Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
Presentation แนะนำภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  Favorite

          Presentation ที่บอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับ ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชานี้เรียนอะไร มีคยวามสำคัญอย่างไร เรียนจบแล้วจะทำงานหรือศึกษาต่อด้านใดได้บ้าง หาคำตอบได้ใน วีดีโอคลิปสามตอนด้านบน

          นอกจากนี้เรายังได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.นิรมล กุลศรีสมบัติ ประธานหลักสูตรผังเมืองบัณฑิต มาให้รายละเอียด เจาะลึกเกี่ยวกับหลักสูตรปริญญาตรีของภาควิชาอย่างละเอียด เรียนกี่ปี ปีไหนเรียนอะไรบ้าง การเรียนการสอนเป็นอย่างไร อาจารย์บอกไว้อย่างละเอียดเลยค่ะ

บทสัมภาษณ์ ผศ. ดร. นิรมล กุลศรีสมบัติ

แนะนำหลักสูตรภาควิชาสถาปัตยกรรมผังเมือง

หลักสูตรการวางผังเมืองบัณฑิต สาขาสถาปัตยกรรมผังเมือง เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย เปิดสอนเป็นครั้งแรกเมื่อปี 47 เพื่อสร้างสถาปนิกผังเมือง หรือ urban designer เรียนทั้งหมด 5 ปี ได้ปริญญาการวางผังเมืองบัณฑิต (ผ.บ.) หรือ Bachelor of Urban Planning (B.U.P.)

สถาปนิกผังเมืองอาจวิชาชีพที่ฟังไม่ค่อยคุ้นหูเพราะค่อนข้างใหม่ประเทศไทย แต่มีมานานแล้วให้ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศแถบอเมริกา ยุโรป หรือในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือเกาหลี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นวิชาชีพใหม่ แต่วิชาชีพสถาปนิกผังเมืองเป็น 1 ใน 4 ของวิชาชีพสถาปัตยกรรมตามพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ.2543 มีการควบคุมโดยสภาวิชาชีพ ต้องมีใบอนุญาตหรือ license จึงจะประกอบอาชีพได้

งานของสถาปนิกผังเมืองจะเป็นการออกแบบวางผัง สภาพแวดล้อมทางกายภาพของเมือง ชุมชนเมือง ชุมชน รวมทั้งโครงการกลุ่มอาคาร ตลอดจนโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการภายในพื้นที่ โดยกฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม พ.ศ.2549 ได้กำหนดขอบเขตของงานในสาขาสถาปัตยกรรมผังเมืองไว้อย่างชัดเจน ประกอบด้วยการวางผังสำหรับพื้นที่หรือกลุ่มอาคาร 7 ประเภท ได้แก่

1. การวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ 
2. ผังโครงการจัดรูปที่ดิน 
3. ผังโครงการจัดสรรที่ดิน 
4. ผังโครงการอนุรักษ์ ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม 
5. ผังโครงการปรับปรุงเขตเพลิงไหม้ 
6. ผังโครงการนิคมอุตสาหกรรม 
7. ผังกลุ่ม อาคารที่ประกอบด้วยอาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารสาธารณะ อาคารสูง และอาคารพิเศษที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 30,000 ตารางเมตรขึ้นไป


แต่ละชั้นปีเรียนอะไรบ้าง

เรียนทั้งหมด 5 ปี รวม 162 หน่วยกิต

การเรียนใน 2 ปีแรกเป็นการปูความรู้พื้นฐานที่สำคัญ

ปี 1 เทอมต้น เรียนรวมกับภาคสถาปัตย์เพื่อปูความรู้ทั่วไปด้านสถาปัตยกรรม

ปี 1 เทอมปลาย จะแยกออกมา เริ่มเรียนตั้งแต่การเรียนรู้ตั้งแต่ร่างกายมนุษย์และธรรมชาติ เพื่อออกแบบสิ่งปกคลุมร่างกายหรือ shelter ให้ตอบสนองกับสัดส่วนมนุษย์ และสอดคล้องกับเงื่อนไขธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ ลม อากาศ โดยอาคารสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกที่กำลังพูดกันว่าจะเป็นสิ่งจำเป็นในอนาคตสำหรับเมืองน้ำท่วมอย่างกรุงเทพ นิสิตก็ฝึกฝนออกแบบในสตูดิโอนี้

