ชวนเด็กๆดูนกปกป้องโลกร้อน ตอนที่1
สมาชิกเลขที่6035 | 02 ก.พ. 53
808 views
บทนำ
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ของผู้เขียน ในฐานะที่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมกับเด็กๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งกับเด็กๆรวมทั้งลูกสาวคนเดียวของผม
ผมเชื่อว่า“เรื่องของธรรมชาติ” เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อชีวิตของคนไทย 60 กว่าล้านคน เพราะธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็น “ ต้นทุน” ที่สำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นสัจธรรมที่ชัดเจนว่าที่ใดธรรมชาติถูกทำลายที่นั่นย่อมเกิดความเสียหายต่อชีวิตตามมา ซึ่งมนุษย์โลกต้องประสบกับปัญหานี้ทุกปี และมีความเสียหายร้ายแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประสบการณ์ที่ผมพบก็คือ ในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการศึกษาไทย พ่อแม่และครูไทย มิได้ปูพื้นฐานการเรียนรู้อย่างจริงจังและต่อเนื่องให้เด็กๆเกิดความรู้ ความรัก ความเข้าใจและตระหนักในความสำคัญของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา เพื่อให้ลูกหลานของเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ตระหนักและมีจิตสำนึกต่อการดูแลรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รู้จักเก็บ รักษาหรือจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และช่วยกันรักษาไว้ให้คนรุ่นต่อๆไป
บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผมรู้สึกว่า การส่งเสริมกิจกรรมด้านธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ขององค์กร หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เป็นเพียงแฟชั่น เป็นเครื่องมือโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ที่ฉาบฉวย เฉพาะกิจ มากกว่าการสร้างกระบวนการปลูกฝังความรัก ความสนใจในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ หรือไม่มีงบประมาณสนับสนุน ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่ามีโครงการมากมายเกิดขึ้นและล้มลง การปลูกฝังเรื่องราวเหล่านี้ จึงขาดความต่อเนื่อง เชื่อมโยง ไม่มีหน่วยงานใดสานต่อ
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมกระแสความตื่นตัวในเรื่องการดูแลธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมของสังคมไทยจึงขึ้นๆลงๆและเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ กล่าว คือ มีเงินแล้วค่อยทำ ถ้าไม่มีเงิน เรื่องกิจกรรมปลูกฝังความรักธรรมชาติเอาไว้ทีหลัง
ในความรู้สึกลึกๆ ผมรู้ว่ากระบวนการของงานปลูกฝังหรือการสร้างคนเป็นเรื่องยากและใช้เวลานานเช่นเดียวกับการจะสอนคนสักคนให้มีความเข้าใจและรัก หวงแหนธรรมชาติ แต่เปรียบเทียบกับระยะเวลาในการทำลายทรัพยากรธรรมชาตินั้น ใช้เวลาเพียงไม่ถึงข้ามคืน จนอดคิดไม่ได้ว่าจะพอมีความหวังในการสร้าง “เด็กรุ่นใหม่”ขึ้นมาช่วยดูแลรักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมได้ทันการหรือไม่ ลูกหลานของพวกเราจะเผชิญกับชะตากรรมเลวร้ายอะไรบ้างในอนาคต หากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมยังมีการทำลายมากกว่าการสร้างเสริม เพราะขนาดผู้ใหญ่ที่ผมรู้จัก ซึ่งหลงใหลในธรรมชาติมักพูดว่า ชั่ว 30-40 ปีที่ผ่านมาไม่เคยคิดเลยว่าป่าที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองไทยจะสูญหายไปอย่างมากมาย จากสัดส่วนกว่า 70 เปอร์เซนต์ของพื้นที่ของประเทศจะเหลือเพียงแค่ 20 กว่าเปอร์เซนต์ ในปัจจุบันเท่านั้น
แม้ว่าความหวังจะดูริบหรี่ก็ตาม ผมก็ยังหวังว่าพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ที่ยังห่วงใยลูกหลานจะมาร่วมแรงร่วมใจกันปลูกฝังความรัก เอาใจใสให้เด็กรุ่นนี้ได้เข้าใจ เข้าถึง จนเกิดเป็นจิตสำนึกในการดูแลธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
การที่ผมมาชวนพ่อแม่และครูไทยชวนลูกและลูกศิษย์มาดูนก เพราะจากประสบการณ์ของผมเองได้มีโอกาสทำกิจกรรมส่งเสริมการดูนกกับเด็กๆอย่างใกล้ชิดรวมทั้งลูกสาวของผม ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมให้เด็กๆเรียนรู้ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมผ่านเจ้าสัตว์ตัวน้อยๆที่เราเรียกว่า “นก”อย่างเป็นกระบวนการทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนหรือที่บ้าน ชุมชน จะเป็นหนทางหนึ่งให้ลูกและลูกศิษย์ ก้าวสู่วิถีชีวิตที่จะทำหน้าที่สืบทอดการปกปักรักษาทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลายของแผ่นดินนี้และของโลกสืบไป
ผมจึงนำข้อมูล ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการดูนกมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคุณครูและผู้ปกครอง เพื่อคุณครูและผู้ปกครองจะได้นำไปใช้ปลูกฝังลูกและศิษย์ต่อไป