สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
สมาชิกเลขที่110332 | 27 พ.ค. 55
3K views

zeus.gif (51234 bytes)

เทวรูปเทพเจ้าซีอุส(ยุคโบราณ)

เทวรูปเทพเจ้าซีอุส (Zeus) ประดิษฐานอยู่ที่เมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ เป็นอนุสาวรีย์ซึ่งแกะสลักด้วย งาช้างจำนวนมาก โดยนำมาประกอบกัน   เป็นรูปเทพเจ้าซีอุส หรือ"จูปิเตอร์" ในท่านั่งบนบัลลังก์ องค์เทวรูปสูง 58 ฟุต พระหัตถ์ซ้ายถือคธา พระหัตถ์ขวารองรับรูปปั้นแห่งชัยชนะ (A Small Figure of Victory) เครื่องประดับทำด้วยทองคำล้วน นายช่างผู้ที่ก่อสร้างและแกะสลักคือฟีดีอัสสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ.53-ค.ศ.111 เป็นเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวกรีซโบราณให้ความนับถือมากที่สุด นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ชิ้นเอกในยุคโบราณของโลก แต่ได้

พังทลายลงเพราะเหตุแผ่นดินไหว ปัจจุบันจึงหาซากหรือหลักฐานส่วนหนึ่งไม่ได้แล้ว นอกจากในภาพวาด และภาพในเหรียญโบราณ เท่านั้น.

diana.gif (36869 bytes)

มหาวิหารเดียนา (ยุคโบราณ)

มหาวิหารเดียน่า ตั้งอยู่ที่เมืองเฟฟิอุส (Faaius) ประเทศกรีซ ไม่มีหลักฐานปรากฎว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ได้บูรณะซ่อมแซมเมื่อปี ค.ศ. 186 เพราะถูกไฟไหม้ เป็นวิหารที่สร้างด้วยหินอ่อน เพื่อถวายเทพเจ้าอาร์เทมิส ผู้มาจากสวรรค์ และได้ช่วยให้ชาวเมืองพ้นจากความหายนะ และภัยพิบัติทั้งปวง มีเนื้อที่กว้างถึง 54,720 ตารางฟุต

ตัววิหารกว้าง 160 ฟุต ยาว 342 ฟุต มีเสาหินอ่อนด้านละ 20 ต้น ด้านหน้าหลังอีกด้านละ 8 ต้น แต่ละต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ฟุต และสูง 60 ฟุต หลังคามุงด้วยกระเบื้องหินอ่อน นับว่าเป็นวิหารที่สวยที่สุดในยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงซากของเสา ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์แห่งอดีต.

mausoleum.gif (43686 bytes)

สุสานมุสโซเลียม (ยุคโบราณ)

สุสานมุสโซเลียม สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ค.ศ.156-190 โดยพระนางอาเตมีเซีย พระมเหสีของพระเจ้ามุสโซลุส กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย เพื่อใช้เป็นที่ฝังพระศพของพระเจ้ามุสโซลุส พระสวามี เป็นสุสานที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในโลก อยู่ที่เมืองฮาลินาซัส หรือเมืองชาเวีย ประเทศอิหร่าน ในปัจจุบัน วัสดุที่ใช้ก่อสร้างเป็นหินอ่อนล้วนๆ สูง 140 ฟุต ฐานโดยรอบยาว

460 ฟุต ชั้นบนสุดเป็นพื้นสี่เหลี่ยมเล็กกว่าฐานล่าง แกะสลักเป็นรูปพระเจ้ามุสโซลุส ประทับราชรถเทียมม้า ประดับด้วยลวดลาย สวยงาม เช่นกัน... สุสานนี้ได้พังทลายลงหมดสิ้น เมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหว ในคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 เหลือไว้แต่ซากปรักหักพังบางส่วน โดยพิพิธภัณฑ์บริติชมิวเซียมของอังกฤษ ได้นำชิ้นส่วนเหล่านั้น มาเก็บอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษากัน.

pyramid.gif (37426 bytes)

ปิรามิดแห่งอียิปต์ (ยุคโบราณ)

