ตอนที่10 เสกบ้านเป็นสวนนก
สมาชิกเลขที่6035 | 05 มี.ค. 53
1.7K views

จากประสบการณ์การดูนก การทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ ผมได้ลองนำกิจกรรมสวนนกธรรมชาติ มาสร้างเป็นประสบการณ์ของผมที่บ้านเอง โดยจัดพื้นที่ที่ไม่มากบริเวณด้านข้างบ้าน โดยผมก็นำหลักการ 3 ข้อมาปรับใช้คือ นกเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการอาหาร ความปลอดภัยและที่อยู่อาศัย แต่ผมอยากให้เราเพิ่มไปอีกหนึ่งนะครับ คือ ความรัก
 
แม้ว่าบ้านผมจะไม่ได้ปลูกไม้ผลมากมาย แต่ก็มีต้นไม้ธรรมชาติเป็นร่มเงาให้นกมาอาศัยและกินผลของมัน เช่น ต้นตะขบก็ขึ้นอยู่นอกรั้วใกล้ๆบ้าน ผมจึงจัดการเสริมอาหารให้เพื่อนตัวน้อยด้วยกล้วยน้ำหว้าวันละ  4 - 5 ลูกใส่ไว้ในรางอาหารไก่ ที่ผมประยุกต์ให้เป็นถาดอาหารสำหรับนก แล้วชักรอกขึ้นไปบนต้นปีบที่สูงใหญ่ เพื่อให้ใกล้กับพวกมันมากขึ้น ส่วนบริเวณพื้นดิน ผมก็ใช้ถาดกระเบื้อง 2 ใบ ใส่น้ำไว้เต็มขนาดตัวนกลงไปอาบน้ำได้ วางอยู่ในสวน ในไม่ช้า บรรดานกเมืองทั้งหลายก็ค่อยๆเข้ามาใช้บริการร้านอาหารธรรมชาติที่ผมทำขึ้นมา พร้อมทั้งอาบน้ำอย่างสบายอกสบายใจ เดี๋ยวนกอีแพรดมา เดี๋ยวนกปรอดมา เห็นแล้วน่าอิจฉาครับ
           
ดังนั้นเวลานี้บ้านผมจึงไม่เงียบเหงาเลย เพราะผมมีบรรดาเพื่อนๆตัวเล็กมาส่งเสียงร้องจุ๊บจิ๊บตลอดเวลา ตั้งแต่มาปลุกตอนเช้าตรู่จนพลบค่ำ จากคุณนกปรอดสวนสีเขียวอมน้ำตาล 4-5 ตัว   ต่อมายังมีเพื่อนๆ นกปรอดหน้านวลน่ารัก อีก 4 ตัวก็มาเป็นลูกค้าของผม รวมทั้งคุณนกกางเขนอีก 4 ตัว แถมลูกที่ยังเล็กๆ ของมันอีกตัว และ ยังไม่นับรวมนกอีแพรดแถบอกดำ 1คู่ ที่มักจะมาปลุกด้วยเสียงสดใสตั้งแต่เช้ามืดแทนเสียงนาฬิกาปลุก   ต่อมาก็มีคุณนกเอี้ยงสาริกา และนกเอี้ยงหงอน อย่างละคู่มาเปิบกล้วยน้ำหว้าที่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีนกขมิ้นน้อยธรรมดาคู่ผัวตัวเมีย และนกกระจิบยอดหญ้าแวะเวียนมาเป็นระยะๆ รวมทั้งแขกที่ครอบครัวเราแปลกใจกับเจ้านกกรงหัวจุกหรือเจ้านกปรอดหัวโขน ซึ่งปกติในกรุงเทพฯไม่ใช่ถิ่นอาศัยของเค้า ผมเข้าใจว่าเจ้าปรอดคู่นี้คงถูกเลี้ยงในกรงแล้วหลุดออกมาปรับตัวอยู่ในเมือง บางครั้งผมยังเห็นนกกระปูดตัวใหญ่ตาแดง แอบแวะเวียนมาเลียบริมรั้วบ้านผมเหมือนกัน
                       
