มีกุหลาบจากจีนพันธุ์หนึ่ง ผู้ขายบอกไม่ทราบเรียกชื่อว่าอะไร แต่เพราะมาจากคุนหมิง จึงเรียกชื่อตามนั้น
อยากชวนลองวาดกันค่ะ เริ่มจากดอกกันก่อน ด้วยการคะเนลักษณะของดอกด้วยรูปทรงง่ายๆ จากนั้นจึงร่างกลีบด้วยการแบ่งส่วนดอกโดยใช้เส้นง่ายๆก่อน แล้วจึงตกแต่งเส้นให้สวยงาม
เติมกลีบเลี้ยง ก้านชูดอก กำหนดตำแหน่งใบชุดที่ 1 ด้วยเส้นกลางใบ แล้ววาดเส้นรอบรูปของใบตาม
จากนั้นจึงวาดใบชุดต่อๆมา
จนเป็นภาพสำเร็จแล้วจึงลอกภาพลงกระดาษและลงสี
การวาดภาพสีน้ำ เราวาดโดยการร่างและลงสีภาพบนกระดาษสีน้ำไปเลยไม่ต้องร่างภาพด้วยดินสอก่อนก็ได้ แต่หากต้องการวาดภาพและตกแต่งแก้ไขด้วยดินสอก่อนแล้วค่อยลงสี ควรวาดในกระดาษอื่น เพื่อป้องกันหน้ากระดาษสีน้ำเสียหายหากมีการลบแก้ไข แล้วจึงค่อยลอกภาพที่ตกแต่งแก้ไขดีแล้วลงบนกระดาษที่ต้องการวาดจริง
สำหรับกระดาษที่ใช้ จะใช้กระดาษสำหรับวาดภาพสีน้ำโดยตรง หรือกระดาษสำหรับวาดสีอะคริลิคแต่นำมากลับด้านหลังวาดเอาก็ได้ค่ะ (เช่นเวลาจะวาดคาร์ดทำมือ อาจใช้กระดาษสำหรับสีอะคริลิคซึ่งมีความหนาสูงสุดถึง 400 แกรม ความหนาของกระดาษจะสะดวกต่อการทำงาน และเหมาะจะส่งทางไปรษณีย์มาก)
อุปกรณ์ในการทำงานก็มี ดินสอ HB กระดาษลอกลาย ยางลบดินสอ เทปใส
เริ่มจากเมื่อวาดภาพที่ต้องการเสร็จแล้ว ลอกภาพด้วยกระดาษลอกลายและดินสอดำก่อน
พลิกด้านหลังของกระดาษที่ลอกลายไว้แล้วขึ้น ใช้ดินสอดำฝนคร่อมทับลายเส้นที่เห็นจนทั่ว
ภาพนี้แสดงภาพด้านหน้าและด้านหลังของกระดาษที่ฝนดินสอทับลายเส้นเสร็จแล้ว
นำกระดาษลอกลายที่ฝนทับลายเส้นด้านหลังแล้ว ไปวางบนกระดาษที่ต้องการวาดภาพ โดยวางด้านหน้าของกระดาษขึ้น อาจใช้เทปใสช่วยยึดเพื่อกันเลื่อน แต่ควรระวังในการลอกเทปออก อย่าให้เทปทำลายหน้ากระดาษสีน้ำ ใช้ดินสอวาดทับตามเส้นอีกครั้ง แรงกดของดินสอ จะผลักสีดำของรอยฝนที่ด้านหลังให้ไปเกิดเป็นลายเส้นบนกระดาษ
เมื่อยกกระดาษลอกลายออก จะเห็นภาพวาดเพียงลางๆ
ที่พร้อมให้เราลงสีค่ะ
กลับมาที่กุหลาบคุนหมิงกันต่อค่ะ
การลงสี สีที่ใช้มีสีเหลืองมะนาว สีม่วงแดง สีส้มอมแดง
ให้สีเหลืองมะนาวที่ผสมให้สีอ่อนลงเป็นสีที่ 1, ผสมสีม่วงแดงในสีมะนาวเล็กน้อย(ไม่เกิน 5 %) จนเป็นสีเหลืองที่คล้ำขึ้น ให้เป็นสีที่ 2, ส่วน สีส้มอมแดง เป็นสีที่ 3
สี 1 สี 2 สี 3
การวาดภาพพฤกษศาสตร์จริงๆ เนื่องจากแทบจะเป็นการ “ถ่ายภาพ” พืชพรรณตามธรรมชาติด้วยสี จึง ไม่นิยมเว้นพื้นที่ให้เห็นเป็นสีขาวของกระดาษค่ะ เพราะในธรรมชาติเราคงหาลักษณะอย่างนั้นในพืชแทบไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่เคร่งครัด ว่าเราไม่ใช่ Botanical Artist ที่กำลังวาดภาพวาดพฤกษศาสตร์ ภาพที่วาดไม่จำเป็นต้องเหมือนธรรมชาติเสียทีเดียว ถ้าจะเว้นให้เห็นสีขาวของกระดาษบ้าง ก็แล้วแต่ความชอบใจค่ะ
เวลาทำงาน ดิฉันมักใช้พู่กัน 2 อัน ในขณะเดียวกัน อันหนึ่งสำหรับแต้มสีลงในพื้นที่ทำงาน อีกอัน เป็นพู่กันชื้น ไว้ใช้สำหรับเกลี่ยสีให้กลมกลืนไปกับพื้นเดิม
เราจะ ลงสีไปทีเดียวทั้งภาพ แล้วค่อยๆแต่งเป็นส่วนๆค่ะ โดย ผสมสีเหลืองกับน้ำจนเป็นสีที่ค่อนข้างจาง นำมา ทาให้เต็มดอก ทิ้งให้แห้ง (1)
แล้วจึงเริ่มแต่งเงาทีละกลีบ โดยทาน้ำลงในเฉพาะกลีบที่จะทำงาน ใช้พู่กันอันหนึ่งแตะสี 2 ลงในตำแหน่งเงา ใช้พู่กันชื้นอีกอัน เกลี่ยเงาให้กลมกลืน ทำจนเต็มดอก (2)
จากนั้นจึงแต่งสีของขอบกลีบดอก โดยขอบกลีบที่พับงอ ทาน้ำให้ในบริเวณที่จะทำงานให้เต็ม แล้วแต้มสี 3 ลงไป ปล่อยให้สีกระจายไปตามน้ำ (3)
สำหรับขอบกลีบปกติ ทาน้ำให้มีพื้นที่มากกว่าพื้นที่ที่จะลงสี แต้มสี 3 ตามปลายกลีบ เนื่องจากเราตั้งกระดาษให้เอียงเล็กน้อยอยู่แล้ว สีจะค่อยๆซึมลงไปสู่ภายในตัวกลีบดอกเอง แต่อาจใช้ปลายพู่กันเกลี่ยช่วยบ้างก็ได้ เมื่อเติมสีขอบกลีบจนเต็มดอกแล้ว (4)
จึงเติมเงาดอกเพิ่มเพื่อให้ดอกดูมีมิติขึ้นด้วยสี 2 โดยใช้พู่กันอันหนึ่งแต้มสีลงไปในตำแหน่งที่ต้องการ แล้วใช้พู่กันชื้นอีกอันรีบเกลี่ยให้สีกลมกลืนไปกับพื้นเดิม โดยจะทาน้ำก่อนหรือไม่ก็ได้ (5)
สำหรับใบ ลงสีทีละครึ่งใบดังนี้
เริ่มจากทาสีฟ้าจางๆลงในตัวใบเพียงครึ่งซีก
รีบแตะสีเขียวอมเหลืองที่ค่อนข้างข้นลงไป โดยใช้พู่กันปลายค่อนข้างแหลม ลากสีเป็นรอยสั้นๆออกจากด้านข้างของใบเพื่อสร้างรอยหยักของขอบใบ แล้วเติมสีนี้ลงในตัวใบเช่นกัน ทิ้งบางส่วนให้เห็นเป็นสีฟ้าเดิมไว้ เพื่อให้เป็นบริเวณแสงจัด (ควรเว้นเป็นแนวฝกล้ขอบใบ ด้านใดด้านหนึ่งด้วย เพื่อให้ตัวใบดูมีความหนา)
รีบแต้มสีเขียวเข้มตามในขณะที่สียังหมาดอยู่ เพื่อให้สีผสานกันดี
ใช้พู่กันแตะสีเขียวเข้มนี้ ผสมกับสีแดงเล็กน้อย เพื่อให้ได้สีเขียวที่เข้มขึ้น แต้มลงในบริเวณที่เป็นเงามืด
ทาสีฟ้าที่บนใบอีกซีก เว้นช่องว่างห่างจากใบซีกแรกให้เป็นแนวบางๆ (เพื่อที่เมื่อวาดเสร็จ เราจะเติมสีเหลืองอมเขียวอ่อนๆ เพื่อให้เป็นเส้นกลางใบ)
ทาสีใบอีกซีกด้วยวิธีเดิม
เมื่อวาดเสร็จทั้งภาพ จึงค่อยเติมสีตรงแนวที่เว้นไว้
หวังว่าจะสนุกกับการใช้เส้นและลงสีนะคะ