ปิรามิด (Piramid) คือสถานที่เก็บพระศพ ของกษัตริย์แห่งอียิปต์โบราณ มัลักษณะเป็นกรวยเหลี่ยมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ปิรามิดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ได้แก่ ปิรามิดแห่งเมืองกิเซห์ ประกอบด้วยปิรามิดใหญ่ 3 องค์ คือ ปิรามิดซีเฟรน

ปิรามิดไมเซอนิรุส และปิรามิดคีออปส์   เฉพาะปิรามิดคีออปส์ เป็นที่เก็บพระศพของพระเจ้าคีออปส์ หรือคูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเอง เมื่อก่อนคริสต์กาลประมาณ 3500 ปี นับอายุจนปัจจุบันประมาณ 5000 ปี ล่วงมาแล้ว ถือว่าเป็นปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ห่างจากกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ ประมาณ 3 กิโลเมตร                       ปิรามิดคีออปส์ เดิมสูง 481 ฟุต แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 450 ฟุต ฐานกว้าง 768 ฟุต ใช้หินทรายตัดเป็นแท่งสี่เหลี่ยมหนักประมาณก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อนหนักถึง 16 ตัน โดยการนำเอามาว่างซ้อนกันขึ้นไปเป็นทรงกรวย ปิรามิดซึ่งต้องใช้หินไม่น้อยกว่า 2500000 ก้อน รวมน้ำหนักกว่า 6000000 ตัน ฐานกินเนื้อที่ 12 เอเคอร์ หรือราว 20 ไร่ ประทาณว่าใช้แรงงานกรรมกร หรือทาสไม่น้อยกว่า 100000 คน และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี                       ส่วนปิรามิดซีเฟรน มีตัวสฟิงส์ รูปครึ่งคนครึ่งสัตว์ ใบหน้าเป็นคนแต่ตัวเป็นสิงโต สลักด้วยหินก้อนใหญ่ ตั้งอยู่ในท่าหมอบเฝ้าปิรามิด สูง 66 ฟุต พระเจ้าซีเฟรน เป็นผู้สร้าง มีอายุประมาณ 6000 ปี.

colosseum.gif (27659 bytes)

สนามกีฬาโคลอสเซี่ยมแห่งกรุงโรม (ยุคกลาง)

โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ของจักรวรรดิโรมัน ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นโดย พระจักรพรรดิติตุส (Titus) ในคริสต์ศตวรรษที่1 หรือ ค.ศ.72 ตัวสนามเป็นรูปตึกวงกลมก่อด้วยหินทรายและอิฐประกอบกัน ภายในมีอัฒจรรย์สำหรับให้คนนั่งดูกีฬา ซึ่งจุคนดูได้มากถึง 80000 คน ใต้อัฒจรรย์และใต้ดินมีห้องไว้ขังสิงโต และนักโทษที่รอการประหารนับร้อยห้อง มีขนาดใหญ่วัดได้โดยรอบ 527 เมตร

สูง 57 เมตร บางครั้งใช้เป็นที่ประลองความเก่งกล้าของบรรดา เหล่านักรบ และอัศวิน ในยุคนั้น ปัจจุบันเหลือเพียงแต่ซากของโครงสร้างอันใหญ่โตมโหฬาร.

chinesewall.gif (47751 bytes)

กำแพงเมืองจีน (ยุคกลาง)

กำแพงเมืองจีน เป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก ประมาณ 2400 กิโลเมตร สร้างด้วยอิฐสำหรับเป็นรั้วกั้นพรมแดนด้านเหนือของจีน เพื่อป้องกันการรุกรานของพวกตาด สร้างโดย พระเจ้าซิวั่งตี่ หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ โดยได้เกณฑ์ชาวบ้านมาสร้าง ในปี พ.ศ.300-329 ยาว 1684 ไมล์ ทอดตัวไปตามป่าเขา หุบเหวและแม่น้ำ

