บทเรียนออนไลน์ วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พัฒนาการของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 140.9K views




ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้


 



1. การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
     ในปลายสมัยธนบุรีเกิดการจลาจลในกรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกจึงยกทัพกลับเพื่อมาระงับการจลาจล ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 และพระองค์ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี มีพระนามใหม่ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี
 

                                                                            


     1.1 ย้ายราชธานี
          กรุงธนบุรีไม่เหมาะสมที่จะเป็นที่ตั้งของราชธานี ให้ย้ายราชธานีไปอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้
          1. พระราชวังเดิมของกรุงธนบุรีมีอาณาเขตคับแคบขยายเขตพระราชวังออกไปไม่ได้
          2. ที่ตั้งของกรุงธนบุรีอยู่บนท้องคุ้งของแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำจึงกัดเซาะตลิ่งพังอยู่ตลอดทำให้ไม่สามารถสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ ได้
          3. กรุงธนบุรีไม่เหมาะสมแก่ยุทธศาสตร์เป็นเมืองอกแตก เพราะมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกลางกรุง
 


     1.2 ปัจจัยที่มีผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
          1. มีที่ตั้งในทางยุทธศาสตร์เหมาะสม
          2. มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเกษตร มีดินและน้ำอุดมสมบูรณ์
          3. เป็นศูนย์กลางการค้า
          4. พระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 1 และพระอนุชา คือ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงยกทัพปกป้องพระนครไว้ได้ เมื่อครั้งพม่ายกทัพโจมตีเพื่อมิให้ไทยตั้งตัวได้
          5. ประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหาภายในประเภทและต้องแก้ปัญหาของประเทศตนเอง

     1.3 บทบาทของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีในการสร้างสรรค์ความเจริญและความมั่นคงของชาติ


รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

     พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเจริญและความมั่นคงของอาณาจักร ดังนี้
          1.3.1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
 


          1.3.2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
 


          1.3.3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
 


          1.3.4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
 


          1.3.5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
 

 

          1.3.6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
 


       1.3.7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
 


          1.3.8 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
 


          1.3.9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
 


2. พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง
     ด้านการเมืองการปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ระหว่าง พ.ศ. 2325–2394 สมัยปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย ระหว่าง พ.ศ. 2394–2475 และสมัยประชาธิปไตย ระหว่างพ.ศ. 2475–ปัจจุบัน

     2.1 การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พ.ศ. 2325–2394
          2.1.1 รูปแบบการปกครอง
          พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจสูงสุดและเด็ดขาดในการปกครองประเทศ โดยมีการบังคับบัญชา ดังนี้
               1. การปกครองราชธานี มีอัครมหาเสนาบดี 2 ตำแหน่ง คือ สมุหพระกลาโหมและสมุหนายก และมีเสนาบดี 4 ตำแหน่งที่เรียกว่า จตุสดมภ์
               2. การปกครองหัวเมือง แบ่งหัวเมืองออกเป็น 2 ประเภท คือ
                    1) หัวเมืองชั้นใน คือ หัวเมืองที่อยู่รอบราชธานี เป็นหัวเมืองชั้นจัตวา
                   2) หัวเมืองชั้นนอก คือ เมืองที่อยู่ไกลจากราชธานี แบ่งออกเป็นเมืองชั้นเอก โท ตรี
              3. การปกครองประเทศราช เมืองประเทศราช คือ หัวเมืองต่างชาติซึ่งเจ้าเมืองนั้น ๆ จะปกครองตนเอง แต่ต้องส่งเครื่องบรรณาการมาถวายแก่เมืองราชธานีตามระยะเวลาที่กำหนด และส่งกำลังทหารมาช่วยยามศึกสงคราม
          2.1.2 กระบวนการยุติธรรม
          รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ชำระกฎหมายให้ถูกต้องตามกฎหมาย กฎหมายฉบับนี้จึงมีชื่อว่า “กฎหมายตรา สามดวง” ใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศมาจนถึงรัชกาลที่ 5
 


     2.2 การเมืองการปกครองสมัยปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย พ.ศ. 2394–2475
          2.2.1 การปฏิรูปการปกครอง
          ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ชาติตะวันตกได้ขยายอิทธิพลเข้ามาเพื่อครอบครองประเทศในเอเชียเป็นอาณานิคมของตน รัชกาลที่ 4 และรัชกาลต่อ ๆ มา จึงทรงพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ เพื่อป้องกันมิให้ประเทศตะวันตกมีข้ออ้างในการครอบครองไทยเป็นอาณานิคม

