รวมเรื่องน่ารู้ ที่ทำให้คุณต้องอยากรู้จัก สุดยอดอัจฉริยะที่โลกลืม
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 6.5K views



             

          "นิโคลา เทสลา"  ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของโลกที่คนรู้จักน้อย และเคยถูกลืมเลือนเป็นร้อยปี มันน่าเศร้าใจที่ตอนมีชีวิตอยู่เขาถูกมองไม่ต่างจากคนสติเพี้ยน ไม่มีคนยอมรับ

           และมีชะตาชีวิตที่แสนเศร้า ในช่วงบั้นปลายชีวิต ทั้งการถูกหักหลังไม่ให้เงินอุดหนุนและฉวยลิขสิทธิ์ผลงานเขา รวมถึง รัฐบาลสหรัฐยุคนั้นก็กระทำกับเขาผู้ล่วงลับเหมือนบุคคลอันตราย และไม่ต่างจากการปล้นแนวคิด ซ้ำยังปกปิดมาเป็นร้อยปี

 

การส่งพลังงานแบบไร้สายด้วยต้นทุนต่ำเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวดต่อมนุษย์
เพราะมันจะทำให้เขาเป็นนายเหนือท้องฟ้ามหาสมุทร และทะเลทราย
ทำให้เขาสามารถขจัดความจำเป็นในการขุดเจาะ สูบ ขนส่ง และเผาผลาญเชื้อเพลิง
และดังนั้นจึงกำจัดแหล่งที่มาไม่รู้จบของความสิ้นเปลืองอันชั่วร้าย

นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla, ๑๘๕๖-๑๙๔๓)

 

รวมเกร็ดน่ารู้ ในชีวิตของอัจฉริยะ ผู้มีพลังจิต และผลงานล้ำยุค จนคนตามไม่ทัน

       -- นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla) เกิดเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 - ถึงแก่กรรม 7 มกราคม พ.ศ. 2486 (86 ปี) เป็นนักประดิษฐ์ นักฟิสิกส์ วิศวกรเครื่องกล และวิศวกรไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยอัจฉริยภาพ
 

       -- เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ร่วมสมัยเดียวกันกับ โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของอเมริกา และเคยทำงานเป็นลูกจ้างของเอดิสันมาก่อน 
 

       --  ในสมัยนั้นนักวิทยาศาสตร์ร่วมยุค ขนานนามเทสลาว่า mad scientist เพราะเค้าชอบคิดอะไรที่ล้ำหน้ามาก ๆ  จนคนสมัยนั้นตามไม่ทันจึงดูถูกมองว่า เขาเป็นนักประดิษฐ์สติเฟื่อง ทั้งที่แนวคิดเขา เช่นโครงการ HAARP เพิ่งถูกนำมาทำได้จริง ในปีหลัง ๆ นี้เอง (ค.ศ. 1993) 
 

      -- นอกจากเขาจะเกิดมาพร้อมสมองอันชาญฉลาดแล้ว เขายังมีพลังจิตอีกด้วย

         โดยตั้งแต่เด็กเขามักจะเห็นแสงไฟแวบเข้าตาตามด้วยภาพหลอน และหลายครั้งที่เพียงแค่เขาได้ยินชื่อของสิ่งของ เขาก็จะเกิดภาพรายละเอียดของสิ่งของชิ้นนั้นๆ ขึ้นในใจ แต่นั่นคือสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้เขาเป็นอย่างมาก 
 

        -- ครั้งหนึ่งเขาเคยล้มป่วยเป็นโรคประหลาดที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคนั้นทำให้ประสาทรับรู้ต่างๆ ของเขาไวต่อสิ่งเร้ามากกว่าปกติ อีกทั้งการอยู่ในสถานที่ที่มีแสงจ้า นอกจากจะทำให้เขาปวดตาแล้ว มันยังแผดเผาผิวหนังของเขาจนเป็นแผลผุผองอีกด้วย
 

