เมื่อวันที่ (9 มิ.ย.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล ฯ โดยให้ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนสมทบในส่วนเงินเดือนครู ร้อยละ 4 ให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2557 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ได้อนุมัติหลักการให้การปรับเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินอุดหนุนสมทบเงินเดือนครูในอัตราเดียวกันทุกครั้งที่มีการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการไปเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2550 ทั้งนี้ตนจะนำมติดังกล่าวเสนอต่อครม.เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ซึ่งการปรับเพิ่มเงินเดือนครูเอกชนจะใช้งบประมาณเพียงประมาณ 200 ล้านบาทต่อปีเท่านั้นซึ่งถือว่าไม่มาก
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงกรณีโรงเรียนเบิกเงินอุดหนุนผิดพลาดหรือโดยไม่มีสิทธิ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เรียกหรือหักเงินจากโรงเรียน เพื่อส่งใช้คืนพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่หากโรงเรียนไม่ชดใช้เงินอุดหนุนที่เบิกโดยผิดพลาดหรือโดยไม่มีสิทธิภายใน 30 วัน ให้ สช. ชะลอการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายบุคคลไว้ก่อนจนกว่าจะชำระหนี้ให้แล้วเสร็จ ภายใต้เงื่อนไข คือ ถ้าจำนวนเงินที่ชำระคืนไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้ชำระเงินคืนทันทีในงวดเดียว แต่ถ้าจำนวนเงินที่ชำระคืนเกิน 1 ล้านบาท ให้ชำระเงินคืนภายใน 1 ปี โดยโรงเรียนต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ โดยโอนหนี้สิน และทรัพย์สินของอาชีวศึกษาเอกชนไปอยู่ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พร้อมทั้งให้กำหนดวันประชุมนัดพิเศษเพื่อหารือถึงปัญหาต่าง ๆ ของกองทุนสงเคราะห์ที่ดูแลสวัสดิการครูเอกชน เพื่อปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ ด้วย