                            ตัวกำแพงสูงจากพื้นดิน 20-30 ฟุต หนา 15-25 ฟุต บนกำแพงมีทางเดินกว้าง 10 ฟุต และทุกระยะ 300 ฟุต จะมีป้อมกับเชิงเทิน อยู่ประทาณ 15000 แห่ง ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 10 ปี มีระฆังแขวนบอกเหตุประมาณ 20000 หอ และต่อมาทีการสร้างต่อเติมอีกหลายครั้ง ใช้แรงงานที่เกณฑ์มาจากทั่วประเทศนับล้าน และมีผู้เสียชีวิตเพราะการสร้างกำแพงนี้นับหมื่อนคน ในปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน และมีสภาพเกือบจะสมบูรณ์ มีการบูรณะซ่อมแซมอยู่เสมอๆ ถือเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง.

stone.gif (26349 bytes)

กองหินประหลาดสโตนเฮนจ์ (ยุคกลาง)

กองหินประหลาดสโตนเฮ้นจ์ (Stonehenge) มีอายุเก่าแก่ประมาณ 1700 ปีก่อนคริสต์กาล ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง และนำมาวางไว้ และด้วยจุดประสงค์ใด ตั้งอยู่กลางทุ่งนาของเมืองซัสลิสเบอรี่ มณฑลวิลไซร์ ประเทศอังกฤษ ห่างจากกรุงลอนดอน ประมาณ 10 ไมล์

ประกอบด้วยก้อนหินขนาดใหญ่จำนวน 112 ก้อน ทรงสูงตั้งเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่เป็น 3 รอบ มีบางก้อนนอนขวางอยู่บนยอด   โดยวงกลมรอบนอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 ฟุต มีหินทั้งหมด 30 ก้อน แต่ละก้อนสูง 13 ฟุต วงกลมรอบกลาง มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 76 ฟุต มีหิน 40 ก้อน และมีอยู่ 2 ก้อน ที่ตั้งสูงถึง 22 ฟุต วงในสุดนั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 ฟุต มีหินอยู่ 42 ก้อน แต่ละก้อนมีน้ำหนักเป็นตันๆ                           บริเวณดังกล่าวเป็นทุ่งโล่ง ไม่มีภูเขา จึงเป็นที่น่าแปลกว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นผู้นำก้อนหินเหล่านั้นมาวางเรียง และด้วยเหตุผลใด นักประวัติศาสตร์สันนิฐานว่า สโตนเฮ้นจ์ เป็นประดิษฐ์กรรมของมนุษย์ในยุคหินใหม่ สร้างเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรืออาจจะใช้เป็นปฎิทินอย่างหยาบๆ ที่ใช้สังเกตระยะความยาวของวัน ก็เป็นไปได้ เขาว่าอย่างนั้นนะ.

pisa.gif (26782 bytes)

หอเอนเมืองปิซา (ยุคกลาง)

หอเอนเมืองปิซา (Pisa) ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ให้มาเที่ยวชมความงามปีละมากๆ สร้างด้วยหินอ่อน มีความสูงประมาณ 181 ฟุต จำนวน 8 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้าง 176 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ (ค.ศ.1174- 1350) แต่ละชั้นมีเสาหินที่สลักลวดลายวิจิตรสวยงาม รองรับเอาไว้โดยรอบ                       ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้ก็เริ่มเอียงลง แต่ไม่ถึงกับพังทลาย เพราะแนวจุดศูนย์ถ่วงไม่ออกนอกฐาน จนเมื่อสร้างเสร็จก็มีความเอียงออกจากแนวดิ่งของฐาน 14 ฟุต กาลิเลโอ เคยใช้หอนี้เป็นที่ทดลองเกี่ยวกับ เรื่องของน้ำหนักวัตถุ และกฎของแรงดึงดูดของโลก

                              ปัจจุบัน ทางการอิตาลีได้ค้นพบว่า หอเอนเมืองปิซา ได้เอนเอียงมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย จึงพยายามจะบูรณะ และหาทางป้องกันไม่ให้หอเอนมากไปกว่านี้ เพราะมิฉะนั้นงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกนี้ อาจจะทลายลงมาได้.

nanging.gif (18026 bytes)

เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง (ยุคกลาง)

เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่าแห่งหนึ่งของจีน ตั้งอยู่ที่กรุงนานกิง ทางตอนเหนือของประเทศจีน มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปแปดเหลี่ยม สันนิฐานว่าสร้างในสมัยกษัตริย์ ราชวงศ์เหม็ง ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ความสูง 261 ฟุต จำนวน 9 ชั้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียวทั้งหมด เนื่องจากเครื่องเคลือบเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เจริญก้าวหน้า ในสมัยราชวงศ์เหม็ง ที่ชายคามีกระดิ่งแขวนไว้ 80 ลูก และมีโคมไฟประดับอีกจำนวนมาก องค์เจดีย์ก่อด้วยอิฐประดับกระเบื้องเคลือบ ยอดเจดีย์เป็นทรงกลมปิดทอง เดิมมีอยู่เพียง 3 ชั้น ต่อมาในปี ค.ศ. 1430 ในสมัยจักรพรรดิ ยุ่งโล้ ราชวงศ์เหม็ง ได้โปรดให้สร้างขึ้นไปอีกจนสูงถึง 9 ชั้น มีสายโซ่โยงลงมา 8 เส้น และมีกระดิ่งแขวนตามสายโซ่อีก 72 ลูก                    ปัจจุบัน เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง อยู่ในสภาพโทรมลงมาก เพราะถูกเผาทำลาย เมื่อคราวเกิดกบฎ ไท้เผ็ง เมื่อ ค.ศ. 1853 .

 

 

sophia.gif (39420 bytes)

วิหารเซนต์โซเฟีย (ยุคกลาง)

วิหารเซนต์ โซเฟีย (Saint Sophia) หรือวิหารซันตา โซเฟีย เดิมเป็นโบสถ์ในคริสต์ศาสนา อยู่ในกรุงคอนสแตนตินโนเปิล (ปัจจุบัน คือ เมืองอิสตันบูล) ประเทศตุรกี สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ คอนสแตนติน แห่งอาณาจักรโรมันตะวันออก เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี จึงแล้วเสร็จ ต่อมาถูกพวกเตอร์กบุกทำลาย พระจักรพรรดิจัสติเนียน

จึงได้สร้างขึ้นใหม่ โดยใช้เวลาอีก 20 ปี จึงแล้วเสร็จ และได้นำสิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับเอาไว้มากมาย เมื่อสร้างเสร็จกลับถูกแผ่นดินไหว ทำให้เกิดการแตกร้าว จึงต้องซ่อมแซมอีกครั้ง จนอยู่ในสภาพเดิม                           พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่2 เข้ามาสู่อำนาจเหนือตุรกี ต่อจากพระเจ้าจัสติเนียน พระองค์ทรงนับถือศาสนาอิสลาม จึงได้ดัดแปลงเป็นสุเหร่า แต่ยังคงรักษาความงามท่างด้านศิลปกรรม เอาไว้เช่นเดิม                           วิหารเซนต์ โซเฟีย แห่งนี้ เป็นงานสถาปัตยกรรมแบบ ไบแซนไทน์ คือมีลักษณะผสมผสาน ระหว่างศิลปวัฒนธรรมกรีก และโรมัน กับศิลปวัฒนธรรมเปอร์เซีย จุดเด่นคือ มียอดโดมใหญ่อยู่กลางวิหาร ภายในวิหารใช้กระจกสีประดับ เหนือประตูหน้าต่างอย่างงดงาม มีพื้นที่ประมาณ 700 ตารางเมตร ภายในมีเสาค้ำสลักและประดับประดาอย่างงดงามถึง 108 ต้น ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยังคงความงดงามมาจนทุกวันนี้.

ปราสาทหินนครวัด(ยุคปัจจุบัน) angkorwat.gif (60360 bytes)

ปราสาทหินนครวัดเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่มีค่ายิ่ง ของประเทศกัมพูชา อายุประมาณ 600-700 ปี สร้างโดยชนชาติขอม สมัยที่ยังเรืองอำนาจอยู่ ในดินแดนแถบแม่น้ำโขงทางตอนใต้ มีลักษณะเป็นปราสาทหิน โดยตัดหินเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ นำมาวางเรียง และก่อสร้างเป็นปราสาทขนาดใหญ่ แสดงถึงอารยธรรมและความเจริญ ของมนุษย์ในสมัยนั้น