        -- ผลของอาการประหลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ทำให้เขากลัวการสัมผัสทางร่างกายกับบุคคลอื่น เขาจึงปฏิเสธความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม และการแตะเนื้อต้องตัวหรือการจับมือกับใคร ได้แต่โกหกว่ามือของเขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง 
 

ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพนี้ ขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่างๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น 
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด

 

        --- นิโคลาเสียชีวิตอย่างเงียบๆ ที่โรงแรมในนครนิวยอร์ค ตลอดชีวิตเขาถูกคนในวงการวิทยาศาสตร์ดูถูกในความคิดที่ดูเพี้ยน ๆ ซ้ำร้ายกว่านั้นชื่อและสิ่งประดิษฐ์ของเขาถูกนำมาแต่งเป็นผู้ร้ายในการ์ตูนยอดฮิต ซูเปอร์แมน ( Superman ) มีอยู่ตอนหนึ่ง ซูเปอร์แมนต้องต่อสู้กับนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องชื่อ " เทสลา " ที่พยายามทำลายล้างโลกด้วยอาวุธลำแสงมหาประลัย ( Death Ray )
 

        --- ชีวิตของเขาช่างแตกต่างจาก โทมัส เอดิสัน มาก ในขณะที่ เอดิสัน กลายเป็นบุคคลสำคัญของโลกที่ได้รับการเชิดชูว่าเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์ แต่เขากลับเป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์สติเพี้ยนในสายตาของคนทั่วไป เขาจึงได้ชื่อว่าเป็น "นักประดิษฐ์ที่โลกลืม"
 

นิโคลา เทสลา ในห้องทดลองของเขาที่เมืองโคโลราโด สปริงส์ วันที่ 31 ธันวาคม 1899
ถ่ายคู่กับเครื่องส่งกระแสไฟฟ้ายักษ์ ซึ่งมีความถี่สูงมากจนสามารถส่งกระแสไฟนับล้านวัตต์


       --- ชีวิตเขาขับเคี่ยวกับเอดิสันมาตลอด จนถูกสร้างเป็นภาพยนตร์โด่งดัง The Prestige 

           ถ้าพูดถึงผลงานของเทสล่านั้น ยิ่งใหญ่กว่าเอดิสันหลายเท่านัก แต่น่าเสียดายที่เกิดมาผิดยุคผิดช่วงเวลา ในขณะที่ เอดิสัน นั้นโด่งดังในการประดิษฐ์หลอดไฟ และ กระแสไฟฟ้าตรง แต่เทสล่าไปเสนอ เรื่องกระแสไฟฟ้าสลับ ให้กับเอดิสัน   ซึ่งเอดิสันก็ไม่สนใจ แถมยังทำลายชื่อเสียงของเทสล่าในขณะนั้น โดยการใช้เก้าอี้ไฟฟ้าในการฆ่าแมวโดยใช้กระแสไฟฟ้าสลับให้คนทั่วไปเห็นว่าอันตราย เพียงเพราะเทสล่าไปขัดผลประโยชน์กับไฟฟ้ากระแสตรงของเอดิสัน
 

      ---- เทสล่ามีความคิดที่น่ายกย่องนั้นก็คือ ทำอย่างไร ผู้คนถึงจะใช้ไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องพึ่งสายไฟ ซึ่งเป็นที่มาของ เทคโนโลยี wireless ที่เราใช้กันในปัจจุบัน

            ผลงานที่เป็นรูปธรรมของเทสล่าก็คือ ระบบไฟฟ้ากระแสสลับและการส่งพลังงานแบบไร้สายนี้เอง

 

รวมความพิเศษของเทสล่า

        -- ช่วงแรกเขาได้สร้างระหัดวิดน้ำชนิดไม่มีใบพัด และทำให้เขาได้แรงจูงใจในการสร้างกังหันน้ำชนิดไม่มีใบพัดในเวลาต่อมา

        --- เขาจะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันซ้ำกันหลายครั้ง จนกว่าจะได้จำนวนที่หาร3 ลงตัว

