สุไรดาพาคิด
1. นิทานหรรษา
จุดประสงค์
1. ตอบคำถามและจับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
2. สามารถคิดวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของตัวละครได้
3. สรุปข้อคิดที่ได้รับจากการอ่านนิทานเพื่อนำไปใช้ได้
กระบวนการอ่านคิดวิเคราะห์
1. รวบรวมข้อมูล - ตั้งคำถาม - ดูภาพประกอบ - สังเกตุบริบพ
2. จับใจความ - ตอบคำถาม ใคร/ทำอะไร/ที่ไหน/อย่างไร/เมื่อไร
3. สรุปความ/ประเมินค่า - สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม - สรุปความ - หาหลักฐานประกอบ
ประเมินค่าความน่าจะเป็น/ความน่าเชื่อถือ - แสดงความคิดเห็น
4. ประยุกต์ใช้ - ข้อคิดที่ได้รับ - ประโยชน์ - การนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต
นิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่อง “แวปูรง”
มีครอบครัวหนึ่ง ยากจนมาก อยู่กันสองคน คือ พ่อและลูกชายชื่อ แวปูรง วันหนึ่งแวปูรงไปตกปลาเขาตกได้ปลาตัวใหญ่ ปลาตัวนั้นร้องขอชีวิตแวปูรงนึกสงสารจึงปล่อยปลาไป ปลาได้มอบแหวนให้วงหนึ่ง เมื่อแวปูรงกลับบ้านไม่มีปลา พ่อโกรธมาก จึงไล่ออกจากบ้านไป แวปูรงเดินไปพบทหารกำลังสร้างเรือรบกันอยู่ แวปูรงจึงถามว่า “สร้างเรือทำไม” ทหารตอบว่า พระราชาต้องการจะพาพระธิดาไปหานกอินทรีที่ดุร้ายเพื่อไม่ให้นกอินทรีมาทำร้ายชาวเมือง แวปูรงพูดกับทหารว่า “เรือขนาดนี้ฉันสร้างวันเดียวก็เสร็จและสวยด้วย”
ทหารไม่พอใจ กลับไปทูลพระราชา พระราชาจึงสั่งให้ทหารมาบอกให้แวปูรงสร้างเรือให้เสร็จในวันเดียว ถ้าไม่เสร็จจะถูกประหารชีวิต แวปูรงพูดว่า
“พรุ่งนี้มาดูได้เลย”
ตกตึกแวปูรงถูแหวนและอธิษฐาน ขอให้มีเรือตามพระราชประสงค์ของพระราชาพอจบคำอธิษฐานก็มีเรือวางอยู่ตรงหน้าแวปูรง
รุ่งขึ้นพระราชาเสด็จมาทอดพระเนตร เห็นเรือสวยงามมาก พระราชาจึงรับสั่งให้พระธิดาลงไปในเรือเพื่อไปหานกอินทรี แวปูรงขอติดตามไปด้วย และเมื่อไปถึงรังนกอินทรีดุร้าย ได้ต่อสู้กับนกอินทรีฆ่านกอินทรีตาย แวปูรงจึงพาพระธิดากลับพระราชวัง พระราชาดีพระทัยมากและยกธิดาให้อภิเษกสมรสแบแวปูรง ทั้งสองครองรักและปกครองบ้านเรือนด้วยความสงบสุขตลอดมา
ดัดแปลงจากนิทานพื้นบ้านชายแดนภาคใต้
โดยประพนธ์ เรืองณรงค์
นิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่อง “สองเกลอ”
ซีบูตอ หรือตาบอด และซีตูลี หรือเจ้าหูหนวก ทั้งสองเป็นเพื่อนเกลอกัน วันหนึ่งเจ้าหูหนวกชวนเจ้าตาบอดไปดูวายังกูลิต หรือหนังตะลุง ซีบูตอพยักหน้า “ถ้าหนังออกตัวตลก เช่น เวาะเยาะกับสะอิรบยักษ์ ช่วยสะกิดข้าด้วยนะ ข้าจะหัวเราะให้ดังทันที” ซีตูลีรีบจูงมือเพื่อนไปดูหนังตะลุง เมื่อหนังตะลุงออกรูปตัวตลกครั้งใด ก็โดนสะกิดครั้งนั้น เจ้าตาบอดก็หัวเราะจนงอหงายเล่นเอาคนอื่น ๆ พิศวงไปตาม ๆ กัน
เมื่อหนังตะลุงเลิกแล้ว สองเกลออยากกินไก่ย่างฟรี ๆ เลยชวนกันไปขโมยไก่ที่บ้านเมาะซากินา ขณะนั้นดึกมากแล้ว เมาะซากินายังไม่นอน เมาะชอบกินหมากและชอบตะบันหมากมาก สองเกลอแอบอยู่ใต้ถุนบ้าน เขาได้ยินเสียงเก๊าะ ๆ แก๊ะ ๆ เนื่องจากหมากแข็งมาก เมาะซากินาตะบันหมากแรงเท่าไหร่ หมากก็ไม่แตก เมาะพูดเป็นภาษามลายูถิ่นว่า “มาโซะ เต๊าะมาโซะ” สองเกลอฟังแล้วก็ตกใจ เข้าใจว่าเจ้าของบ้าน คว้าอาวุธมาเล่นงานเลยรีบโกยอ้าวทันที
