เรื่องและภาพ: กัลยาณี แนวเล็ก
ใครบอกว่าเด็กไทยไม่อ่านหนังสือ แต่ถ้าถามว่าชอบอ่านแนวไหน มีนักเขียนคนไหนที่อ่านเป็นประจำ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “แสตมป์เบอรี่” อยู่ในอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะนิยายเซท [เซเว่นเอส] ของสำนักพิมพ์แจ่มใส ที่ติดอันดับขายดีจนตีพิมพ์เพิ่มแทบไม่ทัน พิไลมาศ ค้ำชู หรือ แสตมป์ คือเจ้าของนามปากกา “แสตมป์เบอรี่” ผู้เขียนนิยายมุ้งมิ้งโดนใจวัยว้าวุ่นมาแล้วหลายสิบเล่ม ล่าสุดกับเรื่อง “My Be(a)st Girlfriend แฟนผมแสบจะตาย...แต่ถึงร้ายก็รักนะ” และ “[เซเว่นเอ็กซ์] Lady Liar ลวงรักจับผิดหัวใจยัยจอมโกหก” แค่ชื่อเรื่องก็รีบกด like กันแล้วใช่ไหม
จุดเริ่มต้นของ “แสตมป์เบอรี่”
ตอนปี 4 (คณะศิลปศาสตร์ วิชาเอกภาษาไทย ม.ธรรมศาสตร์) เราเอานิยายที่เขียนจบแล้ว ไปลงในคอลัมน์แบ่งกันอ่านของสำนักพิมพ์แจ่มใส ทางบก.สำนักพิมพ์แจ่มใสมาเห็นเข้าก็สนใจและติดต่อมาทำเป็นรูปเล่ม
เริ่มสนใจเขียนนิยายแนวความรักกุ๊กกิ๊ก มีกลิ่นอายซีรีส์ญี่ปุ่น เกาหลี ตั้งแต่เมื่อไหร่
จริง ๆ แล้วอ่านแนวผู้ใหญ่มาก่อน อ่าน “ทมยันตี” ค่ะ แต่ตอนหลังได้มาอ่านนิยายแปลเกาหลี “หนุ่มฮอตสาวเฮี้ยวรักเปรี้ยวอมหวาน” ก็เริ่มรู้สึกว่าตรงกับวัยเรามากกว่าและรู้สึกว่าเป็นแนวที่เราชอบและอยากจะลองเขียนดูบ้าง เริ่มจากเรื่อง “รักสุดเซอร์ไพรส์ของยัยขี้โม้” แต่ว่าเรื่องที่ได้รับการติดต่อคือ “ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอย” ซึ่งเป็นเรื่องที่สองในเซทนี้ค่ะ หลังจากเรื่องนี้ออกไปก็ได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี แจ่มใสฯ เลยติดต่อนำเรื่องแรกมาตีพิมพ์ความรู้สึกตอนที่รู้ว่าจะมีหนังสือนิยายเป็นของตัวเอง
ดีใจมาก ภูมิใจมาก อวดคนทั้งโลกเลย คือไม่ว่าจะมีช่องทางโซเชียลทางไหนอวดหมดเลยว่าเรามีนิยายเป็นของตัวเองแล้ว เพราะเคยกลับไปอ่านข้อเขียนของตัวเองสมัยเด็ก ๆ ว่าความใฝ่ฝันอยากเป็นอะไร ก็เขียนมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากเป็นนักเขียนค่ะ และตอนเด็ก ๆ เวลามีการประกวดแต่งกลอนก็จะได้รางวัลมาตลอด เลยรู้สึกว่านี่คือทางของเรา พอได้มีโอกาสเป็นนักเขียนจริง ๆ และมีคนเป็นล้าน ๆ คนรออ่านของเรา นี่เป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของเราแล้ว ความฝันของเราเริ่มเป็นจริง
ที่มาของพล็อตเรื่องรวมถึงคาแรกเตอร์ตัวละคร
จินตนาการของตัวเองค่ะ เพราะว่าชอบคิด ชอบเขียน และคิดอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น เลยรู้สึกว่าเราอยากจะแบ่งปันจุดนี้ให้คนอื่นได้อ่านความคิดของเรา มีความชอบแบบไหนอะไรยังไงก็จะใส่มาให้หมดในนิยายของเรา ข้อจำกัดของการเขียนนิยาย บางอย่างเราไม่สามารถเอาสถานที่จริงมาได้ หรือว่าตัวละครจริง ๆ ของคนอื่นก็มีเรื่องลิขสิทธิ์ จะหลีกเลี่ยงด้วยการสร้างขึ้นมาเอง อย่างเช่น ห้าง สวนสนุก หรือว่าดินแดนแฟนตาซีซึ่งเราจะคิดเองหมดเลย เพื่อที่จะให้สร้างความแตกต่างจากคนอื่น และทำให้คนอ่านคาดเดาไม่ได้ว่าเนื้อเรื่องจะไปแบบไหน และตัวละครจะไปเจอกับอะไรบ้าง
