การเขียนสูตรโมเลกุลของสารประกอบโคเวเลนต์ ให้เขียนสัญลักษณ์ของธาตุที่เป็นองค์ประกอบ โดยเขียนสัญลักษณ์ของธาตุที่เป็นอะตอมกลางและตามด้วยธาตุที่ล้อมรอบ โดยเรียงลำดับจากธาตุที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีต่ำ ตามด้วยธาตุที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีสูง และถ้าธาตุใดมีจำนวนอิเล็กตรอนมากกว่า 1 อะตอม ให้ระบุจำนวนอะตอมของธาตุนั้นไว้มุมล่างด้านขวาของสัญลักษณ์ เช่น NO2, H2O, H2SO4 เป็นต้น และการเรียกชื่อสารโคเวเลนต์ มีหลักการดังนี้
การเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์มีหลักการ ดังนี้
1. สารประกอบโคเวเลนต์ที่โมเลกุลประกอบด้วยธาตุเพียงชนิดเดียว ให้เรียกชื่อตามชื่อของธาตุนั้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่โมเลกุลเหล่านี้มีสถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมิห้อง จึงนิยมเรียกชื่อโดยระบุสถานะด้วย เพื่อให้แตกต่างจากอะตอมของธาตุนั้น เช่น O2 เรียกว่า แก๊สออกซิเจน N2 เรียกว่า แก๊สไนโตรเจน เป็นต้น
2. สารประกอบโคเวเลนต์ที่โมเลกุลประกอบด้วยธาตุ 2 ชนิด ให้เรียกชื่อธาตุที่อยู่ด้านหน้าก่อน แล้วตามด้วยธาตุที่อยู่ด้านหลัง และเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายเป็น ไ-ด์ (-ide)
การระบุจำนวนอะตอมของแต่ละธาตุที่เป็นองค์ประกอบในโมเลกุล จะระบุด้วยภาษากรีก ดังนี้
จำนวนอะตอม |
ภาษากรีก |
จำนวนอะตอม |
ภาษากรีก |
1 |
มอนอ (mono) |
6 |
เฮกซะ (hexa) |
2 |
ได (di) |
7 |
เฮปตะ (hepta) |
3 |
ไตร (tri) |
8 |
ออกตะ (octa) |
4 |
เตตระ (tetra) |
9 |
โนนะ (nona) |
5 |
เพนตะ (penta) |
10 |
เดคะ (deca) |
ในกรณีที่ธาตุแรกมีเพียงอะตอมเดียว ไม่ต้องระบุจำนวนอะตอมของธาตุนั้น แต่ธาตุหลังยังคงระบุจำนวนอะตอมแม้ว่าจะมีเพียงอะตอมเดียวก็ตาม
การเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์บางชนิด เช่น สารประกอบออกไซด์ นิยมเรียกชื่อ โดยตัดตัวอักษรสุดท้ายของภาษากรีกที่ระบุจำนวนอะตอมออก เช่น CO คาร์บอนมอนอออกไซด์ (carbon monoxide) นิยมเรียกเป็น คาร์บอนมอนอกไซด์ (carbonmonoxide)
ตัวอย่างการเขียนสูตรและเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์