     2.3 การเมืองการปกครองสมัยประชาธิปไตย พ.ศ. 2475– ปัจจุบัน
          2.3.1 การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
          สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ได้แก่
               1) เศรษฐกิจตกต่ำ
               2) แนวคิดที่ได้รับจากตะวันตก
               3) อิทธิพลของสื่อมวลชน
          2.3.2 วิกฤติการณ์ทางการเมืองหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
          ความขัดแย้งเรื่องเค้าโครงการเศรษฐกิจ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 คณะราษฎรได้พยายามที่จะปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรส่วนใหญ่มากที่สุด โดยมอบหมายให้หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) เป็นผู้ร่างเค้าโครงการเศรษฐกิจ
          2.3.3 การเมืองไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
          หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้สงคราม เดิมไทยอยู่ฝ่ายเดียวกับญี่ปุ่นย่อมตกเป็นฝ่ายแพ้สงครามเช่นกัน แต่ขบวนการเสรีไทยเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ช่วยให้ประเทศไทยรอดพ้นจากสถานะประเทศผู้แพ้สงครามได้เพราะแสดงให้เห็นว่าคนไทยบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมสงครามครั้งนี้


3. พัฒนาการด้านสังคม
     3.1 สังคมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พ.ศ. 2325–2394
          3.1.1 โครงสร้างทางสังคม
          ระบบศักดินาเป็นพื้นฐานในการจัดระบบสังคมตามในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นระบบที่กำหนดฐานะของคนในสังคมโดยใช้จำนวนที่นาเป็นเครื่องวัด มีการแบ่งกลุ่มคนในสังคมออกเป็นชนชั้นต่าง ๆ 5 ชนชั้น ได้แก่
               1. พระมหากษัตริย์
               2. เจ้านาย
               3. ขุนนาง
               4. ไพร่
               5. ทาส
          3.1.2 การทำนุบำรุงพระศาสนา
               1. การทำสังคายนาพระไตรปิฎก
               2. การกวดขันพระธรรมวินัย
               3. การส่งสมณทูตไปลังกา
               4. การสถาปนาธรรมยุติกนิกาย
               5. การสร้างและบูรณะวัดวาอาราม
          3.1.3 การศึกษา
          ศูนย์กลางการศึกษาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมี 3 แห่ง คือ
               1. วัง
               2. วัด
               3. บ้าน

     3.2 สังคมไทยสมัยการปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย พ.ศ. 2394–2475
          3.2.1 การปรับปรุงโครงสร้างสังคม
          ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปโครงสร้างสังคมไทยใหม่ให้สอดคล้องกับอารยธรรมตะวันตก ป้องกันอิทธิการขยายอำนาจจากชาติตะวันตก ด้วยการยกเลิกระบบไพร่และเลิกทาส โดยดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนี้
               1. การเลิกระบบไพร่ คือ รัชกาลที่ 5 ทรงดำเนินการเลิกระบบไพร่เปลี่ยนเป็นพลเมือง
               2. การเลิกทาส รัชกาลที่ 5 ทรงดำเนินการเลิกทาส
 


          3.2.2 การพัฒนาสาธารณูปโภค
               1. การพัฒนาสาธารณูปโภคในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพัฒนาสาธารณูปโภคด้านการคมนาคมขนส่ง
               2. การพัฒนาสาธารณูปโภคในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงสานต่อการพัฒนาสาธารณูปโภคจากรัชกาลที่ 4
               3. การพัฒนาสาธารณูปโภคในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงสานต่อการพัฒนาสาธารณูปโภคจากรัชกาลที่ 5
          3.2.3 การทำนุบำรุงพระศาสนา
          3.2.4 การจัดการศึกษา
 


