บทเรียนออนไลน์ วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง คอมพิวเตอร์สร้างสรรค์งาน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 12.5K views



ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้

 

 

 

1. หลักการเบื้องต้นของการแก้ปัญหา มี 4 ขั้นดังนี้
        ขั้นที่ 1 การพิจารณาปัญหา
        ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา
        ขั้นที่ 3 การแก้ปัญหา
        ขั้นที่ 4 การตรวจสอบและปรับปรุง
    การนำหลักการแก้ปัญหามาใช้ในชีวิตประจำวัน
    การแก้ปัญหาในการทำรายงาน
        ขั้นที่ 1 การพิจารณาปัญหา หาวิธีที่ทำให้รายงานออกมาดีที่สุด
        ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา วิธีการจัดรายงานมี 3 วิธี ได้แก่ การเขียน การใช้เครื่องพิมพ์ดีด และการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน
        ขั้นที่ 3 การแก้ปัญหา เลือกทำรายงานจากคอมพิวเตอร์ เพราะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย หลังจากนั้นเริ่มทำรายงาน
        ขั้นที่ 4 การตรวจสอบและปรับปรุง ตรวจดูรายงานที่ทำเสร็จ หากต้งแก้ไขให้เปิดงานที่บันทึกไว้มาแก้ไขทันที
2. การใช้คอมพิวเตอร์ในการค้นหาข้อมูล
    อินเตอร์เน็ต
    ประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ต ได้แก่
        1. ด้านการติดต่อสื่อสาร
            – การรับและส่งข้อมูลทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล
            – การรับและส่งข่าวทางเว็บไซต์
            – สามารถติดต่อสื่อสารด้วยการแชท
            – สามารถติดต่อหน่วยราชการได้สะดวกมากขึ้น
        2. ด้านการศึกษา
            – ศึกษาหาความรู้จากบทเรียนออนไลน์
            – เผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ทางเว็บบอร์ด
            – ค้นหาความรู้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ
            – พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

 

   

 

        3. ด้านการค้าขาย
            – สามารถโฆษณาสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ได้
            – ผู้ขายสามารถศึกษาสินค้าของผู้ผลิตรายอื่นเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าของตน
            – ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าโดยเปรียบเทียบราคาหรือข้อมูลได้โดยสะดวก

 

   

 

        4. ด้านความบันเทิง เช่น
            – การเล่นเกมออนไลน์
            – การดูตัวอย่าง อ่านเรื่องย่อของภาพยนตร์ของละครโทรทัศน์
            – การดาวน์โหลดเพลงและมิวสิกวิดีโอ

 

   

 

    ผลเสียจากการใช้อินเทอร์เน็ต
        1. อาจทำให้เสียการเรียนหรือเสียงานได้
        2. เป็นโรคติดอินเทอร์เน็ต
        3. คอมพิวเตอร์อาจติดไวรัส
        4. อาจทำให้เสียสุขภาพ
        5. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
        6. อาจถูกขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์โดยแฮกเกอร์
        7. อาจถูกหลอกลวง
3. การเก็บรักษาข้อมูล
    สื่อบันทึกข้อมูล จำแนกได้หลายชนิดดังนี้
        – ฮาร์ดดิสก์


         

 

        – แผ่นดิสเกตต์
        – แผ่นซีดี


           

 

        – แผ่นดีวีดี


           

 

        – ยูเอสบีแฟลชไดร์ฟ


           

 

    การนำเสนอข้อมูล
    รูปแบบของข้อมูลที่ใช้ในการนำเสนอ แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ
        1. การนำเสนอข้อมูลอย่างไม่เป็นแบบแผน เช่น
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปของตาราง
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปข้อความกึ่งตาราง
        2. การนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นแบบแผน เช่น
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปของรูปภาพ
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปของตาราง
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปของแผนภาพ
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปของแผนภูมิ
          – การนำเสนอข้อมูลในรูปของกราฟ

 

       

 

4. การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ในการสร้างสรรค์งาน
    โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด (Microsoft Word)
    ข้อดีของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด มีดังนี้
        – จัดรูปแบบเอกสารเป็นระเบียบ
        – ตรวจคำผิดออัตโนมัติ และแก้ไขงานได้
        – มีตัวการ์ตูนคอยให้คำแนะนำ
    1. การเรียกใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด เริ่มจากคลิก start > programs > Microsoft > Microsoft word 2003
     

     

 