ปี 2 จะเริ่มทำความคุ้นเคยกับกระวนการออกแบบวางผังกลุ่มอาคารประเภทต่างๆ ตั้งแต่โครงการอยู่อาศัยขนาดเล็กความหนาแน่นน้อย ไปจนถึงการวางผังมหาวิทยาลัย หรือโครงการพาณิชยกรรมขนาดใหญ่

ปี 3-5 จะเป็นเริ่มเข้าสู่งานวิชาชีพ คือ ผัง 7 ประเภทตามพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ.2543

ปี 3 เทอมต้น โจทย์จะเริ่มจากบริบทที่มีความซับซ้อนน้อยก่อน คือ พื้นที่ชานเมือง งานจะเป็นการออกแบบวางผังพัฒนาย่านชานเมือง เช่น ผังหมู่บ้านจัดสรร ผังจัดรูปที่ดิน และผังเฉพาะ พื้นที่โครงการจะเป็นย่านชานเมืองกรุงเทพทั่วไป มีวิชาประกอบเช่นการวางผังการขนส่งเมือง + เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)

ปี 3 เทอมปลายเริ่มเคลื่อนเข้าสู่เมือง โดยโจทย์จะเป็นพื้นที่เมืองที่มีสภาพเสื่อมโทรมจำเป็นต้องพัฒนาฟื้นฟูเมือง เช่น ย่านมักกะสัน ที่เป็นจุดสถานีเชื่อมต่อ airport link กับ bts หรือพื้นที่ท่าเรือคลองเตย วิชาเรียนประกอบ ได้แก่ การวางผังโครงสร้างพื้นฐานเมือง + สังคมวิทยาเมือง

ปี 4 เทอมต้นโจทย์เริ่มซับซ้อนมากขึ้น จะเป็นเรื่องของเมืองชั้นในที่มีสภาพเสื่อมโทรม แต่มีบางส่วนที่นำมาฟื้นฟู recycle ใช้ประโยชน์ได้ เช่น ย่านตึกแถวเก่าๆในกรุงเทพ เช่น ย่านพระโขนง ย่านรองเมือง / การฟื้นฟูย่านอุตสาหกรรมเก่า หรือ brownfield เช่น ย่านคลังน้ำมันแถวคลองเตย / ย่านโกดังเก่าริมน้ำคลองสาน-ท่าดินแดง-ท่าสี่ตา วิชาเรียนประกอบ ได้แก่ การวางแผนและจัดการสิ่งแวดล้อม + เศรษฐศาสตร์เมือง

ปี 4 เทอมปลายโจทย์จะซับซ้อนมากที่สุด เนื่องจากเป็นย่านชั้นในและเก่าที่สุดของเมือง ได้แก่ ย่านประวัติศาสตร์ของเมืองที่มีอาคารที่มีคุณค่าต้องอนุรักษ์เก็บรักษาไว้ เช่นเกาะรัตนโกสินทร์ / ฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร วิชาเรียนประกอบ การบริหารจัดการเมือง+ การควบคุมการวางผังและออกแบบเมือง

ปี 5 เทอมต้นเป็นการเริ่มทำงานวางผังเมืองรวม ได้เรียนและทำงานร่วมกับรุ่นพี่ปริญญาโทในรูปแบบของ joint-studio

ปี 5 เทอมปลายเป็นวิทยานิพนธ์ เป็นการประมวลความรู้ทั้งหมด โดยนิสิตจะเลือกโจทย์และพื้นที่เองตามความถนัด

กระบวนการเรียนการสอนนั้น นอกจากการฟังบรรยายให้ห้องเรียนแล้ว เราเน้นการพานิสิตทัศนศึกษาออกพื้นที่ตลอด โปรเจคต์จะเป็นพื้นที่ศึกษาจริง

