Hello there!: ตอน It’s all about Attitude (1)
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
06 ส.ค. 64
 | 5.9K views



Hello there!: ตอน It’s all about Attitude (1)

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน LG คือชื่อของเราที่เพื่อนและผู้ติดตามหลายๆ คนเรียก ทั้งนี้ทั้งนั้นชื่อเราไม่ได้สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราจะมาคุยกันในคอลัมน์นี้ ก่อนอื่นขอทำความรู้จักกันหน่อย ข้อแรก LG เป็นเพียงคนไทยคนหนึ่งที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองโดยมี Passion (ความลุ่มหลง) มาตลอด จนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับที่สามารถมอบความรู้ให้คนอื่นได้

ข้อสองจำไว้ว่า Aim, Goal, Purpose (อ่านว่า เพอ-เพิส), Objective ซึ่งแปลว่า เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของการเรียนภาษาอังกฤษ ก็เพื่อให้ตัวผู้เรียนได้ “พัฒนาตนเอง” ข้อสาม เราอาจแบ่งคนที่พูดภาษาอังกฤษในประเทศนี้ได้เป็น 2 ประเภท หนึ่ง พวกที่เก่งภาษาอังกฤษ และดูถูกคนที่พูดไม่ได้ สอง พวกที่ไม่ชอบใช้ภาษาอังกฤษและรู้สึกว่าการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง ต้อง “กระแดะ” ต้องขอบอกจริงๆ ว่าจะเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องของตัวบุคคล

ข้อสี่ English is all around ภาษาอังกฤษนั้นอยู่รอบตัวเราถ้าเราสนใจจริงๆ และต้องจำไว้ด้วยว่า Practice makes perfect! ต้องฝึกไปเรื่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย แล้ววันหนึ่งก็จะเห็นการพัฒนาเอง แต่ต้องฝึกจริงๆ นะ เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ทุกวัน ดูหนังฟังเพลงบ่อยๆ

ภาษาอังกฤษมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้ในภาษาอังกฤษมีภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี เข้ามาผสมปนเปเต็มไปหมด! ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเก่งภาษาอังกฤษแค่ไหน คุณไม่มีวันที่จะรู้คำศัพท์ทุกคำ แต่สิ่งสำคัญในการเรียนภาษานั้นคือการรู้คำ และสำนวนจำนวนหนึ่งที่คนมักใช้กันเป็นประจำ (ซึ่งแค่นี้ก็จำกันไม่หมดแล้ว) ส่วนที่เหลือนั้นก็เป็นเรื่องของการเดา Context (บริบททางภาษา) ซะมากกว่า

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ผู้คนใช้กันทั่วโลก มันจึงมีหลายสำเนียงล้านแปด ไหนจะภาษาอังกฤษของคนอินเดีย ภาษาอังกฤษของคนสิงคโปร์ ภาษาอังกฤษแท้ๆ ของคนอังกฤษ (ซึ่งก็พูดต่างกันในแต่ละพื้นที่) ภาษาอังกฤษแบบลิ้นรัวของคนอเมริกัน นั่งลิสต์ให้ตายก็ไม่จบสิ้น LG เป็นคนไทยที่มีโอกาสไปร่ำเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองผู้ดีโดยตรง งานเขียนเกี่ยวกับภาษาอังกฤษของ LG จึงอ้างอิงมาจากลักษณะการใช้แบบคนอังกฤษ เช่น US อ่าน Dance ว่า “แดนซ์” UK อ่านว่า “ดานซ์” US อ่าน Can’t ว่า “แคนท์” UK อ่าน “คานท์” ไม่ได้บอกว่าแบบไหนถูกผิด เพราะภาษาเป็นเรื่องที่ยืดหยุ่นจริงๆ ดังนั้นฝึกกันได้ตามสะดวก

เกริ่นอยู่นาน มาเข้าเรื่องกันซะที LG รู้สึกว่าปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่ในการเรียนภาษาอังกฤษคือเรื่อง Attitude (ทัศนคติ) ที่จริงแล้วการเรียนภาษาคือ Art of Imitation (ศิลปะแห่งการเลียนแบบ) คือได้ยินคนพูดคำนั้นมายังไง เราก็พูดมันออกมาอย่างนั้น ซึ่งเอาจริงๆ แล้วคนไทยเราก๊อบปี้ทุกอย่างได้เก่งกันอยู่แล้ว! เรามักจะมองว่าใครพูดภาษาอังกฤษได้ดี คือพวก “กระแดะ” ใครออกเสียงชัดคือพวก “พยายาม” ผู้อ่านท่านใดมีความคิดเช่นนั้นอยู่ LG ขอให้คุณคิดใหม่ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ เราจะคุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ

ลองมาทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ภาษาอังกฤษมีการออกเสียงเฉพาะตัว พยัญชนะแต่ละตัวก็จะมีการออกเสียงแบบภาษาอังกฤษ เช่น S อ่านว่า “เอสสส” ไม่ใช่ “เอด” หรือ H ก็อ่านว่า “เอช” ไม่ใช่ “เฮด” เวลาเจอ L ก็ต้องอ่านว่า “แอล” แล้วดันลิ้นขึ้นไปแตะหลังฟันบนเบาๆ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือความจริงของภาษาอังกฤษที่คนไทยหลายคนไม่กล้าทำ และมักล้อคนที่ทำถูกต้อง LG จะบอกลูกศิษย์เสมอว่า ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เราก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น

ฉบับหน้า It’s all about Attitude ตอน 2 จะมาว่ากันต่อเรื่อง Accent (สำเนียง)

เรื่องโดย : ลูกกอล์ฟ-คณาธิป สุนทรรักษ์
เจ้าของและอาจารย์ประจำโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ Angkriz ที่แหวกแนวด้วยแนวคิดการนำแฟชั่นกับการสอนภาษาอังกฤษมาผสมผสานกัน ลูกกอล์ฟหรือ LG โด่งดังจากการทำรายการ “LG & Friends” รายการสอนภาษาอังกฤษผ่านยูทูปที่มีมาต่อเนื่องถึงซีซั่น 4 แล้ว