มีวิธีเติมจินตนาการยังไง
อ่านเพิ่มขึ้น อ่านนิยายแนวแฟนตาซีมากขึ้น อ่านการ์ตูน หรือว่าดูหนังค่ะ พยายามมองโลกให้กว้างขึ้น และดูว่าตอนนี้โลกมันไปถึงแล้ว และเราสามารถที่จะปรับหรือประยุกต์โลกปัจจุบันเข้ากับนิยายของเราได้ยังไงบ้าง
เสน่ห์ของนิยายของแสตมป์เบอรี่อยู่ที่ไหน
เป็นความแปลกใหม่ แตกต่างและไม่เหมือนใคร คืออย่างที่บอกว่าหลาย ๆ อย่างที่เราคิดค้นขึ้นมาเอง มันไม่มีในโลกหรือว่าไม่เหมือนกับของคนอื่น คนก็อยากจะติดตามว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไง พล็อตแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไง หรือว่ามันมีความสนุกตรงไหน อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นก็คือสำนวนการเขียนที่ค่อนข้างเฮฮา จิกกัด หรือบางทีใช้คำเปรียบเทียบที่ทำให้ดูน่าสนใจกว่าคนอื่น ๆ
สำนวนจะมาจากการคบเพื่อนบ้าง เพื่อนที่เป็นเพื่อนสาวก็จะมีคำศัพท์แปลก ๆ ใหม่ ๆ หรือจากการที่เราท่องกระทู ้หรือว่าดูจากกระแสต่าง ๆ ที่มีคำแปลก ๆ ใหม่ ๆ เอามาใช้ หรือคำเปรียบเทียบต่าง ๆ ได้ยินจากตรงไหนก็จด ๆ ไว้บ้าง บางทีมันก็แว้บมาเอง
สิ่งสำคัญของการเขียนนิยาย
ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาสไตล์ของคนอื่นมา ไม่ลอกหรือทำตามที่คนอื่นทำกันเป็นแบบแผน ต้องเป็นตัวเรามากที่สุด เพราะคนอ่านคาดหวังว่า เฮ้ย! ซื้อแสตมป์เบอรี่มาก็อยากอ่านแสตมป์เบอรี่ พยายามคำนึงถึงคนอ่านให้มาก ๆ ว่าเราอยากจะสื่อสารกับใคร และคนอ่านอยู่ในช่วงวัยไหน อายุเท่าไหร่ เราจะสามารถสร้างสรรค์อะไรให้เขาได้บ้าง และเราจะพยายามไม่ชี้นำในเรื่องที่ไม่ดีหรือว่าเสื่อมเสีย คือต้องนึกถึงสังคมให้มาก ๆ งานเขียนของเราจะแฝงข้อคิดด้วย แต่ไม่ได้อ่านแล้วแบบ โห สาระจนเกินไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบันเทิง 70 เปอร์เซ็นต์ และข้อคิด 30 เปอร์เซ็นต์
ท่ามกลางสื่อออนไลน์ที่ช่วยให้นักอ่านหาอ่านนิยายหรือเรื่องราวต่าง ๆ ง่ายขึ้น ทำไมหนังสือของแสตมป์เบอรี่ยังเป็น Best Seller
ความเป็นตัวเองอย่างที่บอกค่ะ ยังไงคนอื่นก็ไม่สามารถจะมาแทนที่ได้ เพราะว่าเราคือแสตมป์เบอรี่ แค่คนอ่านชอบความเป็นแสตมป์เบอรี่เขาก็จะไม่ไปอ่านของคนอื่น อีกอย่างเราจะมีการคอนแทคกับนักอ่านอยู่ตลอดเวลาทางแฟนเพจ (www.facebook.com/lovestampberry) เราจะเข้าไปอ่านความเห็น เข้าไปคุย ชอบแบบไหน เล่มนี้ชอบเพราะอะไร เล่มนี้ไม่ชอบเพราะอะไร หรือว่าเด็ก ๆ กรี๊ดกร้าดฉากไหน เลือกในสิ่งที่เขาชอบมากที่สุด เพื่อเอามาพัฒนาผลงานของเราให้ดีที่สุดค่ะล่าสุดนิยายที่เขียนถูกนำมาสร้างเป็นละครด้วย
