ทบทวนกริยาแท้ กริยาไม่แท้ กริยาหลัก กริยาช่วย (1)
สำหรับตอนนี้ขอวกกลับมาที่คำกริยานิดนึง (เพราะในบรรดาคำทั้งหมด กริยานี่แหละที่ยุ่งยาก เรื่องมากที่สุดแล้ว) ครั้งที่แล้วๆ เราเรียนการผันกริยาไป ซึ่งหลายคนอาจจะสับสนว่าบางครั้งมันก็มีกริยาหลายตัวที่ไม่ได้ผันตามประธาน กาล หรือรูป passiveหลายคนอาจจะงงว่าทำไมเดี๋ยวมีกริยาหลักบ้าง กริยาช่วยบ้าง ในตอนนี้เราจึงกลับไปสู่พื้นฐานของคำกริยา ว่ากริยามีกี่ประเภท อะไรบ้าง
โดยทั่วไปประโยคจะประกอบด้วยประธาน และกริยา (อาจจะมีกรรมด้วย)
หลักๆ แล้วเราแบ่งกริยาออกเป็นกริยาแท้ และกริยาไม่แท้
1) กริยาแท้
กริยาแท้มีหน้าที่ตามชื่อของมัน คือเป็นตัวแสดงลักษณะอาการ การกระทำของประธาน และกาล (tense) ซึ่งกริยาแท้นี้แบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภทย่อยคือ กริยาหลัก และกริยาช่วย
กริยาหลัก คือกริยาที่สำคัญของประโยค ถ้าตัดออกจะไม่รู้ความหมายเลยในประโยคนั้นๆ
กริยาช่วย คือกริยาที่ไม่สำคัญ เป็นแค่ตัวเสริมให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
เช่น
He eats an apple.
กริยาในประโยคนี้มีอยู่แค่ตัวเดียวคือ eats (ซึ่งเติม -s ตามประธานเอกพจน์ บุรุษที่ 3 ปัจจุบันกาล)
ส่วน He is eating an apple.
กริยาในประโยคนี้มี 2 ตัวคือ is และ eating จะเห็นได้ว่าทั้งคู่ทำหน้าที่บอกการกระทำ นั่นคือเป็นคำกริยาแท้ทั้งคู่ โดย is เป็นกริยาที่มาช่วย ไม่ได้มีความหมาย ส่วนกริยาหลักที่ขาดไม่ได้จริงๆ คือ eating ที่แปลว่ากิน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า verb to be จะเป็นได้แค่กริยาช่วยอย่างเดียว เช่น
I am a student.
จะเห็นได้ว่า am เป็นกริยาหลัก แปลว่า เป็น
โดยกริยาช่วยในภาษาอังกฤษมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัว แต่ก่อนที่เราไปดูกัน เราลองมาดูถึงกริยาหลักก่อน กริยาหลักนั้นมีได้เยอะแยะมากมาย และสามารถมีรูปต่างๆ 5 รูป ดังนี้
1) รูปไม่ผัน คือรูปธรรมดาของมัน เช่น eat, walk, work, sleep, go
2) รูปเติม -s เช่น eats, walks, works, sleeps, goes
3) รูปอดีต เช่น ate, walked, worked, slept, went
4) รูป present participle (รูปเติม -ing) เช่น eating, walking, working, sleeping, going
5) รูป past participle (รูปช่อง 3) เช่น eaten, walked, worked, slept, gone
แล้วในตอนหน้าเราจะมาเรียนต่อกันที่กริยาช่วย (24 ตัว) และกริยาไม่แท้กัน
PornpanAcademy
www.pornpanacademy.com