สอบติดมหาวิทยาลัยแล้ว หลายคนคงวางใจ คิดว่า ความหนักหนาในการอ่านหนังสือจะจบลงตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าตนเองได้สอบติดคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการแล้ว แต่ช้าก่อนครับ ชีวิตมหาวิทยาลัยอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด พี่เลยมีทริคมาแนะนำเหล่าเฟรชซี่หน้าใหม่ ต้องปรับตัวยังไงบ้างในรั้วมหาลัย
มีหลายเรื่องที่อาจจะเป็นเรื่องใหม่ ๆ สำหรับใครหลายคน เช่น การจะต้องอยู่หอกับเพื่อน หรืออยู่คนเดียว การเจอกับสังคมที่ใหญ่ขึ้น ทำกิจกรรมมากขึ้น ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น และที่สำคัญที่สุด เนื้อหาการเรียนจะเข้มข้นขึ้น หนักขึ้น คิดเกรดโหดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นใครที่จัดการตนเองได้ดีก็สบายเลย แต่หากใครที่ปรับตัวได้ไม่ดี ก็อาจมีโอกาสเละได้ด้วย บทความนี้จึงยกตัวอย่าง สิ่งที่น้องเฟรชซี่อาจจะต้องเจอเมื่อเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย
เปลี่ยนที่เรียนจากมัธยม สู่มหาวิทยาลัยแล้ว ย่อมได้เพื่อนและสังคมใหม่เป็นธรรมดา น้องบางคนอาจไม่รู้จักใครเลย ต้องทำความรู้จักใหม่ทั้งหมดเลย เพื่อน ๆ ก็อาจจะมาจากหลายถิ่นฐานในประเทศไทย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ การเริ่มต้นทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ สำคัญมาก ควรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ปรับตัวเข้าหากัน เพราะหลายคนก็หลายอุปนิสัย และที่สำคัญที่สุด คือ การเลือกคบเพื่อนที่จะนำพาเราไปในทางที่ดี ใครไม่มีปัญหาเรื่องเพื่อนก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับในชีวิตมหาวิทยาลัย
สอบถี่ขึ้น มีการบ้าน รายงาน โครงงานที่ต้องทำส่งมากขึ้น ข้อสอบเป็นข้อสอบช้อยน้อยลงหรือแทบไม่มี ได้เกรดโหดขึ้น เป็นธรรมดาของชีวิตมหาวิทยาลัยครับ เนื่องจากการเรียนจะต้องลงลึกและเจาะจงในสาขาวิชาของคณะมากขึ้น ทั้งนี้เพราะความรู้ที่ได้เรียนจะถูกนำไปใช้ในชีวิตการทำงานหลังจากเรียนจบ ดังนั้นจะต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้น ทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ จัดเวลาของตนเองให้ดี เพื่อรับมือกับความหนักหนาของการเรียนนั่นเอง ยิ่งในบางคณะ การสอบกลางภาคหรือปลายภาคแต่ละครั้ง ต้องอ่านหนังสือหนักกว่า สอบเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก ซึ่งต้องวางแผนการอ่านหนังสือให้ดี มิฉะนั้นแล้ว อาจจะไม่ผ่าน และต้องกลับมาเรียนซ้ำได้
ในชีวิตมหาวิทยาลัยนั้น การทำกิจกรรมเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเข้าร่วมการรับน้อง (หรือถ้าเป็นรุ่นพี่ ก็ต้องจัดค่ายรับน้อง) เข้าค่ายจิตอาสา ชมรมกีฬา ศาสนา ศิลปะ นาฏศิลป์ และอีกมากมาย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นตัวช่วยผ่อนคลายจากการเรียนวิชาการ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ทั้งเพื่อนคณะเดียวกันและต่างคณะ สามารถสร้าง Connection ได้ดีเลยทีเดียว และที่สำคัญ คือได้เรียนรู้ทักษะชีวิตจากการทำกิจกรรมอีกด้วย หากน้องที่ทำกิจกรรมเยอะ ๆ ก็ต้องจัดการเวลาให้ดีนะครับ แบ่งเวลา เรียนและกิจกรรมให้เหมาะสม เพื่อให้ชีวิตมีความสมดุล ราบรื่น เตรียมตัวสอบได้ทัน ไม่ต้องรีบอ่านหนังสืออัด ๆ ตอนใกล้สอบนั่นเอง
พอจะเห็นภาพขึ้นมานิดนึงกันแล้ว ต้องบอกเลยว่า ตัวอย่างที่พี่ยกไปข้างต้นนั้น เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของชีวิตมหาวิทยาลัยที่ต้องเจอ บางคนก็อาจมองเป็นเรื่องยากสำหรับตนเอง ซึ่งในบางคณะอาจจะมีกิจกรรมสายรหัสไว้คอยดูแลน้อง ๆ ให้มีชีวิตรอดปลอดภัยในรั้วมหาวิทยาลัยนั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์หลัก ๆ คือ คอยให้คำปรึกษาทั้งเรื่องในมหาวิทยาลัย หรือนอกมหาวิทยาลัยก็ได้ เช่น เรื่องเรียน ชีวิตประจำวัน เรื่องทั่ว ๆ ไป ที่สำคัญ รุ่นพี่บางคนอาจพาไปเลี้ยงข้าวอีกด้วย ซึ่งกิจกรรมสายรหัสจะช่วยน้อง ๆ ได้มากเลย
สุดท้ายนี้พี่ก็ขอให้น้องเฟรซชี่ทุกคนปรับตัวกับสิ่งใหม่ ๆ ที่ต้องเจอได้ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ดำรงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้ราบรื่นและมีความสุขนะครับ
เรื่อง : พี่บอส วรุตม์ เก่งกิตติภัทร