ปัจจุบันการใช้ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมาก เช่นถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งเป็นที่นิยมและมีปริมาณการใช้งานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน เช่น ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ส่วนใหญ่สลายตัวยาก เมื่อมีปริมาณการใช้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีปริมาณขยะมากขึ้น บางส่วนถูกทิ้งลงในแม่น้ำ ส่งผลให้แหล่งน้ำเน่าเสีย บางส่วนลอยลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเล หากปล่อยให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติต้องใช้เวลานานหลายสิบหลายร้อยปี หากนำไปเผาจะก่อให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และแก๊สพิษอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อบรรยากาศ หรือหากนำไปฝังดินอาจทำให้ดินบริเวณนั้นเสื่อมสภาพได้ ปัจจุบันจึงมีแนวทางในการแก้ปัญหาขยะพลาสติก ดังนี้

1. การลดการใช้ (reduce)

เป็นการใช้ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ให้น้อยลง อาจใช้วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติแทน ตัวอย่างเช่น ใช้ใบตองห่ออาหาร นำถุงผ้ามาใช้ใส่ของ เพื่อลดการใช้พลาสติก

2. การใช้ซ้ำ (reuse)

เป็นการนำผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ที่ใช้แล้ว แต่ยังมีคุณภาพกลับมาใช้งานอีกครั้ง เช่น การใช้ถุงพลาสติกใส่ของที่ได้มาจากร้อนสะดวกซื้อไปใช้ใส่ขยะ

3. การนำกลับมาใช้ใหม่หรือการแปรรูปใหม่ (recycle)

เป็นการนำผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ที่ผ่านการใช้งานแล้วมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การนำเอาขวดน้ำพลาสติกมาผ่านกระบวนการย่อยให้กลายเป็นเม็ดพลาสติกแล้วนำมาหลอมขึ้นใหม่ เป็นเส้นใย นำไปนำเป็นเสื้อผ้าได้

ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ที่นิยมนำกลับมาใช้ใหม่หรือแปรรูปใหม่ คือ พลาสติก ซึ่งพลาสติกแต่ละชนิดก็นำไปแปรรูปได้แตกต่างกัน ดังนั้น ต้องมีการคัดแยกประเภทของพลาสติกก่อนที่จะนำไปแปรรูปใหม่ ซึ่งสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกแห่งสหรัฐอเมริกา ได้มีการกำหนดสัญลักษณ์เพื่อแสดงประเภทของพลาสติกที่สามารถนำกลับมาแปรรูปใหม่ได้ ดังนี้