เรื่องและภาพ: กัลยาณี แนวเล็ก
“นางเสือง” ละครเวทีอิงประวัติศาสตร์ เป็นผลงานด้านการแสดงที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานของ กรีน AF5 อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล นอกจากงานด้านบันเทิงที่เธอชอบแล้ว กรีนมีโอกาสได้เรียนในสิ่งที่ตนชอบคือด้านการออกแบบภายใน ชีวิตนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาการออกแบบภายใน คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จะเหมือนหรือแตกต่างจากสถาบันอื่นอย่างไร กรีนมีคำตอบ
หล่อหลอมความชอบตั้งแต่ที่บ้าน
ตั้งแต่สมัย ม.ปลาย ตอนเลือกสายวิทย์-คณิต สายศิลป์-ภาษา สายศิลป์-คำนวณ กรีนก็เลือกสายศิลป์-คำนวณ ช่วงนั้นกรีนชอบเกี่ยวกับการออกแบบภายใน และที่บ้านเรียนสถาปัตย์ วิศวะ และทำงานก่อสร้าง อยู่ในแวดวงนี้ เลยคิดว่าเราน่าจะเรียนตรงนี้เพื่อทำงานกับครอบครัวได้ กรีนเลยไปติวเพิ่มด้านออกแบบภายในที่คณะมัณฑนศิลป์ของศิลปากร และมีโอกาสมาสอบตรงที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือค่ะ ออกแบบภายใน เรียนอะไรบ้าง
คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มีหลายสาขาคือ สถาปัตยกรรม ออกแบบภายใน ออกแบบเซรามิกส์ ศิลปะประยุกต์และการออกแบบผลิตภัณฑ์ เราสามารถเลือกสาขาได้ตั้งแต่ตอนสอบตรงค่ะ
ปีหนึ่งต้องวางพื้นฐานหมดเลย ส่วนใหญ่จะเป็นเทคนิคการเขียนแบบขั้นพื้นฐาน (Basic Technical Drawing) การวาดแบบเกี่ยวข้องกับเรื่อง “ตีบ” (perspective) เขียนตีบกี่จุด มุมมองนู้นมุมมองนี้ อาจารย์สอนให้มองแบบเบิร์ดอายวิว วอร์มอายวิว สอนทุกอย่าง มีการวาดภาพเหมือน วาดฟิกเกอร์ซึ่งค่อนข้างยาก การบ้านก็ค่อนข้างเยอะ
พอปีสอง การบ้านน้อยลงจริงแต่เป็นโปรเจ็คต์ที่ใหญ่ขึ้น เริ่มทำงานเป็นกลุ่ม ปีหนึ่งหัดออกแบบห้องนอน หรือห้องอื่นๆ ภายในบ้าน พอปีสองเริ่มออกจากบ้านมาเป็นนอกบ้าน ออกแบบโรงแรม พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล ปีสามเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล ห้องอาหาร ภัตตาคาร ตอนนี้ที่กรีนทำโปรเจ็คต์อยู่คือวิชา Exhibition การจัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับการออกแบบภายใน แต่มันเป็นการจัดบูธซึ่งต้องใช้วัสดุที่คล้ายๆ กัน การจัดบูธเป็นการจัดองค์ประกอบของงาน วางฟังก์ชั่นต่างๆ ก็สนุกดี เป็นอีกวิชาหนึ่งที่เราได้ทำจริงๆ และจะมีโชว์เฟอร์นิเจอร์ให้เราจัดบูธจริงๆ ที่มหาวิทยาลัยด้วยค่ะ โปรเจ็คต์สุดท้ายเป็นโมเดลตู้คอนเทนเนอร์ว่าเราจะสามารถเอาคอนเทนเนอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ไปจัดนิทรรศการได้อย่างไร
thesis ก่อนจบ
ธีสิสโปรเจ็คต์ใหญ่มีโจทย์ว่าการออกแบบภายในต้องจำกัดเรื่องพื้นที่ให้มากกว่า 1,250 ตร.ม. และต้องแตกต่างไม่เหมือนใคร คือถ้าเป็นโรงแรมก็ต้องมีแนวความคิดที่ดีและลึก ที่นี่จะสอนเรื่องคอนเซ็ปต์ค่อนข้างเยอะ คือการคิดตั้งแต่เริ่มต้นว่ามาแบบนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นแนวคิดแบบนี้ ทำไมต้องเป็นสีเหลือง ทำไมต้องเป็นไม้ ต้องมีที่มาที่ไปและมีเหตุและผล
รูปแบบของงานที่ชอบออกแบบมากที่สุด
ชอบออกแบบจัดแสดงงานนิทรรศการ เพราะโดยธรรมชาติของงานไม่ค่อยมีข้อจำกัดเท่าไหร่ เราจะทำอะไรก็ได้แถมยังสามารถใส่สื่อ มีเดีย เทคโนโลยีอะไรก็ได้หมดเลย แต่ถ้าเป็นออกแบบภายในอื่นๆ เราต้องทำตามลูกค้าและแก้ปัญหาให้ลูกค้าให้ได้ค่ะ
ความต่างของสถาปัตยกรรมกับมัณฑนศิลป์
สถาปัตย์เรียนค่อนข้างเยอะกว่า ละเอียดกว่า เน้นเหตุผล ความเป็นจริง ความเป็นไปได้มากกว่า คือชั่งน้ำหนักแล้วต้องได้เท่ากัน เรียนทฤษฎีค่อนข้างเยอะอย่างเรื่องแรงโน้มถ่วง เพราะเขาต้องทำอาคาร แต่ว่ากรีนไม่ใช่ กรีนทำแค่ห้องๆ หนึ่ง ถามว่าระบบไฟต้องรู้ไหม รู้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ต้องเข้าถึงระดับวงจรแบบสถาปนิกอะไรแบบนี้ เรื่องระบบท่อประปาเราต้องรู้บ้างว่าอยู่ตรงไหน อันไหนเป็นท่อส่งขึ้นไป แต่สำหรับสถาปนิกต้องรู้ทุกอย่าง มัณฑนากรต้องทำงานร่วมกับสถาปนิก ถ้าพูดถึงความรู้ สถาปนิกมีมากกว่าเรา แต่ถ้าเรื่องของไอเดีย วัสดุ ความทันสมัยหรือความก้าวหน้าถามเราได้ เรารู้ที่จะจับคู่สี ห้องนี้อยากได้สีแบบไหน ห้องนี้อยากได้สไตล์แบบไหน ถามเราได้
หัวใจสำคัญของอินทีเรียดีไซน์
กรีนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจินตนาการค่ะ แต่จินตนาการก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของฟังก์ชั่นด้วยนะคะ เพราะว่าเวลาทำงานจริงๆ ต้องพูดถึงการใช้งานที่สะดวกสบาย ยิ่งสมัยนี้ต้องพูดถึงความทันสมัย แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คนชอบลืมกันไปคือเรื่องวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งเราต้องตามตรงนี้ให้ทัน วัสดุใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก เพราะฉะนั้นเราต้องมีความรู้เรื่องวัสดุค่อนข้างเยอะเพื่อให้สามารถเลือกจับสิ่งนั้นมาใส่ในงานของเราได้ค่ะ
ข้อคิดสำหรับอนาคตมัณฑนากร
อยากให้น้องติวเยอะๆ และสมัยนี้ไม่ใช่แค่ติวแค่วาดรูปดรออิ้งอย่างเดียว ลองหาอะไรที่กว้างกว่า ลองหาความคิดว่าทำไมเราถึงเลือกแนวคิดแบบนี้ ต้องมีเหตุผลตลอด ไม่อย่างนั้นทำอะไรก็เหมือนว่าเราทำจากหลังไปหน้า อยากให้น้องๆ ที่จะเข้าเรียนอินทีเรียดีไซน์ลองขวนขวายตรงนี้ดู หรือลองถามรุ่นพี่ก็ได้ เพราะที่กรีนเคยติวมามันเริ่มจากการทำห้องเลย โดยที่เราไม่มีคอนเซ็ปต์เลย ทำห้องเสร็จปุ๊บค่อยมาคิดคอนเซ็ปต์ทีหลัง มันไม่ใช่ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมหัวใจสำคัญคือเรื่องแนวคิดหลักด้วยค่ะ
สาขาการออกแบบภายใน คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เน้นสาระเนื้อหาวิชาทางด้านศิลปะการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อผลิตบัณฑิตที่รองรับและตอบสนองความต้องการของสังคมตลาดแรงงาน สถานประกอบการ และสามารถสร้างรายได้สร้างอาชีพ บูรณาการองค์ความรู้พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง การสอบคัดเลือกบุคคล มี 3 ระบบ ได้แก่ 1. ระบบสอบตรง โดยแบ่งเป็นการสอบข้อเขียน เปิดรับสมัครประมาณกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ การใช้คะแนน GAT/PAT เปิดรับสมัครประมาณเดือนพฤศจิกายน และโครงการสมทบพิเศษเปิดรับสมัครประมาณปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2. ระบบโควตาเรียน โควตาพื้นที่ และโควตาโรงเรียนเครือข่าย ของคณะ/วิทยาลัยเปิดรับสมัครประมาณเดือนกรกฎาคม และ 3. ระบบกลางแอดมิดชั่น http://archd.kmutnb.ac.th/index.php |