บทเรียนออนไลน์ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ใส่ใจสุขภาพ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 45.8K views



 ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้

 

ใส่ใจสุขภาพ

 

 

1. สุขภาพกับสิ่งแวดล้อม
     ความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ
     ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเราทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเกิดโรค ทำให้สุขภาพเสีย
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
     มลพิษทางอากาศ
     – ผลกระทบ คือ ทำให้เกิดผดผื่น เป็นหมัน หรือเป็นโรคต่าง ๆ จนเสียชีวิตได้ เช่น โรคมะเร็งปอด โรคโลหิตจาง
     – การป้องกันและแก้ไข คือ ควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ ช่วยกันปลูกต้นไม้

 

 

ควันพิษและน้ำเน่าเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดภาวะมลพิษ

 

 

     มลพิษทางน้ำ
     – ผลกระทบ คือ อาจทำให้เป็นโรคต่างๆ เช่น อหิวาตกโรค หรือถ้ากินสัตว์น้ำที่อยู่ในน้ำที่มีสารพิษอาจทำให้เป็นโรคมินามาตะ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
     – การป้องกันและแก้ไข คือ ไม่ระบายน้ำเสียลงแหล่งน้ำ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ลดการใช้สารเคมี

 

 

ขยะจากบ้านเรือนที่พักอาศัย หากทิ้งลงในแหล่งน้ำจะให้เกิดน้ำเน่าเสีย

 

 

     มลพิษทางดิน
     – ผลกระทบ คือ อาจทำให้เป็นโรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ โรคพยาธิปากขอ
     – การป้องกันและแก้ไข คือ ลดการใช้สารเคมีจากการเกษตร ไม่ทิ้งน้ำสกปรกหรือขยะลงดิน

 

 

การทิ้งขยะในถังที่รองรับ ช่วยลดปัญหามลพิษทางดิน

 

 

     มลพิษทางเสียง
     – ผลกระทบ คือ อาจทำให้หูตึง เกิดความเครียด สุขภาพจิตเสื่อมจนเป็นโรคประสาทได้

     – การป้องปันและแก้ไข คือ ควบคุมแหล่งกำเนิดเสียงต่าง ๆ ไม่อยู่ในที่ ๆ เสียงดัง

 

 

การปลูกต้นไม้กั้นระหว่างบ้านกับถนนช่วยลดมลพิษทางเสียง

 

 

2. โรคติดต่อ
คือโรคที่สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้โดยวิธีการต่าง ๆ
     โรคติดต่อสำคัญที่พบในประเทศไทย ได้แก่
     โรคอหิวาตกโรค จากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งปะปนออกมากับอุจจาระและอาเจียนของผู้ป่วย แล้วแพร่กระจายไปตามอาหารโดยมีแมลงวันเป็นพาหะ

 

 

 โรคติดต่อ

 


     การรักษา ให้ดื่มน้ำตาลเกลือแร่ ถ้าอาการหนักให้รีบนำส่งแพทย์
     การป้องกันและควบคุมโรค
          – รับประทานอาหารและดื่มน้ำที่สุกและสะอาด
          – ใช้ส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
          – กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงวัน
          – ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอหิวาตกโรค


     โรควัณโรค เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งปะปนอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ
     การรักษา ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
     การป้องกันและควบคุมโรค
          – รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
          – ตรวจโรคและฉีดวัคซีน
          – อย่าให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
          – ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับผู้ป่วยวัณโรค


     โรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำลายของสัตว์ที่เป็นโรคเข้าสู่ร่างกายคนทางบาดแผลหรือรอยถลอก
     อาการ แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
          1) ระยะอาการนำ มีอาการคล้ายไข้หวัด
          2) ระยะมีอาการทางระบบประสาท มีอาการตื่นกลัว
          3) ระยะสุดท้าย จะไม่รู้สึกตัว ตัวเขียว และเสียชีวิต
     การป้องกันและควบคุมโรค
          – นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน
          – ระวังอย่าให้สัตว์กัดหรือเลีย