ความแปลกใหม่ของพล็อต คือแนวนางเอกเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ ส่วนใหญ่พระเอกนางเอกก็ต้องหล่อสวยหน้าตาดี แต่เรื่องนี้หยิบยกความผิดปกติหรือว่าความขี้เหร่ของนางเอก เพื่อสื่อให้คนเห็นว่าคนเรามองแค่หน้าตาไม่ได้ ต้องมองที่จิตใจด้วย แต่ว่าจะทำยังไงให้การนำเสนองานนั้นออกมาได้สนุก พอแกรมมี่มาอ่านก็คงจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่น่านำเสนอ ทางผู้เขียนบทก็ส่งมาให้เราดูว่าต้องการปรับแก้ตรงไหนไหม ก็จะมีการพูดคุยกัน แอบนำเสนอนิดหน่อยว่าอยากได้คนนั้นเล่น คนนี้เล่น เขาก็รับฟังและติดต่อให้บ้างบางคนค่ะ
นิยายกับละคร เหมือนและต่างกันยังไงบ้าง
ถ้าหมายถึงบทละครของเรื่องนี้แทบไม่ต่างเลย เพราะว่าเขาพยายามคงความสนุกของนิยายไว้มากที่สุด แต่นิยายเรามันค่อนข้างสั้น เขาจะทำเป็นละครแปดตอน ก็ต้องขยายเนื้อเรื่องออกมา มีการเพิ่มอรรถรสเข้ามาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และมองเห็นเรื่องราวได้ง่ายขึ้น ความต่างอาจจะเป็นบุคลิกหน้าตาของตัวละคร เพราะว่าในการ์ตูนในนิยาย อู้หู ต้องหล่อ การ์ตูนมันสามารถวาดออกมาให้เป็นเทพบุตรเทพธิดาอะไรแบบนี้ได้เลย แต่ความจริงเราไม่สามารถหานักแสดงให้ได้ตรงตามคาแรกเตอร์ในนิยายเป๊ะ ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคนอ่าน
ก้าวต่อไปในฐานะนักเขียน
คิดว่าจะพยายามพัฒนางานของตัวเองไปเรื่อย ๆ มีหลายคนถามมาว่าอยากเขียนแนวอื่นไหม ก็เคยคิดอยู่เหมือนกัน มีลองผิดลองถูกบ้างแต่ว่าสุดท้ายแล้วก็รู้สึกว่าเรามาทางนี้ถูกที่สุดแล้ว คือเหมาะที่สุดแล้ว คิดว่าไม่เหมาะที่จะไปเขียนแฟนตาซี หรือแนวเลิฟแบบผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่ทาง เราทำตรงนี้ให้ดีที่สุดต่อไปเรื่อย ๆ ดีกว่า
จริง ๆ เป็นคนชอบแนวสยองขวัญมาก ไม่ใช่ผีหรือฆาตกรรมอะไรขนาดนั้น แต่จะเป็นแนวลึกลับ สอบสวน สืบสวน อย่างแนว Liar Game ที่เป็นซีรีส์ญี่ปุ่น อะไรที่มีความซับซ้อนรู้สึกว่าสนุก แต่ว่าเรายังไม่สามารถเขียนแบบนั้นได้ เพราะว่าการจัดระเบียบความคิดยังไม่เก่ง ชอบสื่ออะไรง่าย ๆ มากกว่า ถ้าเขียนปมอะไรเยอะเกินไปเด็กก็ไม่ชอบอีก รู้สึกว่าตลาดยังไม่รับก็เลยพับโครงการนี้ไปก่อน ขอเก็บประสบการณ์อ่านให้ได้เยอะ ๆ ก่อน แล้วอาจจะลองเขียนดู
“ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาสไตล์ของคนอื่นมา ไม่ลอกหรือทำตามที่คนอื่นทำกันเป็นแบบแผน ต้องเป็นตัวเรามากที่สุด เพราะคนอ่านคาดหวังว่า เฮ้ย! ซื้อแสตมป์เบอรี่มาก็อยากอ่านแสตมป์เบอรี่”
bit by bit แสตมป์เบอรี่
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ จะอ่านนิตยสารมากกว่า ชอบอ่าน "In"
พนมเทียน เรื่องที่อ่านแล้วคลั่งไคล้มากคือ “ศิวาราตรี”
เพิ่งดูจบไปเลย “I hear your voice”
ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย สำคัญที่สุดคือความเป็นตัวเอง |