กาพย์ยานี11
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
06 ส.ค. 64
 | 127.2K views



กาพย์ยานี11
การเขียน  คือ การแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึก และความต้องการของผู้ส่งสารออกไปเป็น   ลายลักษณ์อักษร  เพื่อให้ผู้รับสารสามารถอ่านเข้าใจ ได้รับทราบความรู้ ความคิด ความรู้สึก และความต้องการเหล่านั้น   การถ่ายทอดโดยวิธีบอกเล่าปากต่อปาก หรือที่เรียกว่า \\\\\\\" มุขปาฐะ \\\\\\\"  อาจทำให้สารตกหล่นหรือคลาดเคลื่อนได้ง่าย ลายลักษณ์อักษรหรือที่ตัวหนังสือ ที่แท้จริงคือ        เครื่องหมายที่ใช้แทนคำพูดนั่นเอง 


ในการเขียนภาษาไทย  มีแบบแผนที่ต้องการรักษา มีถ้อยคำสำนวนที่ต้องใช้เฉพาะ และต้องเขียนให้แจ่มแจ้ง เพราะผู้อ่านไม่สามารถไต่ถามผู้เขียนได้เมื่ออ่านไม่เข้าใจ  ผู้ที่จะเขียนให้ได้ดี ต้องใช้ถ้อยคำให้เหมาะสมกับผู้รับสาร  โดยพิจารณาว่าผู้รับสารสามารถรับสารที่ส่งมาได้มากน้อยเพียงใด
 รูปแบบการเขียน  งานเขียนแบ่งออกเป็น  2  จำพวกได้แก่ งานเขียนร้อยกรองและงานเขียนร้อยแก้ว และงานเขียนที่ต้องใช้มากในชีวิตสังคม
 
กาพย์ยานี 11

\"\\\"

ตัวอย่างคำประพันธ์
          สิบเอ็ดบอกความนัย        หนึ่งบาทไซร้ของพยางค์
     วรรคหน้าอย่าเลือนราง          จำนวนห้าพาจดจำ
     หกพยางค์ในวรรคหลัง           ตามแบบตั้งเจ้าลองทำ
     สัมผัสตามชี้นำ                     โยงเส้นหมายให้เจ้าดู
     สุดท้ายของวรรคหนึ่ง            สัมผัสตรึงสามนะหนู
     หกห้าโยงเป็นคู่                     เร่งเรียนรู้สร้างผลงาน
                                                     อ.ภาทิพ ศรีสุทธิ์

คณะ
กาพย์ยานี ได้ชื่อว่ายานี ๑๑ เพราะ จำนวนพยางค์ใน ๒ วรรค หรือ ๑ บรรทัด รวมได้ ๑๑ พยางค์
๑ บท มี ๔ วรรค วรรคหน้า ๕ พยางค์ วรรคหลัง ๖พยางค์
สัมผัสระหว่างวรรค ใน ๑ บท มีสัมผัส ๒ คู่ สังเกตจากแผนผังและตัวอย่าง 
สัมผัสระหว่างบท  พยางค์สุดท้ายของบทต้น สัมผัสกับพยางค์สุดท้ายของวรรคที่ ๒ของบทถัดไป
ตัวอย่าง

          เพราะครูผู้นำทาง           ใช่เรือจ้างรับเงินตรา
     พุ่มพานจึงนำมา                   กราบบูชาพระคุณครู
     หญ้าแพรกแทรกดอกไม้      พร้อมมาลัยอันงามหรู
     เข็มดอกออกช่อชู               จากจิตหนูผู้รู้คุณ 
   
คลื่นใจอาลัยคลื่นชีวิต
          คลื่นคลั่งทะเลโถม        กระหน่ำโหมทะเลคน 
     คลื่นซัดระบัดชล               เฉกจะล้างฤๅอย่างไร 
     ยิ้มแย้มแต้มเกลื่อนอยู่       มินึกรู้เหตุการณ์ใด 
     ธรณีพิโรธไย                     จึงเข่นฆ่าประชากร 
     ฟ้าดินดาวเดือนดับ             คณานับขจายขจร 
     เสียงร่ำด้วยร้าวรอน            ร้องหวีดหวาดทะเลตรม 
     สายตาที่แตะต้อง               ทุกที่ท้องล้วนทุกข์ถม 
     ซากศพกลางเลนตม          สู้แดดลมอย่างเดียวดาย 
     ฟ้าพรากจากอกฟ้า             ปวงประชาพาขวัญหาย  
     \\\\\\\"พุ่ม\\\\\\\"เพิ่งฉกรรจ์กาย           ลาลับหมายกรายเยี่ยมฟ้า 
     คลื่นใจจึงรวมจิต               ร่วมอุทิศคลื่นศรัทธา 
     สยบคลื่นยักษา                 ร่วมเยียวยาด้วยคลื่นใจ  
                                                             อ.ภาทิพ 

ฝันร้าย ๑.
          เพราะงามจึงตามฝัน     จิตมุ่งมั่นมุ่งหมายมา  
     หลายชาติหลายภาษา        ร่วมชะตาชมอ่าวงาม 
     หัวเราะระเริงรื่น                 แสนสดชื่นอ่าวสยาม 
     บ้างมองฟ้าสีคราม             วิ่งไล่ตามโล้คลื่นลม 
     บัดเดี๋ยวน้ำเหือดหาย          ม้วนกลับคล้ายจะขู่ข่ม 
     สรรพสิ่งต่างดิ่งจม              หวีดระงมตะลึงลาน 
     งงงงแล้วคงนิ่ง                   เกินไหวติงแม้คืบคลาน 
     คลื่นคลั่งเข้าสังหาร           สุดแรงต้านรักษาตัว 
     พ่อแม่เหลียวแลลูก            เจ้าบุญปลูกร้องระรัว  
     มือหมายคว้าไขว่ทั่ว           โคลนขุ่นมัวกลบเกลื่อนกาย
     ใจหายตายทั้งเป็น              สุดลำเค็ญใต้โคลนทราย 
     ใช่เป็นเช่นฝันร้าย              หมื่นชีพวายใต้หาดงาม 
                                                                 อ.ภาทิพ