        --- เขาเป็นผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา หรือ Tesla coil และยังค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า 
 

 ในปี 1940 หลังวันเกิดครบรอบ 84 ปี เทสลาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์
The New York Times วันที่ 22 กันยายน 1940 ว่า

“…เขาพร้อมที่จะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับพลัง ‘โทรกำลัง’ (teleforce) ต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ลังนี้มีอานุภาพหลอมละลายเครื่องยนต์ของเครื่องบินจากระยะไกลถึง 250 ไมล์ ทำให้สามารถสร้างแนวกำแพงป้องกันรอบประเทศแบบกำแพงเมืองจีน แต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
 

           เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ ๒ และเทสลาคงเป็นกังวลกับการที่ยูโกสลาเวีย ประเทศบ้านเกิดของเขา ได้แพ้ต่อกองทัพเยอรมัน จึงต้องการยก “รังสีหายนะ” ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน เพื่อช่วยทั้งประเทศบุญธรรมและประเทศบ้านเกิดเมืองนอน แต่กลับไม่มีใครสนใจ

 

            แต่ในช่วงท้าย รัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งเกรงว่า เยอรมันศัตรูหลักในขณะนั้น (สงครามโลกครั้งที่ 2) จะได้ความลับนี้ไป จึงปิดเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ นิโคลา เทสลา อย่างลับที่สุด และทุกฝ่ายต้องรักษาความลับของสิ่งประดิษฐ์ของเขาให้เป็นความลับตลอดไป
 

              เป็นเหตุให้งานทั้งชีวิตของเทสลาถูกตีตรา “ลับที่สุด” และห้ามไม่ให้ใครอภิปรายเรื่องนี้อีกเลย
 
 

ศูนย์ HAARP ในมลรัฐอะแลสกา
 

          คงเป็นตลกร้ายที่รังสีหายนะของเทสลากลับกลายเป็นเรื่องจริง !!! 

          วงการวิทยาศาสตร์เพิ่งตามเขาทัน เมื่อปี1993  กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มก่อสร้างศูนย์วิจัยไอโอโนสเฟียร์ ในเมืองกาโคนา มลรัฐอะแลสกา ศูนย์นี้มีชื่อว่า HAARP (High Frequency Active Auroral Research Program) ในการดำเนินโครงการเพื่อศึกษาคุณสมบัติการสะท้อน (resonant properties) ของโลกและชั้นบรรยากาศโลก โครงการนี้มีความเกี่ยวโยงกับงานของเทสลาอย่างชัดเจน

          กล่าวคือ HAARP กำลังศึกษาปรากฏการณ์เดียวกันกับที่เทสลาค้นคว้าที่โคโลราโดเมื่อกว่า 100 ปีก่อน

 

มอเตอร์กระแสไฟฟ้าสลับของเทสลา
ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ ๑๐ ชิ้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
 

          --- เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เทสลาไม่เคยตีพิมพ์ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงที่มีพลวัตของเขา ซึ่งขณะนั้น ทุกคนมองว่าขัดแย้งกับไอน์สไตน์  

                ซึ่งในปัจจุบันไม่นานมานี้ ปีค.ศ.1980 เพิ่งพิสูจน์ได้ว่า  สิ่งที่เขาเสนอว่า เมื่อวัตถุหนักเคลื่อนที่ มันจะแผ่คลื่นแรงโน้มถ่วง (gravity wave) ออกมาเป็นจริง

                เมื่อมีผลการวิจัยเรื่องการสูญเสียพลังงานในพัลซาร์ดาวคู่นิวตรอน (double neutron star pulsar) ชื่อ PSR 1913+16 พิสูจน์ว่าคลื่นแรงโน้มถ่วงมีอยู่จริง

                  การที่ความเห็นของเทสลาที่ไม่ตรงกันกับไอน์สไตน์สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้วเขากลับสามารถขยายแนวคิดนี้ไปสู่แรงโน้มถ่วงด้วย  แต่การโจมตีงานของไอน์สไตน์ซึ่งกำลังโด่งดังขณะนั้น ทำให้แวดวงวิทยาศาสตร์ตอนนั้นโจมตีเทสลา

              สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทสลาล้วนตั้งอยู่บนองค์ความรู้เกี่ยวกับคลื่น เขาเชื่อมั่นว่า เสียง แสง ความร้อน รังสีเอกซเรย์ และคลื่นวิทยุ ล้วนเป็นคลื่นที่เกี่ยวข้องกัน และเราสามารถค้นคว้าได้ด้วยสมการคณิตศาสตร์ประเภทเดียวกัน 

 

           ---  เขามาเสียเปรียบอีกครั้ง เมื่อต้องการวิจัยค้นคว้า พลังงานไร้สาย ผลงานที่ชิ้นใหญ่ แต่อาศัยเงินเยอะ จึงไปร่วมกับนายทุน ให้มาเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน โดยต้องแลกกับการที่ต้องมอบ สิ่งที่เขาได้จดลิขสิทธิ์เอาไว้

                เมื่อไปลงนามในสัญญากันนั้น นิโคลา เทสลา ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะก่อนหน้านี้ นายทุนคนนั้นได้ลงทุนลงเงินไปมากมายกับเรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้ากระแสสลับแล้ว จึงไม่ต้องการให้ ระบบไฟฟ้าไร้สาย ที่กำลังจะเกิดของเทสล่ามาทำให้มันต้องล้าสมัยหรือเลิกใช้ไป

                 ลิขสิทธิ์ของเทสลาจึงถูกเอาไปเป็นของคนอื่นผ่านการทำสัญญานั้น และเมื่อถูกบีบให้ขาดการอุดหนุนทางการเงิน  ทำให้งานที่จะทำอย่าง พลังงานไร้สายก็ต้องล่มไป ความผิดหวังทำให้เขาต้องจมอยู่ในโรงแรมเล็ก ๆ อย่างเดียวดาย และเสียชีวิตในที่สุด

 

         ---  หลังจากเสียชีวิตได้ 6 เดือน ศาลสูงสหรัฐตัดสินว่าเทสลาเป็นผู้ประดิษฐ์วิทยุคนแรกของโลก ไม่ใช่ กูกลิเอลโฒ มาร์โคนี นักประดิษฐ์ชาวอิตาเลียน แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะสิทธิบัตรดังกล่าวหมดอายุแล้ว(และทั้งคู่ตายแล้ว)
 

         ---  ทั้งเทสลา และเอดิสัน  ไม่เคยได้รางวัลโนเบล หลายฝ่ายคาดว่าอาจเป็นเพราะความเกลียดชังของทั้งคู่ที่ไม่ยินดีจะรับรางวัลรวมกัน
 

         ---   ปี1960 เทสลา ได้รับเกียรติให้เป็นหน่วยวัดสนามแม่เหล็ก (T) และยังได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า นอกจากนั้นภาพของเทสลายังได้โอกาสปรากฏอยู่บนธนบัตรของเซอร์เบียด้วย

 
ขดลวดเทสลา (Tesla coil) 

ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพนี้ ขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่างๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
ห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นโดยเด็ดขาด


 

รวมผลงานเด่น ที่ถูกนำมาต่อยอดผลิตสิ่งต่าง ๆ มากมายในโลก

   ---   ผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา (Tesla coil) และค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า จึงเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลา
   ---  ผู้ค้นพบวิธีการสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless communication)
   ---  ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟแบบใช้ก๊าซให้แสงสว่าง หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์
   ---  ผู้คิดทฤษฎีของเครื่องเรดาร์
   ---  ผู้คิดรีโมตคอนโทรล
   ---  ผู้ประดิษฐ์มอเตอร์เหนี่ยวนำ 
   ---  ผู้ประดิษฐ์วิทยุ

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลเรียบเรียงจาก

-- https://board.postjung.com/637678.html

-- https://www.sarakadee.com/2012/03/01/tesla/