     โรคพยาธิใบไม้ในตับ เกิดจากการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ที่มีไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ตับปะปนอยู่ 
     การรักษา เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคควรรีบปรึกษาแพทย์
     การป้องกันและควบคุมโรค
          – ควรปรุงอาหารให้สุก
          – พบแพทย์


ผลกระทบจากโรคติดต่อ แบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน ได้แก่
          – ผลกระทบต่อตัวเอง เช่น เจ็บปวด เสียเงิน
          – ผลกระทบต่อครอบครัว เช่น เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย
          – ผลกระทบต่อประเทศชาติ เช่น ประชากรด้อยคุณภาพ
การป้องกันการระบาดของโรคติดต่อ ทำได้ดังนี้
          – ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย โดยการกำจัดแหล่งพาหะของโรค
          – ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยการฉีดวัคซีน
          – สร้างเสริมความต้านทานโรค โดยการกินอาหารที่มีประโยชน์


3. ความรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองและส่วนรวม
     พฤติกรรมสุขภาพที่ดีส่วนบุคคล จำแนกได้ 3 ประเภท ดังนี้
     – พฤติกรรมการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ
     – พฤติกรรมเมื่อเจ็บป่วย
     – พฤติกรรมหลังจากได้รับการวินิจฉัย
     การรับผิดชอบต่อสุขภาพต่อส่วนรวม มีแนวปฏิบัติ ดังนี้
     – ดูแลรักษาความสะอาด
     – เผยแพร่ความรู้เรื่องวิธีการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคที่ถูกวิธี
     – ช่วยสอดส่องดูแลความสงบปลอดภัยในชุมชน

 

 

ติดป้ายเชิญชวนให้คนในชุมชนรักษาความสะอาดของแม่น้ำ

 

 

ช่วยสอดส่องดูแลผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า

 

 

     การสร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ
     มีความสำคัญดังนี้
     – ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรค
     – เพิ่มพูนประสิทธิภาพของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
     – ทำให้รูปร่างและสัดส่วนของร่างกายดี
     มีองค์ประกอบ ได้แก่
     – เปอร์เซ็นต์ไขมันใต้ผิวหนัง
     – ความทนทานของระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต
     – ความอ่อนตัว
     – ความทนทานของกล้ามเนื้อ
     – ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
     การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทำได้โดย
     – การวัดเปอร์เซ็นต์ไขมันของร่างกาย โดยใช้ดัชนีมวลกาย
     – การงอแขนห้อยตัวหรือการดึงข้อ
     – ลุกนั่ง 30 วินาที
     – การงอตัวไปข้างหน้า
     – การวิ่งทางไกล


4. การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายโดยใช้ท่ากายบริหาร
     การสร้างเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ มีหลักดังนี้
     – เพิ่มความต้านทาน
     – ฝึก 3 ชุดต่อวัน
     – ฝึก 3 วันต่อสัปดาห์
     ตัวอย่างเช่น ท่ายืนข้าง ท่ายกศีรษะ
     การสร้างเสริมความอ่อนตัว มีหลักดังนี้
     – เคลื่อนไหวช้าๆจนรู้สึกเจ็บแล้วค้างไว้ 8–10 วินาที
     – กระทำซ้ำและทำทุกวัน
     ตัวอย่างเช่น ท่ายืดแขนงอลำตัว ท่ายืดจับปลายเท้า
     การสร้างเสริมความต้านทานของกล้ามเนื้อ มีหลักดังนี้
     – ปฏิบัติซ้ำๆใช้เวลานาน
     – ฝึกชุดละ 15–25 ครั้ง ประมาณ 1–3 ชุด
     – ฝึก 3 วันต่อสัปดาห์
     ตัวอย่างเช่น ท่าก้าวขึ้น–ลงกล่อง ท่าดันพื้น 

 

แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th