(2) การผันกริยาตามประธาน

ในตอนที่แล้วเราได้เรียนเรื่องการแยกคำนามนับได้/นามนับไม่ได้ ซึ่งจะมีผลต่อการผันกริยาที่ใช้กับคำนามนั้นๆ โดยกริยาสามารถผันได้ใน 3 กรณี คือ ผันตามประธาน ตามกาล และตามรูปประโยค active/passive

คราวนี้เราจะมาเรียนเรื่องของการผันกริยาตามประธานกัน
กฏของการผันกริยาตามประธานมีแค่สั้นๆ ง่ายๆ คือ ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่สาม และปัจจุบันกาล กริยาที่ใช้กับประธานนั้นจะต้องเติม -s หรือ -es ต่อท้ายเช่น

I read books every day. (ประธานคือ I ซึ่งเป็นเอกพจน์แต่เป็นบุรุษที่หนึ่ง กริยาที่ใช้จึงไม่ต้องเติม -s)
They read books every day. (ประธานคือ They ซึ่งถึงแม้จะเป็นบุรุษที่สามแต่เป็นพหูพจน์ กริยาที่ใช้จึงไม่ต้องเติม -s)
He reads books every day. (ประธานคือ He ซึ่งเป็นเอกพจน์ บุรุษที่สาม กริยาที่ใช้จึงต้องเติม -s)

หากดูจากกฏของการผันกริยาตามประธานแล้ว จะเห็นได้ว่าหลักสำคัญที่เราจะต้องใช้คือการแยกว่าคำนามใดเป็นเอกพจน์ และคำนามใดเป็นพหูพจน์นั่นเอง
คำนามทั่วๆ ไปหากเป็นรูปพหูพจน์ก็แค่มี -s หรือ -es ต่อท้าย เช่น
boy ---> boys
house ---> houses

แต่ยังมีข้อยกเว้นอื่นๆ อีกมากมาย
• คำนามบางคำอาจมีรูปพหูพจน์ที่ต่างออกไป เช่น men  men หรือ child  children หรือ mouse  mice
• คำนามบางคำมีเพียงรูปเดียวแต่มีความหมายเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ เช่น deer, staff
• คำนามบางคำอยู่ในรูปเอกพจน์แต่มีความหมายเป็นพหูพจน์ เช่น people, folk
• คำนามบางคำอยู่ในรูปพหูพจน์แต่มีความหมายเป็นเอกพจน์ เช่น news, headquarters (สำนักงานใหญ่), economics (วิชาเศรษฐศาสตร์)
• คำนามเอกพจน์ (รวมทั้งคำนามนับไม่ได้) หากถูกนำมารวมกันด้วย and จะกลายเป็นพหูพจน์ทันที เช่น Coffee and tea are in the refrigerator. หรือ My father, my mother and my sister live in Las Vegas.
• กลุ่มของคนหรือสิ่งของที่รวมกันแล้วเป็น 1 หน่วย ถือว่าเป็นเอกพจน์ คือถึงแม้ว่าจะประกอบไปด้วยคนหรือสิ่งของหลายสิ่ง ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นพหูพจน์ แต่พอรวมกันแล้วกลายเป็นหนึ่งกลุ่ม หนึ่งก้อน เช่น army, government, family, team, group เราจะถือว่ากลุ่มเหล่านี้เป็นเอกพจน์ทันที เช่น The government tries to prevent the floods. หรือ My family is going to England tomorrow.
• คำเหล่านี้ถือเป็นเอกพจน์เสมอ: anyone, anything, no one, nothing, either, neither, what, whatever, somebody, someone, something, each, everyone, everything, everybody เช่น Everyone wants to be successful. หรือ Each employee gets 3 months of bonus. หรือ Neither is correct. หรือ Something is wrong.
• คำเหล่านี้ถือเป็นพหูพจน์เสมอ: few, both, several, many เช่น Few people are rich. หรือ Several of my friends plan to study science.
• บรรดาสรรพนามที่เป็น relative pronoun ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น who, which, that นั้น จะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ขึ้นอยู่กับคำนามที่มันอ้างไปถึง เช่น Steve is the person who always repairs our cars. จะเห็นได้ว่า who อ้างไปถึง Steve ซึ่งเป็นเอกพจน์ หรือ You should trust the people who are your friends. จะเห็นได้ว่า who อ้างไปถึง people ซึ่งเป็นพหูพจน์
• ส่วนสรรพนามอีกหลายๆ ตัว เช่น some, all, most, any, none นั้นจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ขึ้นอยู่กับคำนามตัวที่มันไปอ้างถึงเช่นเดียวกัน เช่น All of the money is mine. จะเห็นได้ว่า All อ้างถึง money ซึ่งเป็นนามนับไม่ได้ หรือ All of the buildings in this area belong to him. . จะเห็นได้ว่า All อ้างถึง buildings ซึ่งเป็นพหูพจน์

