เรื่อง: กัลยาณี แนวเล็ก
เคยสงสัยกันไหมที่เขารณรงค์ให้เก็บห่วงและกระป๋องน้ำอัดลมไปบริจาคเพื่อนำไปทำขาเทียม แขนเทียม เขาจะเอาไปให้หมอหรือใครทำ? จะหลอมหรือปั้นขึ้นมาใหม่? ฟังดูคล้ายๆ ต้องอาศัยทักษะงานประติมากรรมหรือเปล่า? มาเจาะลึกอาชีพ “นักกายอุปกรณ์” ไปกับ ปรัช-กฤชปภพ เรืองสุวรรณ นักกายอุปกรณ์ประจำโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ศิษย์เก่าโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โรงเรียนกายอุปกรณ์คืออะไร
คนส่วนใหญ่คิดว่าการทำอุปกรณ์เหล่านี้เป็นงานของหมอ แต่ไม่ใช่ครับ จริงๆ แล้วเป็นสาขาที่เรียนกันมานานแล้ว กายอุปกรณ์หรือ Prosthesis and Orthosis (PO) แบ่งเป็น 2 สาขา คือ กายอุปกรณ์เทียม กายอุปกรณ์เสริม หลักๆ จะเรียนสองตัวนี้ครับ ข้อแตกต่างก็คือกายอุปกรณ์เทียมมีไว้สำหรับคนไข้ที่สูญเสียอวัยวะ แขนขาด ขาขาด แต่กายอุปกรณ์เสริมมีไว้สำหรับคนไข้ที่มีสภาพเป็นโปลิโอ จึงต้องใช้อุปกรณ์ประคองครับ
เนื้อหาในวิชาเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนปี 1 ก็เรียนเหมือนนักศึกษาคณะแพทย์ฯ ทั่วๆ ไป พอขึ้นปี 2 เนื้อหาทั้งหมดจะถูกสอนด้วยภาษาอังกฤษครับ เรียนพรีเซนต์เป็นภาษาอังกฤษ สอบก็ภาษาอังกฤษ เริ่มแตกต่างจากเด็กแพทย์ฯ ที่จะเริ่มเรียนเนื้อหาทางด้านร่างกายและการตรวจโรค แต่ของเราจะเรียนมากกว่านั้น ตอนปี 2 เทอม 1 ต้องเรียนพื้นฐานทุกอย่างเหมือนกับตำราเรียนของแพทย์ครับ แต่พอถัดไปเป็นปี 2 เทอม 2 เราจะเรียนวิชาทางด้านลักษณะของอุปกรณ์แต่ละประเภท เรียนทฤษฎีกายอุปกรณ์ และเราก็ต้องลงมือทำอุปกรณ์ทุกชิ้นครับ เป็นสายลูกผสมระหว่างแพทย์กับวิศวะ เพาะช่าง ซึ่งหมายถึงว่าเราไม่ได้เรียนแล้วเขียนสั่ง แต่ต้องทำเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นออกแบบคนไข้ พอได้แบบมาก็เทปูนใส่ แต่งปูน ขึ้นรูปด้วยพลาสติกหรือเรซินทำเป็นอุปกรณ์สำหรับคนไข้ แล้วมาวัดแนวตามวิธีของเรา
หลักของสาขานี้จะเน้นไปที่การนำทฤษฎีมาประยุกต์ เรียนโรคเพื่อเข้าใจการดำเนินโรค เรียนอนาโตมีเพื่อให้เข้าใจสภาวะร่างกายคน แต่เมื่อทำอุปกรณ์ก็ต้องปรับให้เข้ากับสภาวะโรคคนไข้ แก้ไขนู่นนี่ก็ว่าไป แต่ก็ไม่ได้ละเอียดถึงขั้นจิตรกรรมนะครับ ไม่ได้เน้นสวยงามขนาดนั้น
ขั้นตอนในการทำกายอุปกรณ์แต่ละครั้งเป็นอย่างไร
เริ่มตั้งแต่คนไข้มาหาเรา อย่างแรกที่ต้องทำคือดูโรคคนไข้และตรวจร่างกายซึ่งต้องอาศัยแพทย์เข้ามาช่วย จากนั้นเราต้องมีไอเดียแล้วว่าจะทำอะไร เริ่มหล่อแบบคนไข้ด้วยปูนปลาสเตอร์ พอหล่อแบบเสร็จเอาเฝือกมาตรวจสอบว่าได้อย่างที่คิดไหม แล้วก็เทปูนผสมน้ำธรรมดา ทีนี้มันจะมาลำบากตรงที่การแต่งปูนทั้งอุปกรณ์เทียมอุปกรณ์เสริม ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะงานฝีมือของเรา มันจะมีทฤษฎีว่าใส่อันนั้นเข้าไปเท่านี้ เพิ่มปูนตรงนี้ ต้องแต่งปูนให้โค้งอย่างนี้แล้วจะรับกับกระดูกคนไข้แบบนี้ จากนั้นก็ขึ้นรูป แล้วมาถึงขั้นตอนการเลือกวัสดุว่าจะใช้พลาสติกหรือเรซิน พอได้ชิ้นงานมาเสร็จ ถ้าเป็นอุปกรณ์เทียม ขาเทียมแขนเทียม ก็มาจับแนวให้ใกล้เคียงกับร่างกายคนไข้มากที่สุด ซึ่งมันจะไม่เป๊ะตามหนังสือร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ สุดแล้วแต่ดุลพินิจของเรา เช่นเดียวกับอุปกรณ์เสริม เราก็ต้องมาลองกับคนไข้แล้วก็ปรับให้เข้ากับคนไข้ ขั้นตอนสุดท้ายคือการเก็บความละเอียดของงานก็เป็นที่เรียบร้อยครับงานหนึ่งชิ้น
