ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 2.3K views



วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๘ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานการประชุมกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ได้แถลงข่าวประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๗ จำนวน ๑๒ คน ดังนี้

๑. สาขาทัศนศิลป์  จำนวน ๕ คน ได้แก่

 

 ๑.๑ นายจรูญ อังศวานนท์  (สถาปัตยกรรมภายในและมัณฑนศิลป์)
     คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๑.๒ นายชวลิต เสริมปรุงสุข  (จิตรกรรม)

      คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๑.๓ นายนิจ หิญชีระนันทน์  (การออกแบบผังเมือง)

      คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๑.๔ นายบุญช่วย หิรัญวิทย์  (ประณีตศิลป์)

      คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๑.๕ นายปัญญา วิจินธนสาร  (จิตรกรรม)

     คำประกาศเกียรติคุณ 

๒. สาขาวรรณศิลป์ จำนวน ๑ คน ได้แก่

 

 ๒.๑ นางชมัยภร บางคมบาง 

     คำประกาศเกียรติคุณ

๓. สาขาศิลปะการแสดง จำนวน ๖ คน ได้แก่

 ๓.๑ นายณรงค์ จันทร์พุ่ม  (หนังตะลุง ) 

     คำประกาศเกียรติคุณ      

 ๓.๒ นางดุษฎี บุญทัศนกุล  (ดนตรีสากล)

     คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๓.๓ นายพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา  (ดนตรีไทยลูกทุ่ง)

     คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๓.๔ นางภัทราวดี มีชูธน   (ละครเวทีและภาพยนตร์)

     คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๓.๕ นายสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์  (โทรทัศน์และภาพยนตร์)

     คำประกาศเกียรติคุณ

 

 ๓.๖ นายสิริชัยชาญ ฟักจำรูญ  (ดนตรีไทย) 

     คำประกาศเกียรติคุณ

   

        สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ประกอบด้วย ๓ หลักเกณฑ์ใหญ่ ดังนี้

         เกณฑ์ที่ ๑. คุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ 

         ซึ่งมี ๖ ประการ  ได้แก่ เป็นผู้มีสัญชาติไทยและยังมีชีวิตอยู่ในวันประกาศยกย่อง / เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะในสาขานั้น / เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง / เป็นผู้ผดุง ถ่ายทอด เผยแพร่ หรือเป็นต้นแบบศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง / เป็นผู้มีคุณธรรม ทุ่มเท และเสียสละเพื่องานศิลปะ / และเป็นผู้มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ


         เกณฑ์ที่ ๒. คุณค่ามาตรฐานผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ 

         ผลงานต้องสื่อให้เห็นถึงคุณค่าในความดี ความจริง ความงาม อารมณ์ และคุณค่าทางจิตวิญญาณ แสดงออกถึงแนวคิด สร้างพลังความรู้และพัฒนาสติปัญญาแก่มนุษยชาติ ก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ และส่งเสริมจินตนาการ และเป็นผลงานสร้างสรรค์มีเอกลักษณ์ มีทักษะสูงส่ง มีกลวิธีเชิงสร้างสรรค์ ไม่แสดงเจตนาหรือจงใจคัดลอกหรือเลียนแบบผลงานของผู้อื่นทั้งเปิดเผยและแอบแฝง 


         เกณฑ์ที่ ๓. การเผยแพร่และการยอมรับคุณค่าผลงานของศิลปินแห่งชาติ

         ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ จะต้องมีการเผยแพร่ผลงานและได้รับการยอมรับ คุณค่าในผลงาน ดังนี้ เป็นผลงานที่ได้รับการจัดแสดง ถ่ายทอดหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง มีหลักฐาน อ้างอิง โดยเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิด พัฒนาการทางงานศิลปะอย่างเด่นชัด และเป็นผลงานได้รับรางวัล หรือเกียรติคุณระดับภูมิภาค ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ 


         ซึ่งการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ จะทำการคัดเลือกใน ๓ สาขา ได้แก่

         ๑. สาขาทัศนศิลป์ หมายถึง ศิลปะที่มองเห็นได้ด้วยตา  แบ่งเป็น วิจิตรศิลป์  และประยุกต์ศิลป์  วิจิตรศิลป์ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และภาพถ่าย ส่วนประยุกต์ศิลป์ ได้แก่ สถาปัตยกรรมแบบประเพณีและร่วมสมัย / มัณฑศิลป์ / การออกแบบผังเมือง / การออกแบบอุตสาหกรรม และประณีตศิลป์ เป็นต้น

         ๒. สาขาวรรณศิลป์ หมายถึง บทประพันธ์ที่แต่งอย่างมีศิลปะทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ ความรู้สึกสะเทือนใจ ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและกลวิธีเสนอเรื่องที่น่าสนใจ

         ๓. สาขาศิลปะการแสดง หมายถึง ศิลปะที่มีการแสดง ซึ่งเป็นได้ทั้งวิจิตรศิลป์ ประยุกต์ศิลป์ รวมทั้งศิลปะพื้นบ้าน ได้แก่ การแสดง ดนตรี และการแสดงพื้นบ้าน โดยแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม ดังนี้ ๓.๑ ดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย ๓.๒ ดนตรีสากลและนาฏศิลป์สากล ๓.๓ ภาพยนตร์และละคร


         นับตั้งแต่เริ่มโครงการศิลปินแห่งชาติมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ และประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติในปีแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ - ๒๕๕๖ มีศิลปินสาขาต่างๆ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติแล้วรวม ๒๔๖ คน เสียชีวิตไปแล้ว ๑๑๐ คน มีชีวิตอยู่ ๑๓๖ คน


         สำหรับผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้รับเงินตอบแทน เดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท  และสามารถเบิกเงินสวัสดิการเพื่อการรักษาพยาบาลได้ตามระเบียบราชการ รวมทั้งมีค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย ครั้งละไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท และหากเสียชีวิตจะมีค่าช่วยเหลืองานบำเพ็ญกุศลศพ ๒๐,๐๐๐ บาท เงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท เป็นต้น


         อนึ่ง ศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๗ ที่ได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ จะเข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งตรงกับวันศิลปินแห่งชาติ และในวันดังกล่าวจะมีงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่ศิลปินแห่งชาติ พร้อมกิจกรรมการแสดงและนิทรรศการศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๗ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยด้วย


         จึงขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.culture.go.th หรือทาง  เฟสบุ๊คกรมส่งเสริมวัฒนธรรม www.facebook.com/DCP.culture   


ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม