เรื่อง: อรชุมา มีวงศ์อุโฆษ ภาพ: สถาบันอาศรมศิลป์
จะท้าทายแค่ไหนถ้านักศึกษาน้องใหม่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปี 1 จำนวน 10 คน ของสถาบันอาศรมศิลป์ ออกแบบและลงมือสร้างศาลาไม้ไผ่ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นฐานการเรียนรู้สู่การเป็นสถาปนิกมืออาชีพ โดยมี อาจารย์ธนา อุทัยภัตรากูร เป็นอาจารย์ผู้ปลุกปั้นที่ถึงกับเอ่ยปากว่าเป็นความบ้า กล้า และยุ่งยากในการทำโครงการ แล้วอะไรเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการทุ่มเทครั้งนี้
จุดกำเนิดการเรียนผ่านศาลาไม้ไผ่
การเรียนการสอนของเราเน้นการเรียนรู้ผ่านการทำงานจริง นักศึกษาปี 1 ต้องก่อสร้างศาลาไม้ไผ่เอง เพื่อให้เขาเห็นกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในด้านสถาปัตยกรรม ตั้งแต่สร้างโจทย์ ดูพื้นที่เพื่อการออกแบบก่อสร้าง ไปจนถึงใช้งานจริง โดยเราจะกำหนดพื้นที่ไว้และให้นักศึกษาคิดเองว่าจะสร้างอะไร ซึ่งเป็นฐานการเรียนรู้ที่บูรณาการหลายวิชาเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกการเรียนเป็นแต่ละวิชาแบบทั่วไป
ความท้าทายของนักศึกษาน้องใหม่
ผมทำโครงการบ้านดินมาก่อนและเคยอบรมคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้าน ผมไม่ได้รู้สึกว่าการก่อสร้างเป็นเรื่องยาก ใคร ๆ ก็ทำได้ งานไม้หรืองานคอนกรีตอาจจะยากหรือต้องใช้ทักษะ แต่อาคารดินหรืออาคารไม้ไผ่ด้วยตัววัสดุไม่ต้องปรับอะไรมาก แต่ตอนได้โจทย์นักศึกษาก็ยังงง ๆ ว่าจะสร้างได้จริงหรือ
การเรียนแบ่งเป็นสามช่วง ช่วงแรกคือการฝึกทักษะเบื้องต้น เช่น การเขียนแบบ การจับประเด็น การตั้งคำถาม ช่วงที่สองเป็นการเรียนรู้กับชุมชนชาวปกาเกอะญอ ซึ่งยังมีวิถีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติและใช้ไม้ไผ่ในทุก ๆ ด้าน ทั้งทำภาชนะ เฟอร์นิเจอร์ บ้าน เป้าหมายคืออยากให้เห็นสถาปัตยกรรมจากวิถีชีวิตว่าเชื่อมโยงกับภูมิปัญญา ความเชื่อ สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ช่วงที่สามนักศึกษาจะทำอาคารไม้ไผ่ของเขาในบริบทปัจจุบัน เขาก็คิดจะทำเป็นอาคารเอนกประสงค์ เราก็ให้แต่ละคนออกแบบ พัฒนาแบบ และเลือกแบบที่ดีที่สุดคือต้องสร้างได้จริง ใช้ได้จริง
ผลลัพธ์คือการเชื่อมโยงระหว่างวิชา
ปกติเวลาเรียน โจทย์ในวิชาเขียนแบบกับวิชาออกแบบจะต่างกัน ซึ่งมันจะไม่ได้เชื่อมโยงกับการออกแบบ แต่เขาจะเห็นทุกด้านผ่านการทำอาคารหลังนี้ เขาจะเห็นว่าการเขียนแบบ การทำแบบจำลองสำคัญกับการออกแบบยังไง
สิ่งที่ได้เรียนรู้
ผมคิดว่าทักษะหนึ่งที่สำคัญมากของสถาปนิก คือสามารถกำหนด scale ที่เราออกแบบในจินตนาการได้ตรงกับสิ่งที่สร้างจริงได้ การออกแบบอาคารไม่ได้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างเดียว เราต้องดูความสวยงาม ออกแบบอารมณ์ความรู้สึกของคนที่อยู่ในพื้นที่ด้วย ถ้าอาคารขนาดใหญ่มาก เราจะรู้สึกยิ่งใหญ่ ถ้าแคบเราจะรู้สึกอึดอัด ถ้าขนาดพอดีเราจะรู้สึกอบอุ่น ซึ่งตรงนี้เป็นทักษะที่สอนยาก เขาจะได้ทักษะการก่อสร้างจากการลงมือทำ
ช่วงที่ออกแบบ มีการวัดขนาดความสูงอาคาร ทดลองเอาไม้มาตั้งเอาเชือกมัด ทำกันอยู่หลายรอบ พอตอนสร้างจริงหลังคาใหญ่เกินไปไม่เหมือนโมเดล ทุกคนจึงตัดสินใจปรับขนาด เขาต้องกล้าทำในสิ่งที่ไม่รู้ และแสวงหาความรู้เพื่อทำให้ได้ ผมก็เรียนรู้ร่วมไปกับเขา การได้ปรับทัศนคติหลังจากลงมือทำ ทำให้เขามีความเชื่อว่าต่อไปจะทำได้แน่นอน เพราะเขาทำมาแล้ว นี่คือความคุ้มค่าของโครงการ
คุณสมบัติที่ดีของสถาปนิก
|