เกร็ดน่ารู้! อาหารทำลายสุขภาพ
สมาชิกเลขที่17991 | 27 ก.ค. 54
6K views
เกร็ดน่ารู้!
อาหารทำลายสุขภาพ
วันนี้เรานำเกร็ดน่ารู้เพื่อสุขภาพที่ดี ของตัวคุณเองมาบอกค่ะนั่นก็คือเรื่องอาหารทำลายสุขภาพนั่น
เองค่ะ
เรื่องอาหารการกินนั้น จัดเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดต่อร่างกายคนเราเพราะไม่
มีวันไหนที่เราไม่เอาอาหารใส่ปากใช่ไหมล่ะค่ะ
ฉะนั้นแล้วร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ดี หรือครบท้วนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ตัว
คุณเองแล้วล่ะค่ะ แต่หากว่าเลือก อาหารทำลายสุขภาพ
ก็จะส่งผลในทางลบต่อร่างการของเราอีกเช่นเดียวกันค่ะ
บางครั้งก็อาจจะร้ายแรงถึงชีวิตได้ ฉะนั้นแล้วเรื่อง อาหารทำลายสุขภาพ
ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้น่าจะเป็นเกร็ดความรู้ ที่ดีมากเลยทีเดียวค่ะ
ฉะนั้นแล้วก็อย่าลืมที่จะเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพกั นด้วยนะจ๊ะ
ว่าแล้วมาดูเรื่องอาหารทำลายสุขภาพกันต่อเลยดีกว่าค่ะ
5 อาหารทำลายสุขภาพ
1. เห็ด
อาจเป็นที่รู้ๆ กันว่าเห็ดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เห็ดที่อันตรายหรือเห็ดที่มีพิษนั้นนอกจาก ทำให้เกิดอาการทางประสาทหรือ
ประสาทหลอนแล้ว เห็ดยังมีอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น เห็ดระโงกหิน (Death Cap)
และ เห็ดไข่เป็ด (Destroying Angel) เป็นเห็ดที่มีพิษร้ายแรง
แม้จะมีข่าวอยู่บ่อยครั้งว่า เสียชีวิตเพราะทานเห็ด
แต่ทุกวันนี้ยังคงมีคนนิยม เก็บเห็ดตามป่ามาปรุงอาหารโดยไม่ทราบว่ามีพิษหรือ
ไม่
ดังนั้นการเลี่ยงรับประทานเห็ดที่หน้าตาไม่คุ้นหรือไม่รู้จัก จึงปลอดภัยที่
สุดค่ะ
2. มันสำปะหลัง
มันสำปะหลังมักถูกนำมาผลิตในอาหารหลากหลายรูปแบบ
แต่พืชชนิดนี้ จะส่งผลกระทบร้ายแรงหากมีวิธีและขั้นตอนการเตรียมที่ไม่ถูก
ต้อง
ทั้งนี้ในมันสำปะหลัง ยังมีสารไซยาไนด์แฝงอยู่ซึ่งหากได้รับในปริมาณมากอาจ
ส่งผลถึงชีวิตเช่นกัน
อย่างไรก็ดีเราจึงควรรับประทานอาหาร หรือขนมที่ทำจากมันสำปะหลังในปริมาณที่
พอเหมาะสมและซื้อหรือปรุงด้วยวิธีที่ถูกต้องนะค่ะ

3. ทูน่า
แทบไม่คาดคิดเมื่อปลาทูน่าอาหารยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งในสังคม ปัจจุบันจะถูก
ประกาศเป็นอาหารสุดยอดอันตราย ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯ
ประกาศเตือนสตรีมีครรภ์และเด็กให้หลีกเลี่ยงหรือรับประทาน ในปริมาณแต่น้อย
เนื่องจากทูน่าคือปลาตัวเล็ก หลากหลายสายพันธุ์และมีปริมาณสารปรอทสูงซึ่งอาจ
ส่งผลกระทบต่อการคลอดบุตร สำหรับคุณแม่มีครรภ์และอาจทำลายระบบประสาทสำหรับ
เด็กที่กำลังมีพัฒนาการ

4. ฮอทดอก
สถาบันกุมารเวชศาสตร์สหรัฐอเมริการะบุว่า
อาหารชนิดนี้ส่งผลอันตราย ทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่เพราะเนื้อที่นำมาผลิตมักมี
คุณภาพต่ำหรือเป็น การนำเศษเนื้อที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์มาบดและทำเป็นไส้กรอก
จากรายงานบอกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ของเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี
มักเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเมื่อบริโภคฮอทดอก

5. ผักใบเขียว
เป็นที่น่าตกใจเมื่ออาหารจำพวกผักใบเขียวที่ แลดูเป็นประโยชน์ต่อร่างกายจะตก อยู่ในอาหารอันตรายเช่นกัน โดยเมื่อปี 2009 ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะระบุชื่อผักใบเขียวทั้งหลาย อาทิ ผักโขม ผักสลัด กะหล่ำปลี ผักชีฝรั่ง และผักคะน้า ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาในสหรัฐฯ มีผู้ป่วยจากผักดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่รับประทานอาหารตามร้านหรือภัตตาคาร ส่วนการติดเชื้อเชื่อว่าเกิดจากการละเลยความสะอาดทั้งความสะอาดของมือผู้ ปรุงอาหารและความสะอาดของผักที่ล้าง โดยเชื้อโรคส่วนใหญ่ที่มากับผักชนิดดังกล่าว คือ ไวรัสไนโร ซึ่งติดมากับผักเมื่อได้รับการสัมผัสจากสัตว์ป่า หรือน้ำที่ไม่สะอาด

ที่มา : http://www.n3k.in.th