และที่พิเศษกว่าภาควิชาอื่น คือในปี 4 เทอมปลาย หลังจากนิสิตได้เรียบครบทุกประเภทผังแล้ว เราจะพานิสิตทุกคนไปเปิดโลกทัศน์โดยการทัศนศึกษาต่างประเทศ โดยเลือกประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมเมืองและมีบริบทใกล้เคียงกับประเทศไทย เช่น ประเทศญี่ปุ่น / เกาหลี / มาเลเซีย / สิงคโปร์ โดยทางหลักสูตรสนับสนุนงบประมาณเกือบทั้งหมด ในการทัศนศึกษานิสิตก็จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์จากมหาวิทยาลัยประเทศนั้นๆ หน่วยงานที่มีหน้าที่ออกแบบสถาปัตยกรรมเมืองทั้งภาครัฐ/ภาคเอกชน

อยากให้อาจารย์บอกถึงโปรเจคต์ที่ได้ทำร่วมกับคณะหรือนิสิต ที่ประทำใจ หรือเป็นผลงานที่มีประโยชน์

เนื่องจากนิสิตต้องจบเป็นสถาปนิกผังเมืองที่มีคุณภาพ นอกเหนือจากความรู้ทางเทคนิคที่ได้เรียนในห้องเรียนแล้ว ทางหลักสูตรฯพยายามส่งเสริมให้นิสิตมีประสบการณ์จากภาคสนามจริง สถาปนิกผังเมืองที่ดีต้องรู้จักเมือง รู้จักวิถีของคนที่อยู่ในเมือง รู้จักประสานประโยชน์ของคนกลุ่มหลายหลายในเมือง ตลอดจนการมีจิตสาธารณะ

ดังนั้น ทุกๆปิดเทอมเราจะมี workshop ที่ให้นิสิตลองไปทำงานกับชุมชน ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องก็ที่ย่านกะดีจีนและย่านคลองสานซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ของฝั่งธนบุรี ตรงข้าม รร.ราชินี/ปากคลองตลาด นิสิตอาสาลงไปทำแผนที่มรดกวัฒนธรรมเพื่อจดบันทึกอาคารสถานที่ที่มีคุณค่า ทำการวางผังออกแบบพื้นที่สาธารณะที่สำคัญของชุมชน รวมทั้งจัดงานกะดีจีน-ศิลป์ในซอย ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะกลางแจ้ง กิจกรรมนี้นอกจากฝึกให้นิสิตทำงานร่วมกับชุมชนซึ่งเป็นลูกค้าจริงของเราแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ใช้พื้นที่ ยังเปิดโอกาสให้นิสิตทำงานกับวิชาชีพหรือองค์กรอื่นๆเช่น สถาปนิก ภูมิสถาปนิก นักประวัติศาสตร์ สำนักงานเขต กทม. ฯลฯ เหมือนเป็นการทดสอบความรู้ที่ได้เรียนมาในชั้นเรียนก่อนออกสู่สนามจริง ผลคือนิสิตส่วนใหญ่เก่งขึ้น หลักฐานยืนยันล่าสุดคือนิสิตอาสาช่วยงาน ไปร่วมโครงการประกวดแบบ DESIGN HEROES จัดโดยนิตยสาร Art4D / สสส. / Toyota ซึ่งมุ่งให้ผู้เข้าประกวดทำงานออกแบบร่วมกับชุมชน ผลคือทีมนิสิตเรากวาด 2 จาก 5 รางวัล โดยได้รางวัลชนะเลิศและรางวัลขวัญใจกรรมการด้านการออกแบบ

โครงการในต่างจังหวัดก็มีชุมชนอัมพวา จ.สมุทรสงคราม และอีกหลายชุมชนในลุ่มน้ำแม่กลอง ต่างประเทศก็มีจัดเป็นประจำ เช่น มหาวิทยาลัย Alborg, Denmark / มหาวิทยาลัย Versaille และ มหาวิทยาลัย Bellville, France เดือนมกราคมปี 55 มหาวิทยาลัย Tunghai จากไต้หวันก็อยากมาจัด workshop ร่วมกับเรา

