Error Identification หรือ Error Recognition คือ ข้อสอบการจับผิดส่วนที่ผิดในประโยค โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการวัดความรู้ความสามารถในด้านไวยากรณ์และการเขียน ซึ่งเป็นข้อสอบที่ค่อนข้างยากสำหรับนักเรียนหลายๆ คน นักเรียนสามารถดูตัวอย่างต่อไปนี้แล้วจดจำเทคนิคต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการทำข้อสอบจริงต่อไป
ลักษณะของข้อสอบ Error Identification
Tokyo is definitely one of the most large cities in the world.
1 2 3 4
จากตัวอย่างจะเห็นว่าจะมีประโยคมาหนึ่งประโยคและมีบางคำหรือวลีถูกขีดเส้นใต้ไว้ นักเรียนจะต้องวิเคราะห์หาส่วนที่ขีดเส้นใต้ที่ผิดไวยากรณ์หรือมีความหมายไม่เหมาะสมกับทั้งประโยค โดยพิจารณาไปทีละตัวเลือก ตรวจสอบว่าตัวเลือก 1-4 นั้นใช้โครงสร้างและไวยากรณ์ที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ และจะเหลือเพียงแค่ตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่เป็นตัวเลือกที่ผิด
ตัวเลือก 1 คำกริยา is ใช้กับประธาน Tokyo ซึ่งเป็นเอกพจน์ ถูกต้องตามไวยากรณ์
ตัวเลือก 2 กริยาวิเศษณ์ definitely แปลว่า อย่างแน่นอน ตำแหน่งและความหมายถูกต้อง
ตัวเลือก 4 รูปพหูพจน์ของนาม city คือ cities และใช้กับ one of the ถูกต้อง
ตัวเลือก 3 โครงสร้าง the most ต้องตามด้วยคุณศัพท์ขั้นสุด ต้องแก้ the most large เป็น the most largest จึงจะถูกต้อง ดังนั้นตอบตัวเลือก 3
เรื่องที่มักนำมาใช้ออกข้อสอบ Error Identification
1. Word Form (ชนิดของคำ)
Sweetly smelling perfumes are added to soap to make it appealing.
1 2 3 4
จากโจทย์ smelling ทำหน้าที่เป็นคำนาม คำที่วางหน้าคำนามจะต้องเป็นคำคุณศัพท์ ดังนั้นในตัวเลือก 1 ต้องแก้จาก Sweetly smelling เป็น Sweet smelling
2. Verb (กริยา)
Calculus was invented to deal with problems that could not be solving using algebra or geometry.
1 2 3 4
จากประธาน that ใช้แทนคำว่า problems ซึ่งเป็นนามที่ไม่ใช่คนจึงไม่สามารถกระทำอาการเองได้ ต้องใช้รูปถูกกระทำ ดังนั้นตัวเลือก 3 แก้จาก be solving เป็น be solved
*คำกริยานั้นต้องพิจารณาไวยากรณ์เรื่อง passive voice/tense/non-finite verb/subject-verb agreement
3. Parallel Structure (โครงสร้างคู่ขนาน)
Sleeping well is as important to good health as to eat well.
1 2 3 4
จากประโยคขึ้นต้นด้วยกริยา Sleeping ดังนั้นหลังโครงสร้าง as … as จะต้องใช้รูปที่สอดคล้องกัน ตัวเลือก 4 ต้องแก้จาก to eat เป็น eating
4. Connective (คำเชื่อม)
The secretary hid the key to his desk before he locked the contract in it.
1 2 3 4
จากความหมายของประโยค การซ่อนกุญแจจะต้องเกิดหลังจากใส่สัญญาแล้ว ดังนั้นตัวเลือก 2 ต้องแก้จาก before เป็น after
5. Pronoun (สรรพนาม)
Although Mike liked him new apartment very much, he found it somewhat noisy.
1 2 3 4
นาม apartment เป็นนามนับได้ ต้องใช้กับสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ ดังนั้นตัวเลือก 1 ต้องแก้จาก him เป็น his
6. Pair Expression (คำคู่)
Either he will go to the movie, nor he will go to the play.
1 2 3 4
either จะต้องใช้คู่กับ or ดังนั้นในตัวเลือก 3 จะต้องแก้จาก nor เป็น or
7. Comparative (การเปรียบเทียบ)
She has scored up to five as much times as Robin on that exam.
1 2 3 4
จากโครงสร้างการเปรียบเทียบ as … as นั้นจะได้ว่าในตัวเลือก 2 นั้นไม่ถูกต้อง ต้องแก้จาก five as much times as เป็น five times as
8. Clause (วลี)
The house which I live in is big and comfortable.
1 2 3 4
ใน adverb clause นี้คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนาม house จะต้องเป็น where เนื่องจากใช้กับสถานที่ ดังนั้นแก้ตัวเลือก 2 จาก which เป็น where
9. Preposition (คำบุพบท)
Often the bottom of a pan or skillet becomes black when it is place among a fire.
1 2 3 4
บุพบท among แปลว่าท่ามกลาง ใช้กับนามพหูพจน์ ดังนั้นต้องแก้ตัวเลือก 4 จาก among เป็น in จึงจะถูกต้อง
10.Redundancy (คำซ้ำซ้อน)
Any old elephants they die after they lose their teeth and can no longer chew food.
1 2 3 4
จากประโยค ประธานคือ elephants กริยาหลักคือ die ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ they ในตัวเลือก 1 อีกเพราะทำให้เกิดประธานซ้ำกัน
11. Participle (กริยาไม่แท้ รูปกระทำ/รูปถูกระทำ)
The surprised message about the salary cuts made everyone very unhappy.
1 2 3 4
คำนาม message มีคุณศัพท์ surprised ขยาย ในเรื่อง participle นั้นถ้าเป็นรูปถูกกระทำจะใช้รูป ~ed หากเป็นรูปกระทำจะใช้รูป ~ing ซึ่งคำนาม message นั้นไม่สามารถกระทำเองได้ จะต้องใช้ participle รูปถูกกระทำ ดังนั้นต้องแก้ตัวเลือก 1 จาก surprised เป็น surprising
12. Conditional Sentence (ประโยคเงื่อนไข)
I would give you a lift to the airport if I drive a car.
1 2 3 4
จากโครงสร้าง If + S + would, S + V2
ดังนั้นต้องแก้ตัวเลือก 3 จาก drive เป็น drove