จากความคุ้นเคย ความปลอดภัยและมีกล้วยกิน บรรดาลูกค้าของผมก็ไม่ค่อยตื่นกลัว แม้ผมและลูกเมียจะเดินเข้ามาดู นกทั้งหลายรู้ว่าพวกเราไม่ทำร้ายเค้า เพราะเรามีอาหารและที่อาบน้ำไว้บริการฟรีไม่มีชาร์จ   ตอนเช้าผมจะเปลี่ยนน้ำในถาดทุกวันไม่ให้แห้ง หรือในระหว่างวัน หากน้ำแห้ง ก็จะเติมให้เต็มเพื่อให้เพื่อนตัวน้อยของผมได้อาบเล่นอย่างสนุกสนาน เพราะนกก็เหมือนคนเราคือต้องรักษาความสะอาดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
 
อ้อ ผมลืมบอกไปว่าไม่เพียงวิชาเรียกนกที่ผมได้จากประสบการณ์ ยังดึงดูดเจ้ากระรอกน้อยอีก 2 ตัวมาวิ่งเล่นส่งเสียงเรียกทุกวัน เป็นแขกที่บ้าน ผมและลูกเมีย จึงดูนกและกระรอกรวมทั้งแมลงบางชนิดที่ชอบกินน้ำหวานเช่นผีเสื้อ แมลงภู่รวมอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องใช้กล้องสองตา
 
บ้านผมจึงเป็นบ้านนกที่ผมและครอบครัว ได้มีโอกาสเรียนรู้ชีวิต พฤติกรรมของนกเหล่านี้อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเลยทีเดียว  ผมได้เรียนรู้ว่านกอีแพรดเป็นนกที่ตื่นเช้ามืดจริงๆ แถมเป็นนกที่สนุกสนาน เพราะมันชอบส่ายก้นไปมาเวลาที่ร้อง แถมยังเป็นนกที่กล้าหาญไม่ค่อยเกรงกลัว ผมเองยังเคยเห็นเจ้านกอีแพรดแถบอกดำไล่นกตัวใหญ่อย่างนกกระปูดที่มาด้อมๆแถวต้นปีบที่ผมปลูก รวมทั้งบินไล่โฉบแมวที่มาเฝ้าจะกินลูกของเค้า นอกจากนั้นได้เห็นพฤติกรรมการเลี้ยงลูกของนกกางเขนและนกปรอดสวนว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร 
 
ผมยังได้อาศัยนกที่มากินกล้วยและอาบน้ำที่บ้านเป็นบทเรียนให้ลูกสาว ผมเคยลองให้ลูกทำการสังเกตการบินมากินกล้วยของนกในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกสาวผมลองเปรียบเทียบและจดบันทึก ซึ่งทำให้รู้ว่า นกจะกินตลอดเวลาที่มีอาหารเพียงพอ เกือบทุกชั่วโมง ยิ่งช่วงหน้าหนาวที่มีอาหารตามธรรมชาติน้อย แขกของผมก็มาเยือนถี่หน่อย ครอบครัวเราจึงมีความสุขจากธรรมชาติที่อยู่ภายในบ้าน โดยไม่ต้องไปไหน และทุกวันทุกคนจะช่วยกันเล่าถึงพฤติกรรมของเพื่อนตัวน้อยเหล่านี้ ตามที่สังเกตเห็น เช่น ลูกสาวจะเล่าว่ากระรอกวิ่งมาปีนกินกล้วย จนทำให้นกตกใจบินหนีไป หรือ พฤติกรรมของนกเมื่อเห็นตัวต่อหรือแมลงภู่มาบินแถวๆกล้วย เราจะเห็นว่ามันหมุนหน้ามองดูตัวต่อนั้นด้วยความกลัวและบินหนีไปก่อน
 
ผมเชื่อว่าจากประสบการณ์ที่ได้ดูนก ได้ทำสวนนกที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่คุณครูก็สามารถทำแบบผมที่บ้าน ที่ชุมชน ที่โรงเรียน โดยเรารวมกลุ่มคนในบ้านหรือนักเรียนในโรงเรียนแล้วแบ่งหน้าที่กัน คอยสังเกตดู บันทึกสิ่งที่ได้พบเห็นมาบอกเล่าสู่กันฟัง
 