ภาควิชาฯกำหนดให้นักศึกษาต้องฝึกงานหรือไม่

นิสิตต้องฝึกงานเหมือนภาควิชาอื่นคือ 200 ชั่วโมง

ที่ผ่านมา หน่วยงานที่รับนิสิตเราเข้าฝึกงานก็มีความหลากหลาย ทั้งหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการออกแบบสถาปัตยกรรมผังเมืองภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ

หน่วยงานภาครัฐในประเทศ เช่น สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร / เทศบาล-เทศบาลนครในจังหวัดต่างๆ / กรมโยธาธิการและผังเมือง / การเคหะแห่งชาติ

หน่วยงานภาคเอกชนภายในประเทศ เช่น บริษัทที่ทำงานด้านการออกแบบวางผัง บริษัทคอนซัลต์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ. AXIS / บ.A7 corp / บ.LPN / บ.พฤกษา เรียลเอสเตท /

หน่วยงานภาคเอกชนต่างประเทศ ก็มีบริษัท urban design ในประเทศฮ่องกง / สิงคโปร์ / จีน เช่น บริษัท EDAW / AECOM

หรือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNESCO ที่รับเด็กเราเข้าไปฝึกงานในโครงการบูรณะปราสาทวัดพู แคว้นจำปาศักดิ์ ประเทศลาว นิสิตบางคนสนใจฝึกงานกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซีย ไปทำโครงการเมืองมะละกา ที่เป็นเมืองมรดกโลก หรือ อนุรักษ์เมืองไทปิง หรือมหาวิทยาลัย Tunghai ประเทศไต้หวัน

เรียนจบภาควิชานี้ ประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง

งานเปิดกว้างทั้งภาครัฐและเอกชน

บัณฑิตที่จบจากหลักสูตรสถาปัตยกรรมผังเมือง สามารถรับราชการในหน่วยงาน อาทิ สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร / เทศบาล-เทศบาลนครในจังหวัดต่างๆ / กรมโยธาธิการและผังเมือง / การเคหะแห่งชาติ
หรือทำงานในบริษัทเอกชน อาทิ บริษัทออกแบบวางผัง บริษัทคอนซัลต์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์
โดยเฉพาะในภาคเอกชนนี้ ตลาดยังเปิดกว้างมากๆในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง

ในเมืองไทยมีความต้องการคนมีความรู้ด้านนี้มากน้อยแค่ไหน

เป็นสาขาขาดแคลน เราเพิ่งผลิตบัณฑิตได้ 7 รุ่น รุ่นละประมาณ 20-30 คน ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการสถาปนิกผังเมือง ไม่เฉพาะในประเทศเราแต่ต่างประเทศด้วย หากเราดูจากแนวโน้มของโลก คนอาศัยอยู่ในเมืองเพิ่มขึ้น เมืองขยายตัวทุกทิศทาง ความต้องการด้านการออกแบบเมืองให้คนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็เพิ่มเป็นเงาตามตัว ภาพลักษณ์ ความสวยงามของเมืองมีผลอย่างมากกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของเมืองนั้นๆ อย่างล่าสุดบัณฑิตของเราไปทำงานอยู่บริษัท urban design ที่ประเทศจีน ก็ส่งข่าวมาว่าที่นั่นมีความต้องการสถาปนิกผังเมืองมากๆ

แนวทางการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านผังเมืองสามารถเรียนอะไรต่อไปเพื่อเน้นหนักด้านใดได้บ้าง

เรียนต่อได้ทั้งในสาขา urban design / urban planning / real estate

หรือสามารถเรียนต่อในภาควิชาต่อได้เลยทั้งระดับ ป.โท / ป.เอก
ปริญญาโท
- สาขาวิชาการออกแบบชุมชนเมือง
- สาขาวิชาการวางแผนภาคและเมือง
ปริญญาเอก
- สาขาวิชาการวางแผนภาคและเมือง

 

Tags
Posted by
Plook Admissions.
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us