     3.3 สังคมไทยสมัยประชาธิปไตย พ.ศ. 2475–ปัจจุบัน
          3.3.1 โครงสร้างสังคมไทย
          หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมไทย ดังนี้
               1. สถาบันพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ทรงดำรงฐานะเป็นองค์ประมุข อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
               2. พระบรมวงศานุวงศ์ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ปฏิบัติตนภายใต้รัฐธรรมนูญ
               3. ข้าราชการ ข้าราชการมีบทบาทในการปกครองบ้านเมือง และข้าราชการทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
               4. ราษฎร ราษฎรทั่วไปต่างมีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคตามกฎหมาย ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และมีสิทธิสมัครเข้ารับราชการ
          3.3.2 ความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย
          เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงครามขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมืองไทยได้เข้าสู่ยุคสร้างชาติ โดยเครื่องมือในการสร้างชาติประกอบด้วยรัฐนิยม ซึ่งเป็นเหมือนคำสั่งของรัฐบาลที่บอกความต้องการว่าจะให้ประชาชนปฏิบัติตนอย่างไร
          3.3.3 ศาสนา
          สังคมไทยให้เสรีภาพในทางศาสนา โดยประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา
          3.3.4 การศึกษา
          รัฐบาลเริ่มขยายการศึกษาภาคบังคับระดับประถมศึกษา และปรับปรุงการศึกษา โดยแยกระดับการศึกษาออกเป็น สามัญศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา พลศึกษา และการศึกษาผู้ใหญ่ การพัฒนาการศึกษานี้ส่งผลต่อการสร้างคนเข้าสู่ระบบราชการ


4. พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
     4.1 สภาพเศรษฐกิจไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พ.ศ. 2325–2398
     เศรษฐกิจเป็นแบบยังชีพเช่นเดียวกับอยุธยา สินค้าส่งออกมีปริมาณเพิ่มขึ้นและมีการค้ากับหลายประเทศ รวมทั้งเริ่มมีการใช้ระบบเจ้าภาษีนายอากร

     4.2 สภาพเศรษฐกิจไทยหลังเปิดความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก พ.ศ. 2398–2475
          4.2.1 เศรษฐกิจสมัยรัชกาลที่ 4
               1. การทำสนธิสัญญาเบาว์ริง
                   ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการต่างประเทศ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกให้มากขึ้น
 

                                                                             


          4.2.2 เศรษฐกิจสมัยรัชกาลที่ 5
               1. สภาพเศรษฐกิจในสมัยรัชกาลที่ 5 เศรษฐกิจยังขยายตัวสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นการผลิตเพื่อการค้า พืชทางเศรษฐกิจ คือ ข้าว
               2. การปฏิรูปการเงินและการธนาคาร รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปการเงินการธนาคาร
          4.2.3 เศรษฐกิจสมัยรัชกาลที่ 6–7
               1. การพัฒนาเศรษฐกิจสมัยรัชกาลที่ 6
                    1) การร่วมลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรม
                    2) การส่งเสริมทางด้านการเกษตร
                    3) การตั้งสถาบันการเงิน
                    4) การเปลี่ยนแปลงมาตราชั่ง ตวง วัด
               2. ปัญหาเศรษฐกิจในสมัยรัชกาลที่ 6 พ.ศ. 2460 ประเทศไทยเกิดอุทกภัย และเกิดฝนแล้งอย่างหนักใน พ.ศ. 2462 ทำให้การทำนาเสียหาย ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนข้าวที่จะใช้บริโภคภายในประเทศ
               3. สภาพเศรษฐกิจสมัยรัชกาลที่ 7 ฐานะทางเศรษฐกิจและการคลังของประเทศยังประสบปัญหาขาดดุล

     4.3 สภาพเศรษฐกิจไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475–ปัจจุบัน
     หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎรได้ประกาศหลัก 6 ประการ ซึ่งมีหลักการทางด้านเอกราชทางเศรษฐกิจกับหลักการวางแผนทางเศรษฐกิจ การเมืองในช่วงนั้นเป็นการประนีประนอมระหว่างคณะราษฎรกับกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เดิม แต่การประนีประนอมสิ้นสุดลงเมื่อหลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) ได้เสนอเค้าโครงการเศรษฐกิจต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการราษฎร

     นโยบายต่างประเทศของไทยในสมัยปัจจุบัน
     ปัจจุบันประเทศไทยพยายามใช้นโยบายเป็นกลาง คือ มีความสัมพันธ์กับนานาประเทศโดยไม่ได้ยึดความแตกต่างทางลัทธิการเมืองเป็นหลัก แต่ยึดผลทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญและมุ่งสร้างความร่วมมือช่วยเหลือกันในกลุ่มประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน รวมทั้งในองค์การระหว่างประเทศที่ไทยเป็นสมาชิก

 

คำสำคัญ
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พ.ศ. 2325–2394
การเมืองการปกครองสมัยปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย พ.ศ. 2394–2475
การเมืองการปกครองสมัยประชาธิปไตย พ.ศ. 2475–ปัจจุบัน
การเลิกระบบไพร่
การเลิกทาส
โครงสร้างสังคมไทย
การทำสนธิสัญญาเบาว์ริง


แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th