ตอนเด็กๆที่ยังเรียนชั้นประถมกันอยู่ ทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ จำได้ไหมคะว่าพวกเราต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่มาทำอะไร เด็กเกือบทุกคนยอมลุกจากเตียงแต่เช้า โดยไม่ต้องมีใครปลุก (ทั้งที่ถ้าเป็นวันเรียนต้องปลุกกันอยู่นาน) เพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น “การ์ตูน” ไงคะ
การ์ตูนเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรามานาน ตั้งแต่จำความได้เพื่อนๆก็คงได้ดูการ์ตูนกันแล้ว คนส่วนใหญ่เห็นว่าการ์ตูนเป็นสิ่งบันเทิง ดูเพื่อคลายเครียดและไม่ได้เอาสาระอะไรมาก แต่เพื่อนๆเชื่อไหมคะว่า สิ่งบันเทิงที่ดูเหมือนไร้สาระนี้ ครั้งหนึ่งเคยถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมาแล้ว
การ์ตูนที่ว่านี้คือการ์ตูนยอดมนุษย์แบบอเมริกัน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่นั่นเองค่ะ
การ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับซุปเปอร์แมน ซุปเปอร์ฮีโร่คนแรกของโลกเมื่อปี ค.ศ.1938 และหลังจากที่ซุปเปอร์แมนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ชาวอเมริกันก็ได้รู้จักกับซุปเปอร์ฮีโร่ใหม่ๆอีกมากมายหลายคน ทั้งแบ็ทแมน กรีนแลนเทิร์น และวันเดอร์วูแมน ล้วนเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงยุคทองของหนังสือการ์ตูนอเมริกันทั้งสิ้นค่ะ
ถึงตอนนี้ หลายคนคงสงสัยว่า การ์ตูนมันไปเกี่ยวอะไรกับการเมืองด้วย
ซุปเปอร์ฮีโร่ยุคแรกถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆกับการเรืองอำนาจของฝ่ายอักษะในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ และเนื่องจากซุปเปอร์ฮีโร่เป็นตัวแทนของการผดุงความยุติธรรมและการต่อต้านอำนาจชั่วร้าย สำหรับยุคนั้นก็คงไม่มีใครร้ายไปกว่าฮิตเลอร์และฝ่ายอักษะอีกแล้ว ซุปเปอร์ฮีโร่ในสมัยนั้นจึงถูกวางเนื้อเรื่องให้มีส่วนร่วมต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่สองเกือบทุกคน ไม่มากก็น้อย ในการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่บางเล่มก็ยังสอดแทรกวิธีต่างๆที่ทำให้เด็กๆช่วยสนับสนุนกองทัพอเมริกันได้ด้วย เช่น การเก็บกระดาษเหลือใช้เพื่อนำมาบริจาคทำอุปกรณ์ทางการทหาร หรือการเก็บเงินค่าขนมสิบเซนต์เพื่อซื้อพันธบัตรสงคราม แทนที่จะซื้อเข็มกลัดซุปเปอร์ฮีโร่เพื่อสะสม เป็นต้น
ถ้าพูดถึงซุปเปอร์ฮีโร่ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อปลูกฝั่งความรักชาติอย่างเห็นได้ชัดที่สุดในยุคนั้น คงหนีไม่พ้นกัปตันอเมริกาแน่นอนค่ะ แค่เห็นชุดแดง ขาว น้ำเงินพร้อมดาวดวงเบ้อเร่อของซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ก็พอรู้แล้วว่าเขารักชาติขนาดไหน กัปตันอเมริกาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปลูกฝั่งความรักชาติและต่อต้านนาซีโดยเฉพาะ ถึงขนาดที่ว่า โจ ไซมอน หนึ่งในผู้สร้างสรรค์กัปตันอเมริกาเคยบอกไว้ว่า เขามีตัวร้ายในใจ เป็นฮิตเลอร์และฝ่ายอักษะ ก่อนที่จะวาดกัปตันอเมริกาออกมาเสียอีก จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมหน้าปกเล่มแรกของการ์ตูนกัปตันอเมริกาจึงเป็นรูปของกัปตันอเมริกา ในยูนิฟอร์มแดง ขาว น้ำเงิน ปล่อยฮุคขวาเข้าที่หน้าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์อย่างจัง
ถึงแม้สงครามโลกครั้งที่สองจะสงบแล้ว บทบาททางการเมืองของกัปตันอเมริกาก็ยังคงดำเนินต่อไปได้ค่ะ ในยุคหลังสงครามโลก ช่วงปี 1940-1950 กัปตันอเมริกามีศัตรูใหม่ที่เข้ากับยุคนั้นมากขึ้น นั่นคือพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งเนื้อเรื่องของการ์ตูนในช่วงนี้ เข้ากับยุคสมัยที่สังคมอเมริกันตื่นตัวเรื่องการต่อต้านคอมมิวนิสต์มาก หรือเรียกกันว่าช่วง “Red Scare” นั่นเองค่ะ
หลังจากช่วงยุค 1950 มา ความนิยมในการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ก็ถดถอยลง จนสิ้นสุดยุคทองของการ์ตูนประเภทนี้ไป แต่ถึงอย่างนั้น การ์ตูนซุปเปอร์ฮีโรในยุคหลังๆ โดยเฉพาะในยุคเงินของหนังสือการ์ตูนอเมริกันช่วงปลาย 1950-1960 ก็ยังทำหน้าที่สอนเด็กๆเกี่ยวกับภัยใกล้ตัวต่างๆ เช่น ภัยของยาเสพติดอยู่ค่ะ
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากทราบที่มาที่ไป และประวัติของกัปตันอเมริกา ขอแนะนำให้คลิกเข้าไปดูคลิปพร้อมคำแปลได้ที่ https://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_youtube.php?youtube_id=193 ค่ะ
เห็นไหมคะ จริงๆแล้วการ์ตูนไม่ได้เป็นแค่สิ่งบันเทิงไร้สาระเสมอไป นอกจากจะสามารถเป็นเครื่องมือทรงอิทธิพลทางการเมืองได้แล้ว ยังสามารถเป็นสื่อให้ความรู้กับเยาวชน และสอนเรื่องความผิดชอบชั่วดีได้โดยที่บางครั้งผู้รับไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับผู้รับสื่อเองที่จะเลือกเอาแต่สิ่งดีๆไปใช้ค่ะ
จากนิตยสารปลูก โดย www.trueplookpanya.com ฉบับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554