    2. หน้าต่างของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด ประกอบด้วย แถบเมนู ทาสก์เพน พื้นที่ใช้งาน แถบเครื่องมือ และแถบสถานะ
    3. การสร้างแผ่นพับ โดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด เริ่มจากเปิดโปรแกรมคลิกเลือกเมนู แฟ้ม และคลิกเลือกตั้งค่าหน้ากระดาษ คลิกเลือกบัตรเสียบระยะขอบเลือกแนวการวางกระดาษเป็นแนวนอน แบ่งคอลัมน์โดยคลิกเมนูรูปแบบ เลือกและกำหนดสดมภ์หรือคอลัมน์ แล้วคลิกตกลงสร้างงาน
    4. การพิมพ์งานออกทางเครื่องพิมพ์ ทำได้โดยคลิกแถบเมนูแฟ้ม เลือกตั้งค่าหน้ากระดาษ แล้วคลิกตกลง หลังจากนั้นคลิกแถบเมนูแฟ้ม เลือกพิมพ์ ระบุเครื่องพิมพ์ให้ตรงกับรุ่น แล้วคลิกตกลง
    โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ (Microsoft Powerpoint)
    ข้อดีของโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์
        – นำเสนอข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ
        – มีลูกเล่นในการนำเสนอ
        – เชื่อมโยงหน้าต่างๆโดยไม่ต้องเรียงลำดับ
        – เชื่อมโยงไปยังเอกสาร โปรแกรม หรือเว็ปไซต์อื่น ๆ ได้
    1. การเรียกใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ ทำได้โดยคลิก start > programs > Microsoft > Microsoft powerpoint 2003
    2. หน้าต่างโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ มีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ แถบเมนู หน้าต่างภาพนิ่ง ปุ่มการนำเสนอ ทาสก์เพน พื้นที่การใช้งาน แถบสถานะ แถบเครื่องมือ

 

    

 

    3. การสร้างสไลด์โดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ มีวิธีการดังนี้
        – การสร้างสไลด์ด้วยตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ โดยคลิกเลือก งานนำเสนอใหม่ > จากตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ... > ถัดไป หลังจากนั้น คลิกเลือกชนิดของงานนำเสนอที่คุณจะใช้ > ทั่วไป > ถัดไป > คุณจะใช้ผลลัพธ์ชนิดไหน > งานนำเสนอบนหน้าจอ > ถัดไป เมื่อเข้าสู่ตัวเลือกงานนำเสนอให้พิมพ์ข้อมูลต่าง ๆ คลิกเลือก วันที่ปรับปรุงครั้งล่าสุด ใส่วันที่ และคลิกเลือก หมายเลขภาพนิ่ง เมื่อต้องการใส่เลขลำดับภาพนิ่ง จากนั้นคลิก ถัดไป > เสร็จสิ้น

 

   

 

        – การสร้างสไลด์ด้วยแม่แบบออกแบบ โดยคลิกเลือก งานนำเสนอใหม่ > แม่แบบการออกแบบ หลังจากเลือกแม่แบบที่ต้องการแล้วพิมพ์ข้อความ

 

   

 

        – การสร้างสไลด์ด้วยงานนำเสนอเปล่า โดยคลิกเลือก การนำเสนอใหม่ > สร้าง > งานนำเสนอเปล่า คลิกกำหนดเค้าโครงข้อความและเค้าโครงเนื้อหา จากนั้นใส่หัวข้อและสร้างสไลด์ต่อไป

 

   

 

    4. มุมมองแบบต่าง ๆ มีดังนี้
        – มุมมองปกติ ใช้สำหรับสร้างงานนำเสนอ

 

           

 

        – มุมมองตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง ใช้สำหรับจัดการหน้าต่างงานนำเสนอ


           

 

        – มุมมองการนำเสนอภาพนิ่ง ใช้แสดงงานนำเสนอที่สร้างไว้


           

 

    5. การแทรกภาพนิ่งแบบใหม่ ทำได้โดยคลิกที่ ภาพนิ่ง คลิกขวาที่ภาพนิ่งที่ต้องการแทรก จากนั้นคลิก สร้างภาพนิ่ง แล้วคลิกที่เค้าโครงภาพนิ่งหรือเค้าโครงเนื้อหาตามต้องการ
    6. การบันทึกชิ้นงาน ทำได้โดยคลิกที่แถบเมนู แฟ้ม > บันทึกเป็น... เลือกตำแหน่งที่จะจัดเก็บ ตั้งชื่อแล้วคลิกบันทึก
    7. การพิมพ์งานนำเสนอทางเครื่องพิมพ์ ทำได้โดยคลิกที่แถบเมนู แฟ้ม > พิมพ์... คลิกเลือกจำนวนภาพและระบุจำนวนสำเนาที่ต้องการ แล้วคลิกตกลง 


แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th