเดินรถ สายรถเมล์ที่ผ่านหน้าสถาบัน ซึ่งน้องเตอร์ (รุ่นน้องพี่เอง) เป็นคนทำไว้ มาดูกันเลยว่าการเดินทางเป็นยังไง

- BTS ลง สถานีพระโขนง ตรงทางออก 3 แล้วต่อรถเมล์สาย 133 ถึงสถาบันเราเลย

- MRT ลง สถานีเพชรบุรี ออกทางออก 1 ตรงทางเชื่อมกับ Airport Link แล้วต่อรถเมล์สาย 206 และ 11 ได้เลย

- Airport Link ลงสถานี หัวหมาก ลงทางออกไหนก็ได้ แล้วต่อวินมอไซต์รับจ้างตรงทางลง ซึ่งราคาวินอยู่ที่ 40 บาทเท่านั้น

 

ภาพ : ภูสิทธิ์ ณ น่าน

 

หากใครมารถส่วนตัวสามารถมาได้หลายทางทั้งทางด้านถนนเพชรบุรี หรือทางถนนศรีนครินทร์ ตามแผนที่ข้างล่างนี้เลย ส่วนช่วงเวลาที่ต้องระวังเรื่องรถติดซึ่งน่าเบื่อมาก คือช่วงเช้าเวลา 8.00 น. - 10.00 น. และช่วงเที่ยง 12.00 น. - 13.00 น. รถติดช่วงนี้เพราะแถวนี้ออฟฟิตเยอะ คนแห่มากินข้าวกลางวันกัน และสุดท้ายคือช่วงมหาโหด คือเต่าเดินยังแซงอะน้อง พี่พูดเลย ! นั้นคือช่วง18.00 น. - 20.00 น. นั้นเอง เพราะฉะนั้นน้อง ๆ จะต้องวางแผนการดินทางให้ดี เพราะหากเราไม่เผื่อเวลาไว้ กำหนดการที่วาดฝันเอาไว้จะทลายทันทีเลยจ้า

 

อยากเรียนสถาบันไทย – ญี่ปุ่น ต้องทำยังไง ?

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นที่นี้เป็นสถาบันเอกชนที่มีการคัดเลือกที่เข้มงวดพอสมควร แต่สถาบันของเราก็มีการรับสมัครหลายรอบเช่นเดียวกัน โดยมีรอบการสมัคร “รอบโควตาโรงเรียนและปวช.,ปวส.” ซึ่งรอบนี้เป็นรอบที่เราเปิดโอกาสให้กับน้องนักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ที่มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป โดยสามารถยื่นใบสมัคร ได้ในช่วง ก.ค. - ก.ย. สัมภาษณ์ โดยไม่ต้องผ่านข้อเขียน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้แก่น้อง ๆ ที่เรียนดี ได้มีโอกาสได้เข้ารับการศึกษาที่สถาบันของเรานั้นเอง

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

จากนั้นก็จะมีรอบ “สอบตรง” รอบนี้มีทุนนะจ๊ะ โดยการสอบตรงเราจะแบ่งเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือน ก.ค. - พ.ย. โดยที่วิชาที่สอบจะเป็นวิชาที่บังคับของแต่ละคณะ โดยอยู่ที่น้อง ๆ เลือกว่าจะเรียนคณะอะไร โดยการสอบรอบนี้จะมีทุนการศึกษาให้สำหรับคนที่ทำคะแนนสอบได้ดีที่สุด โดยมีมากกว่า 50 ทุนต่อปี และการสอบตรงรอบที่สอง จะเป็นการสอบเหมือนรอบแรกเลยเพียงแต่ไม่มีทุนการศึกษาให้นั้นเอง ซึ่งจะเปิดรับสมัครเดือน ม.ค. - มี.ค. และก็ยังมีรอบ “Admission” โดยรอบนี้น้อง ๆ สามารถนำคะแนน GAT/PAT มายื่นพร้อมใบสมัคร โดยคะแนนของน้อง ๆ ต้องห้ามต่ำกว่า 12,000 คะแนน มายื่นในช่วง มี.ค. - มิ.ย. โดยรอบนี้สัมภาษณ์อย่างเดียวไม่มีข้อเขียน ซึ่งรอบนี้ก็ต้องลุ้นนะว่าวิชาสาขาที่เราอยากเรียนเนี้ยมันเต็มรึยัง ถ้าเต็มแล้วก็ Bye คะ Sis !

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

สำหรับ Trick การสอบสัมภาษณ์ บอกเลยว่าที่นี่สอบสัมภาษณ์โดยอาจารย์ในภาควิชานั้น ๆ เลย โดยน้อง ๆ จะต้องแสดงความตั้งใจในการศึกษาที่นี่ให้อาจารย์เห็นให้ได้ อาจารย์บางท่านจะมีคำถามแนวกวน ๆ เช่น “เกรดหนูแค่นี้จะเรียนไหวไหม ? ที่นี่เรียนโหดนะ คนไม่จบก็เยอะ หนูจะเรียนไหวเหรอ ? ” บอกกลับไปเลยว่า “ไหวค่ะ หนูตั้งใจมากและหนูเชื่อว่าหนูจะพยายามเรียนที่นี่ให้จบเพราะมันคือความฝันของหนู” ตอบแบบนี้มงลงแน่นอน

 

ภาพ : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

 

และนี่คือทั้งหมดของสถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น สถาบันเล็ก ๆ ที่แสนจะอบอุ่น น้อง ๆ คงเห็นว่าถึงแม้เราจะเป็นสถาบัน แต่คุณภาพ ความสามารถ ความสัมพันธ์ของรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่แตกต่างไปกับมหาวิทยาลัยรัฐบาลหรือมหาลัยเอกชนชื่อดังที่น้อง ๆ อยากเข้าไปสัมผัส และถ้าหากเพียงแต่การเข้ามหาวิทยาลัยเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น น้อง ๆ ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด และที่สำคัญอย่าลืมสถาบันลูกครึ่งแดนปลาดิบอย่าง “สถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น” ของเราด้วยนะ 

 

เรื่อง : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us