****เทคนิคในการทำข้อสอบ TOEIC ที่ถามเกี่ยวกับการผันกริยาตามประธานคือ****
 หาประธานให้เจอ
 ตรวจสอบว่าประธานเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ (อย่าลืมว่านามนับไม่ได้ถือเป็นเอกพจน์)
 หากริยาที่ใช้กับประธานนั้นๆ
 ตรวจสอบว่ารูปของกริยาสามารถใช้กับประธานนั้นได้หรือไม่ (ประธานเอกพจน์ บุรุษที่สามกริยาต้องเป็น -s หรือ -es)

ข้อสอบที่เจอใน TOEIC มักจะถามตรงๆ เลยว่าประธานตัวที่ให้มาต้องใช้กับกริยารูปใด โดยจะมีกริยาตัวเดียวที่อยู่ในรูปต่างๆ มาให้เราเลือก

1. The head of operations _______ to the management convention.
A) going
B) are going
C) go
D) is going
ข้อนี้ต้องตอบ D เพราะประธานคือ head of operations (หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงาน) เป็นเอกพจน์ บุรุษที่สาม กริยาที่ตามมาจะต้องผัน นั่นก็คือ is นั่นเอง ส่วนข้อ B และ C ใช้กับประธานพหูพจน์ ในขณะที่ข้อ A กริยาเติม -ing ต้องมี verb to be นำหน้า

2. At midnight, the second shift of security guards ______ on duty.
A) coming
B) to come
C) comes
D) come
ข้อนี้ต้องตอบ C เพราะถึงแม้ประธานจะเป็น The second shift of security guards (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกะที่สอง) ซึ่งประกอบไปด้วยคนหลายคนก็ตาม แต่รวมกันแล้วเป็น 1 หน่วย เราจึงถือว่าเป็นเอกพจน์ กริยาที่ใช้ต้องผันตามเอกพจน์ ข้อ D ใช้กับประธานพหูพจน์ ส่วนข้อ A และ B ไม่สามารถวางอยู่เฉยๆ โดยไม่มีกริยาตัวอื่นๆ นำหน้าได้

3. We do not use cleaning products and paints that ______ disposal as hazardous waste.
A) requires
B) require
C) requiring
D) to require
ข้อนี้ต้องตอบข้อ B เนื่องจากสรรพนาม that อ้างไปถึงคำนามคือ cleaning products and paints ซึ่งเป็นรูปพหูพจน์แถมถูกเชื่อมด้วย and อีกต่างหาก กริยาที่ใช้ต้องเป็นกริยาที่ใช้กับพหูพจน์ ข้อ A ใช้กับประธานเอกพจน์ ส่วนข้อ C, D ไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีกริยาอื่นๆ นำหน้า
ในตอนต่อไปเราจะมาเรียนถึงการผันกริยาตามกาล หรือ tense ทั้ง 12กัน

PornpanAcademy
www.pornpanacademy.com