พื้นฐานของนักศึกษากายอุปกรณ์
ใจครับ คือทุกคนที่เรียนกายอุปกรณ์เริ่มจากศูนย์ ไม่เหมือนคณะอื่น และยังมาเจอภาษาอังกฤษอีก มันก็เลยเหนื่อยมาก ถ้าใครไม่สู้ก็จบ เป็นอะไรที่ต้องปรับตัว นอกจากใจแล้วคงเป็นการใช้ชีวิตด้วยครับ คนที่เหมาะกับสาขาวิชานี้ก็คือคนที่ลุยๆ หน่อย เอาความรู้มาประยุกต์กับการประดิษฐ์
ทราบมาว่าสาขานี้มีจำนวนบัณฑิตค่อนข้างน้อย
เพราะภาพลักษณ์ที่ถูกเขียนว่าคณะแพทย์ไงครับทำให้คนเรียนไม่จบ เพราะว่าเด็กส่วนมากเลือกคณะไม่ได้มองรายละเอียดขนาดนั้นว่าเรียนหนักแค่ไหน น้องมองแค่ว่าเป็นคณะแพทย์เครดิตมันน่าจะดีแต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ส่วนมากคือไม่ใช่ ต้องยอมรับว่าน้องค่อนข้างหาส่วนที่สบายให้ชีวิต หายากนะครับคนที่ชอบชีวิตแบบลุยๆ พอเข้ามาถ้าถามว่าคณะแพทย์มันต้องได้เรียนสบายๆ แค่อ่านหนังสือตรวจคนไข้ มันก็จริงได้ทำจริงๆ แต่ว่าพอเขาต้องมาเจอกับเครื่องจักรเพราะมันเป็นงานประดิษฐ์ถูกไหมครับ มีเครื่องจักร มีสารพัดอย่างมีเรซิน ถ้ามีเรซินก็ต้องแลกกับกลิ่นเหม็น มันเป็นอะไรที่หลายๆ คนรับไม่ได้ ด้วยความที่คนคิดภาพตอนแรกไว้ คือมันจะสบายเพราะมีคำว่าคณะแพทย์นำหน้า มันเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้คนซิ่วออกไป
มีคำแนะนำอะไรสำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนกายอุปกรณ์
อย่าเลือกตามแฟชั่น เพราะว่ากระแสที่มันแรงอยู่ตอนนี้ถึงตอนน้องจบกระแสมันอาจจะตกก็ได้ พี่ว่าอย่าเลือกคณะที่คิดว่า “น่าจะ” ดี หรือ “น่าจะ” สบาย อย่าใช้คำว่า “น่าจะ” กับการเลือกคณะ เพราะมันไม่ใช่แค่ 4 ปีแต่หมายถึงทั้งชีวิต ถ้าคิดจะเลือกคณะใดคณะหนึ่งสมัยนี้เน็ตเวิร์คค่อนข้างจะกว้างขวางครับ มีพี่ๆ ที่เรียนอยู่แต่ละคณะ มีอีเมล์หรืออะไรก็ตามที่น้องสามารถจะถามได้ ถามให้ดีและดูว่ามันใช่ตัวตนของน้องไหม ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่ต้องคิดว่าฉันจะยอมรับได้เพราะสิ่งที่เจออาจจะหนักกว่าที่เห็น ทั้งหมดอยู่ที่เราตั้งเป้าหมายอะไรในชีวิตตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน ถ้าคิดว่าอยากแต่งหน้าสวยๆ มาทำงาน อยากใส่ส้นสูง ขอบอกว่าไม่ใช่กายอุปกรณ์แน่นอน กายอุปกรณ์ไม่ใช่คณะที่จะแต่งหน้าทำผม หรือว่าใส่ส้นสูงสวยๆ ทาลิปสติกมาเรียนได้ เพราะทุกอย่างจะพังในสองชั่วโมงที่เริ่มทำงานครับ
|
โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งผลิตนักกายอุปกรณ์ในชั้นปริญญาตรี ให้มีความรู้ทางการทำกายอุปกรณ์เสริมและกายอุปกรณ์เทียม เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย และหายป่วยแต่ยังมีความพิการอยู่ จนสามารถประดิษฐ์ ดัดแปลง และพัฒนากายอุปกรณ์ให้ทัดเทียมสากล ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรขึ้นเป็นหลักสูตรกายอุปกรณศาสตรบัณฑิตโดยเริ่มใช้กับ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2550 โดยเปลี่ยนจากหลักสูตร 143 หน่วยกิต เป็น 153 หน่วยกิต มีการเพิ่มหน่วยกิตด้านการปฏิบัติมากขึ้น ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่เว็บไซต์ http://sspo.ac.th/th_introduction.html |