เมื่อวันที่ (8ก.พ.) ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้คุรุสภามีการบ้านที่ต้องทำ 3 เรื่อง เพื่อเสนอ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศธ. คือ
1. การรับรองปริญญา ซึ่งที่ผ่านมาคุรุสภาจะรอรองรับหลักสูตรจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดม ศึกษา(สกอ.) หลังจากที่สภามหาวิทยาลัยอนุมัติแล้วแจ้งให้ สกอ.รับทราบ ซึ่งปัญหาคือกว่าเรื่องจะส่งมาถึงคุรุสภาเพื่อตั้งคณะทำงานออกไปดูหลักสูตร ว่า มีความพร้อมและตรงกับมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ มหาวิทยาลัยก็เปิดสอนไปแล้ว และบางแห่งก็รับนักศึกษามากกว่าจำนวนที่ขออนุมัติด้วย ดังนั้น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศธ.จึงเสนอให้ปรับปรุงการรับรองปริญญาหลักสูตรทางการศึกษา โดยสภามหาวิทยาลัยต้องตกลงกับคุรุสภาก่อนที่จะอนุมัติหลักสูตร เพื่อคุรุสภาจะได้ให้คำแนะนำและยืนยันการอนุมัติให้เปิดสอนได้ แต่ถ้าไม่ทำตามคำแนะนำ คุรุสภาก็จะไม่รับรองปริญญาบัตรและจะไม่ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ ดร.ชัยยศ กล่าวต่อไปว่า
2.ใบประกอบวิชาชีพครู เพื่อแก้ปัญหาและตอบสนองโรงเรียนที่อยากได้ครูเก่งที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ครู เช่น สถานศึกษาอาชีวศึกษา อยากได้ครูช่าง หรือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ที่ ตชด.ต้องมาทำหน้าที่เป็นครู เป็นต้น แต่บุคคลนั้นไม่ได้เรียนครู คุรุสภาก็จะออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเฉพาะให้ ขณะเดียวกันก็จะแนะนำครูกลุ่มนี้ ว่า หากต้องการใบประกอบวิชาชีพครูที่เป็นใบหลัก ก็ต้องพัฒนาตัวเองโดยการเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู(ป.บัณฑิต) หรือ เข้ารับการฝึกอบรม หรือ นำวุฒิการศึกษามาเทียบโอน
3.การต่ออายุใบประกอบวิชาชีพที่ รมว.ศธ.มอบให้คุรุสภามาศึกษาว่า ควรต้องต่ออายุหรือไม่ เรื่องนี้ได้ข้อสรุปว่า ควรต้องต่อแต่จะต่อแค่ 2 ครั้ง คือ 5 ปีแรก และเมื่อครบ 10 ปี ซึ่งเป็นการต่อครั้งที่ 2 ก็จะต่ออายุแบบตลอดชีพ แต่ทั้งนี้ต้องสามารถถอนใบอนุญาตฯได้ หากผิดจรรยาบรรณร้ายแรง
นอกจากนี้ยังมีประเด็นผู้บริหารการศึกษาที่ปัจจุบันต้องถือใบอนุญาตฯถึง 3 ใบ คือ ใบประกอบวิชาชีพครู ใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา และใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา ผมได้ให้นโยบายแล้วว่าให้ลดเหลือใบเดียว คือ ขณะนั้นมีตำแหน่งอะไรให้ถือใบนั้น ทั้งนี้ เพื่อลดภาระค่าต่อใบอนุญาตหลายใบได้”ดร.ชัยยศ.กล่าว