เจ้าตาบอด และเจ้าหูหนวกวิ่งไปเหยียบด้ามจอบ ด้ามจอบตีหัวดังโป๊ก และวิ่งไปชนต้นมันสำปะหลัง (ปูฮงอูธบีกายู) ตามต้นมีหอยทากตัวเล็ก ๆ เกาะอยู่มากมาย หอยทากกระเด็นใส่หน้า ทำให้ทั้งสองเกลอเข้าใจว่า เจ้าของบ้านใช้ปืนล่าสังหารเลยต่างวิ่งหนีอย่างสุดชีวิ
ดัดแปลงจากนิทานพื้นบ้านชายแดนภาคใต้
โดยประพนธ์ เรืองณรงค์
อ่านเพิ่มเติมความรู้
วายังกูลิต
วายังกูลิตหรือหนังตะลุง หมายถึงการละเล่นพื้นบ้านของภาคใต้ ใช้หนังสัตว์ ทำตัวละครเชิดไปตามบท
ตะบัน
นาม หมายถึง เครื่องตำหมาก มีรูปคล้ายกระบอก
กริยา หมายถึง ทิ่มหรือแทง กดลงไป
ปูฮงอูบีกายา
หมายถึง พืชชนิดใช้รากเป็นอาหาร ปลูกมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ใบของมันเป็นอาหารที่หอยทากชอบกิน ต้นมันสำปะหลัง บางต้นจึงมีหอยทากเต็มไปหมด
มาโซะ เต๊าะมาโซะ
หมายถึง จะเข้าก็ไม่เข้า
2. โฆษณาน่าพินิจ
จุดประสงค์
1. อ่านบทอาขยายได้ถูกต้อง
2. ตีความหมายของคำได้
3. คิดเชิงเปรียบเทียบข้อมูลได้
4. สรุปแนวคิดและนำไปใช้ตามความต้องการได้
อาซิด : พี่สุไรดากำลังอ่านหนังสืออยู่ ผมขออนุญาตดูทีวีได้ไหมครับ
สุไรดา : ได้สิจ้ะ
อาซิด : พี่สุไรดา ดูโฆษณาสิครับ น่าซื้อมาดื่มจังเลย ผมอยากจะดื่มโคซี่ตามคำโฆษณาแล้วซิพี่
สุไรดา : อาซิด ก่อนดื่มต้องคิดให้ดีก่อนนะ
อาซิด : เดินไปที่ตู้เย็นและหยิบน้ำอัดลมโคซี่ขึ้นมาดื่ม “โอ๊ย..ปวดท้องจังเลย”
สุไรดา : อาซิดกำลังจะกินยาอะไร
อาซิด : ผมปวดท้องกำลังจะกินยาครับ
สุไรดา : กินข้าวเช้าหรือยัง
อาซิด : ยังครับ แต่ผมดื่มน้ำอัดลมไปแล้ว 1 ขวดครับ
สุไรดา : อาซิด นี่ยาธาตุน้ำแดง ไม่ได้แก้ปวดท้อง อาซิดต้องกินยาธาตุน้ำขาว ไม่ใช่ยาธาตุน้ำแดงการอ่านฉลากยาต้องอ่านทุกครั้งที่จะกินยา และต้องอ่านอย่างละเอียดด้วย เพราะนอกจากจะไม่หายแล้ว จะมีผลข้างเคียง หรือบางทีกินยาผิดมีผลต่อชีวิตเลยนะ
อาซิด : ครับพี่ ต่อไปผมจะระวังครับ
สุไรดา : ลองอ่านวิธีใช้ ดูซิ อาซิดลองคิดต่อซิ ว่า สาเหตุของการปวดท้องคืออะไร
อาซิด : ผมรู้แล้วครับ ว่าเพราะผมดื่มน้ำอัดลม ต่อไปผมจะไม่เชื่อโฆษณาอีกแล้วครับ
ก่อนเชื่อสิ่งใดให้พิสูจน์ ก่อนพูดยั้งคิดวินิจฉัย
ก่อนทำกิจกรรมงานสิ่งใด จงคิดให้รอบคอบจึงชอบการ
พี่สุไรดา มาดูโฆษณานี้ซิ ว่ามันจะหอมไปไกลเจ็ดกิโลจริง ๆ เหรอครับ
การอ่านวิเคราะห์โฆษณา
1. อ่านให้เข้าใจ เป็นการอ่านที่ต้องใช้ความคิดพิจารณาแยกแยะว่า โฆษณานั้นเป็นสินค้าประเภทใดใช้กับใคร เพื่ออะไร และผลเป็นอย่างไร
2. วิเคราะห์ข้อเท็จจริง อ่านเพื่อพิจารณาว่า ข้อความใดเป็นข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือได้ ข้อความใดเป็นเพียงข้อคิดเห็น ซึ่งอาจเชื่อได้หรือเกินความเป็นจริง จนไม่น่าเชื่อ
3. ตัดสินใจเลือกนำไปใช้ หลังจากพิจารณาได้แล้วว่า สิ่งนั้นดีหรือไม่ดี น่าเชื่อถือ หรือไม่น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจไปใช้ในชีวิตประจำวัน
4. วิเคราะห์เหตุผล อ่านพิจารณาเพื่อให้ทราบถึงเหตุและผลที่มาของปัญหา และการแก้ปัญหา สืบเนื่องจากประโยชน์ของโฆษณานั้นๆ
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน