ระบบน้ำเหลือง
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
15 ก.ย. 67
 | 1.1K views



ระบบน้ำเหลืองเป็นระบบลำเลียงสารต่างๆ ให้กลับเข้าสู่หลอดเลือด โดยเฉพาะสารอาหารพวกกรดไขมันที่ดูดซึมจากล้าไส้เล็ก ระบบน้ำเหลืองมีอวัยวะสำหรับสูบฉีดไปยังส่วนต่างๆ ประกอบไปด้วย น้ำเหลือง (lymph) ท่อน้ำเหลือง (lymph vessel) และอวัยวะน้ำเหลือง (lymphatic organ)

1. น้ำเหลือง

น้ำเหลืองมีส่วนประกอบคล้ายเลือด แต่ไม่มีเม็ดเลือดแดง เป็นของเหลวที่ซึมผ่านผนังหลอดเลือดฝอยออกมาอยู่ระหว่างเซลล์หรือรอบๆ เซลล์เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ ในน้ำเหลืองจะมีโปรตีน โมเลกุลเล็ก เช่น อัลบูมิน และสารที่มีโมเลกุลเล็กๆ เช่น แก๊ส น้ำ น้ำตาลกลูโคส น้ำเหลืองจะไหลไปตามท่อน้ำเหลืองโดยอาศัยปัจจัย 3 ประการ คือ

- การหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ ที่จะไปกดหรือคลายท่อน้ำเหลือง 
- ความแตกต่างระหว่างความดันไฮโดรสเตติก ซึ่งท่อน้ำเหลืองขนาดเล็กจะมีมากกว่าท่อน้ำเหลืองขนาดใหญ่
- การหายใจเข้า มีผลให้ทรวงอกขยายและลดความดัน ทำให้ท่อน้ำเหลืองขยายตัว

 

2. ท่อน้ำเหลือง

เป็นท่อตัน มีอยู่ทั่วร่างกาย มีขนาดต่างๆ กัน ลักษณะคล้ายหลอดเลือดเวน คือ มีลิ้นกั้นป้องกันการไหลกลับของน้ำเหลือง ท่อน้ำเหลืองขนาดใหญ่มี 2 ท่อที่สำคัญ คือ

        2.1) ท่อน้ำเหลืองทอรำซิก (thoracic duct) เป็นท่อน้้าเหลืองขนาดใหญ่ที่สุด ท้าหน้าที่รับน้ำเหลืองจากส่วนต่างๆ ของร่างกายเข้าหลอดเลือดเวน ยกเว้นทรวงอกขวา แขนขวา และส่วนขวาของหัวกับคอ แล้วเข้าสู่เวนาคาวาก่อนเข้าสู่หัวใจ อยู่ทางซ้ายของลำตัว 
        2.2) ท่อน้ำเหลืองทางด้านขวาของลำตัว (right lymphatic duct) รับน้ำเหลืองจากทรวงอกขวา แขนขวา และส่วนขวาของหัวกับคอ เข้าหลอดเลือดเวน แล้วเข้าสู่เวนาคาวา เข้าสู่หัวใจ จากนั้นน้ำเหลืองที่อยู่ในท่อน้ำเหลืองจะเข้าหัวใจ ปนกับเลือด เพื่อลำเลียงสารต่างๆ ต่อไป

 

3. อวัยวะน้ำเหลือง

อวัยวะน้ำเหลือง เป็นศูนย์กลางในการผลิตเซลล์ที่ใช้ในการต่อต้านเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอม ประกอบด้วย ต่อมน้ำเหลือง ต่อมทอนซิล ม้าม ต่อมไทมัส และเนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่อยู่ที่ลำไส้

        3.1) ต่อมน้ำเหลือง (lymph node) พบอยู่ระหว่างทางเดินของท่อน้ำเหลืองทั่วไปในร่างกาย ลักษณะเป็นรูปไข่ กลม หรือรี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 มิลลิเมตร จะมีท่อน้ำเหลืองเข้า และท่อน้ำเหลืองออก ภายในเต็มไปด้วยเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ ต่อมน้ำเหลืองจะทำหน้าที่กรองน้ำเหลืองให้สะอาด ทำลายแบคทีเรีย และทำลายเม็ดเลือดขาวที่อยู่ในวัยชรา
        3.2) ต่อมทอนซิล (tonsil gland) เป็นกลุ่มของต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ 3 คู่ คู่ที่สำคัญอยู่รอบๆ หลอดอาหาร ภายในต่อมทอนซิลจะมีลิมโฟไซต์ คอยทำลายจุลินทรีย์ที่ผ่านมาในอากาศไม่ให้เข้าสู่หลอดอาหาร และกล่องเสียง ถ้าต่อมทอนซิลติดเชื้อจะมีอาการบวมขึ้น เรียกว่า ต่อมทอนซิลอักเสบ
        3.3) ม้าม (Spleen) เป็นอวัยวะน้ำเหลืองที่ใหญ่ที่สุด มีหลอดเลือดมาเลี้ยงมากมาย ไม่มีท่อน้ำเหลืองเลย สามารถยืดหดได้ นุ่ม มีสีม่วง อยู่ใกล้ๆ กับกระเพาะอาหารใต้กระบังลมด้านซ้าย รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว ภายในจะมีลิมโฟไซต์อยู่มากมาย มีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดในระยะเอ็มบริโอในคนที่คลอดแล้ว ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุแล้ว สร้างเม็ดเลือดขาวจำพวกลิมโฟไซต์และโมโนไซต์ ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคที่เข้าไปในกระแสเลือด สร้างแอนติบอดี และในสภาพผิดปกติ สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้ เช่น มะเร็งเม็ดเลือด
        3.4) ต่อมไทมัส (thymus gland) เป็นต่อมที่มีขนาดใหญ่ตอนอายุน้อย และถ้าอายุมากจะเล็กลงและฝ่อในที่สุด เป็นต่อมไร้ท่ออยู่ตรงทรวงอกรอบหลอดเลือดใหญ่ของหัวใจ ทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ T มีหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรค และสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งการต้านอวัยวะที่ปลูกถ่ายจากผู้อื่นด้วย

 

พัดชา วิจิตรวงศ์