ผมเชื่อว่า นกจะเป็นบทเรียนที่สนุกสนานของครอบครัว ของโรงเรียน ของเด็กๆ เราจะได้เรียนรู้ว่า นกนั่นแหละจะช่วยเป็นดัชนีชี้วัดสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน ชุมชนหรือในโรงเรียนหรือแม้แต่ในป่าธรรมชาติ เพราะชนิดและปริมาณนกที่เราพบเห็นในธรรมชาติจะบอกเราได้ว่าสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอยู่ในภาวะเช่นใด เช่นในบริเวณที่มีธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าอยู่มากก็จะพบนกหลากหลายชนิด ทั้งนกขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก
 
แม้แต่นกกระจอกก็มีการนำมาเป็นเครื่องวัดสภาพแวดล้อม ผมยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยที่จะพิสูจน์ แต่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ที่ไหนมีนกกระจอกมากมองได้  2 แง่ คือที่ตรงนั้นอาจเป็นแหล่งเสื่อมโทรม มีขยะมูลฝอยอยู่มากหรืออาจเป็นที่มีอาหารมาก แต่ผมคิดว่านกกระจอกเป็นนกที่ปรับตัวเก่งอยู่ได้ทั้งในเมือง ชนบทหรือแม้แต่แหล่งเสื่อมโทรม   และในมุมหนึ่งก็มีข้อเปรียบกันอีกว่า สถานที่แห่งใดมีนกกางเขนมาก แสดงว่าสภาพแวดล้อมยังดี เพราะนกกางเขนมันชอบกินแมลง
                                               
                                                                                               
ผมทราบว่านักปักษีวิทยาหรือนักวิทยาศาสตร์หลายประเทศสนใจและใช้นกอพยพเป็นเครื่องมือศึกษาเพื่อหาคำตอบว่ามันอพยพเดินทางไกลได้อย่างไร รวมทั้งการอพยพแต่ละปีจะสามารถบอกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เช่นกรณีของนกนางแอ่นที่มาอาศัยอยู่บริเวณถนนสีลมที่สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม    เนื่องจากเคยมีการนับประชากรนกนางแอ่นตั้งแต่ปี พศ.2527 โดยชมรมดูนกกรุงเทพหรือสมาคมอนุรักษ์นกฯในปัจจุบันเป็นจำนวน 270,000 ตัว และจำนวนก็ค่อยๆลดน้อยลงจนถึงพศ.2544 จำนวนนกนางแอ่นนับได้ราว 2-3 หมื่นตัว          

เนื่องจากสภาพพื้นที่บริเวณถนนสีลมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า อาคารขนาดใหญ่
 
ในทำนองเดียวกัน ผมได้รับทราบจากนักวิชาการว่านักวิจัยได้พบว่านกอพยพอีกหลายชนิดที่เดินทางไกลผ่านประเทศแล้วประเทศเล่าสามารถที่จะใช้เป็นตัววัดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ โดยสังเกตจากจำนวนประชากรของนก หากนกอพยพมีจำนวนลดลง อาจจะมาจากสาเหตุที่แหล่งอาหารตามธรรมชาติเกิดความผิดปกติ ซึ่งนักวิชาการสามารถสันนิษฐานว่าแหล่งธรรมชาติอาจถูกทำลายลง
 
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเชื่อว่า การดูนกเป็นจุดเริ่มต้นของเด็กๆได้ ไม่เพียงเราจะช่วยกันสร้างพื้นฐานของความรู้ ความเข้าใจเรื่องราวของนกกับธรรมชาติ เรื่องราวของนกยังมีอะไรอีกมากมายที่ให้พวกเด็กรุ่นใหม่ได้ศึกษาเรียนรู้ให้มากยิ่งขึ้นไป นกกว่า 900 ชนิดของประเทศเรา ถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อการศึกษา ผมก็หวังว่า เด็กๆในเมืองและชนบทจะได้รับการกระตุ้นส่งเสริมจากคุณพ่อคุณแม่คุณครูเพื่อเกิดความรู้ ความเข้าใจ การได้ฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในชีวิตและการเรียน และมีทัศนคติที่ดีต่อการช่วยดูแล รักษา เผ่าพันธุ์สกุณาไปพร้อมกับการรักษาแหล่งธรรมชาติที่จะเอื้อต่อการมีชีวิตยืนยาวของนกทั้งหลาย และหวังว่าเราจะได้นักวิจัยที่จะมาศึกษา วิจัย เรื่องราวต่างๆของ นกกว่า 900 ชนิด เพื่อเป็นฐานข้อมูลและองค์ความรู้ที่จะทำให้เกิดการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
Share this