ชีวนิเวศ (ไบโอม)
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
13 พ.ค. 67
 | 70.8K views



ชีวนิเวศ หรือไบโอม (biomes) หมายถึง ระบบนิเวศใดก็ตามที่มีองค์ประกอบของปัจจัยทางกายภาพ (physical factor) เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และปัจจัยทางชีวภาพ (biological factor) เช่น พืชและสัตว์ที่คล้ายคลึงกัน กระจายตัวอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ต่างๆ กัน เช่น ไบโอมทะเลทราย ไบโอมทุนดรา และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในไบโอมต่างๆ นี้ จะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับปัจจัยทางกายภาพในแต่ละเขตภูมิศาสตร์นั้นๆ ด้วย

 

สามารถแบ่งไบโอมเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้เป็น ไบโอมบนบก และไบโอมในน้ำ

ไบโอมบนบก (terrestrial biomes)

ใช้เกณฑ์ปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิเป็นตัวกำหนด แบ่งเป็น

1. ไบโอมป่าดิบชื้น (tropical rain forest biomes) ภูมิอากาศร้อนชื้น ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 200-400 ซม. ต่อปี พบได้ในเขตศูนย์สูตร ในทวีปอเมริกากลาง ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชียตอนใต้ และบริเวณบางส่วนของหมู่เกาะแปซิฟิก มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสูง พบพืชและสัตว์หลากหลายสปีชีส์

2. ไบโอมป่าผลัดใบเขตอบอุ่น (temperate deciduous forest biomes) ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 100 ซม. ต่อปี อากาศเย็น ป่าผลัดใบก่อนถึงฤดูหนาว กระจายทั่วไปในเขตละติจูดกลาง ซึ่งมีปริมาณความชื้นเพียงพอที่ต้นไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตได้

3. ไบโอมป่าสน (coniferous forest biomes) ป่าไทกา (taiga) ป่าบอเรียล (boreal) ต้นไม้เขียวชอุ่มตลอดปี มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 25-75 ซม. ต่อปี ส่วนใหญ่ฝนจะตกในช่วงฤดูร้อน ภูมิอากาศหนาวค่อนข้างยาวนาน อากาศเย็นและแห้งแล้ง พบได้ทางตอนใต้ของแคนนาดา ทางตอนเหนือของอเมริกาเหนือ ทวีปเอเชีย และยุโรป

4. ไบโอมทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น (temperate grassland biomes) ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 25-50 ซม. ต่อปี ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นนี้เหมาะสำหรับการทำการกสิกรรมและปศุสัตว์ เพราะดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีหญ้านานาชนิดขึ้นอยู่ ส่วนใหญ่พบมีการทำเกษตรกรรม เช่น ทุ่งหญ้าแพรี่ทางตอนกลางของอเมริกาเหนือ ทุ่งหญ้าสเตปส์ในประเทศรัสเซีย ทุ่งหญ้าเวลด์ในทวีปอเมริกาใต้ ทุ่งหญ้าแพมพาสในอาร์เจนตินา

5. ไบโอมสะวันนา (savanna biomes) มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 30-50 ซม. ต่อปี เป็นทุ่งหญ้าที่พบได้ในทวีปแอฟริกา อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อากาศร้อน พืชส่วนใหญ่เป็นหญ้ากระจายอยู่ทั่วบริเวณ 

6. ไบโอมทะเลทราย (desert biomes) เป็นบริเวณที่มีความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 25 ซม. ต่อปี อุณหภูมิเหนือผิวดินสูงถึง 60 องศาเซลเซียสตลอดวัน พืชที่พบในไบโอมทะเลทรายนี้มีการป้องกันการสูญเสียน้ำโดยใบเปลี่ยนรูปเป็นหนาม ลำต้นอวบเพื่อเก็บสะสมน้ำ เช่น กระบองเพชร

7. ไบโอมทุนดรา (tundra biomes) มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่า 25 ซม. ต่อปี เป็นเขตที่มีฤดูหนาวค่อนข้างยาวนาน มีฤดูร้อนช่วงสั้นๆ ลักษณะเด่น คือ ชั้นของดินชั้นบนลงไปจะจับตัวเป็นน้ำแข็งอย่างถาวร พบทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ และยูเรเซีย พบพืชและสัตว์อาศัยอยู่น้อยชนิดพืช ที่พบจะเป็นพวกไม้ดอกและไม้พุ่ม นอกจากนี้ ยังพบสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ เช่น ไลเคน

 

ไบโอมในน้ำ (aquatic biomes)

ใช้เกณฑ์ความเค็มของน้ำเป็นตัวกำหนด แบ่งเป็น

1. ไบโอมแหล่งน้ำจืด (freshwater biomes) มีทั้งแหล่งน้ำนิ่ง เช่น ทะเลสาบ สระ หนอง หรือบึง และแหล่งน้ำไหล เช่น ธารน้ำไหล และแม่น้ำ มีปริมาณเกลือน้อยกว่าร้อยละ 0.1 หรือน้อยกว่า 1 ppt

2. ไบโอมแหล่งน้ำเค็ม (marine biomes) ประกอบด้วย ทะเล และมหาสมุทร มีน้ำขึ้นน้ำลงเป็นปัจจัยกายภาพที่สำคัญ มีเกลือเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.5 หรือ 35 ppt

3. ไบโอมแหล่งน้ำกร่อย (estuaries) มักจะพบตามบริเวณปากแม่น้ำ การขึ้นลงของกระแสน้ำมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงค่าความเค็มของน้ำในแหล่งน้ำกร่อยเป็นอย่างมาก ทำให้ในรอบวันมีการแปรผันของความเค็มของน้ำ อย่างไรก็ดี แหล่งน้ำกร่อยเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารสูง จึงพบสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดในบริเวณนี้ โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่มีค่าทางเศรษฐกิจที่เป็นอาหารของมนุษย์ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาต่างๆ

 

พัดชา วิจิตรวงศ์