                          นครวัด สร้างขึ้นเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่12 (ตรงกับสมัยสุโขทัย) ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมัน ที่2 เป็นเทวสถานทางศาสนาพรามหณ์ ที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยปราสาท 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม เป็นหินซ้อนกันเป็นชั้นสูง 40 ฟุต บนฐานชั้นบนเป็นปราสาท 4 องค์ ประจำอยู่ 4 ทั้งทิศ และตรงกลางมีปราสาทองค์ใหญ่ และสูงกว่าปราสาทอื่นๆตั้งอยู่ ปราสาทองค์กลางนี้ สูง 130 ฟุต ปราสาทขนาดย่อมทั้ง 4 ทิศ ดังกล่าว เชื่อมติดต่อกันด้วยระเบียงที่มีหลังคาคลุม ถัดจากกลุ่มปราสาทออกไป มีระเบียงขนาดใหญ่เป็นกำแพงล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ตามระเบียงโดยรอบปราสาท ยังมีภาพสลักนูนต่ำขนาดใหญ่ประดับไว้ทั่วไป เป็นภาพสลักแสดงเหตุการณ์ต่างๆในสมัยนั้น รวมพื้นที่ของปราสาทนครวัด มีจำนวนนับหมื่นไร่ ปัจจุบันตั้งอยู่ห่างจากเมืองเสียมราฐ ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรม ของโลกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง.

ทัชมาฮาล(ยุคปัจจุบัน)

          ทัชมาฮาล คือสุสานหินอ่อน ที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดียในปัจจุบัน สร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดีย ราชวงศ์โมกุล นามว่าซาห์เจฮันเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่มีต่อ

tajmahal.gif (33823 bytes)

พระมเหสีมุมตัส ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่17 หรือประมาณ ค.ศ.1630-1652 (ตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา)                      ทัชมาฮาล สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว และหินสีต่างๆ มีหอคอยยอดแหลม 4 หอ สูง 313 ฟุต ขนาบทั้งสี่ด้าน ตัวสุสานเป็นสิ่งก่อสร้างทรงสูงรูปโดม ตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย ฐานมีความกว้าง 313 ฟุต สูง 18 ฟุต ความสูงของโดม 200 ฟุต สร้างโดยสถาปนิก ชื่อ อัสตาด ไอซา 

ใช้เวลาก่อสร้าง 23 ปี สิ้นค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมหาศาล และใช้แรงงานถึง 22000 คน                                 ในปัจจุบัน สุสานหินอ่อนมัชมาฮาล เป็นโบราณสถานอันล้ำค่าของประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมนา เมืองอัครา มีนักท่องเที่ยวไปชมประมาณวันละ 2000 คน ทำรายได้ให้ประเทศอินเดีย ปีละ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ต้องประสบปัญหาควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม 212 แห่งที่เมืองอัครา ทำให้หินอ่อนของตัวอาคารมีสีเหลืองคล้ำ และริ้วรอยด่างดำ จนทางราชการต้องเข้ามาควบคุม.

Versaill.gif (48409 bytes)

พระราชวังแวร์ซายส์ (ยุคปัจจุบัน)

พระราชวังแวร์ซายส์ แห่งเมืองแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และ สวยงามแห่งหนึ่งในโลก สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่14 ในปี ค.ศ.1661-1681 ใช้เงินทั้งสิ้น 5000000 ฟรังก์ คนงาน 30000 คน ใช้เวลาสร้าง 30 ปี ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างของศิลปกรรมที่งดงามมาก ภายในแบ่งเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม

ห้องเสวย   ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตา และภาพเขียนที่มีชื่อเสียง                              จุดมุ่งหมายสำคัญของการสร้างพระราชวังแวร์ซายส์ ของพระเจ้าหลุยส์ที่14 คือ ต้องการแสดงความมั่งคั่งสมบูรณ์ และงดงาม ความหรูหราของโลกมารวมอยู่ที่ฝรั่งเศสทั้งหมด มีการตกแต่งด้วยของประดับที่สูงค่า ทั้งเครื่องเคลือบ เครื่องเงิน เครื่องทอง หินอ่อน ฯลฯ โดยนำเงินมาจากภาษีอากรที่เก็บจากราษฎร พระราชวังแวร์ซายส์จึงกลายเป็นสัญญาลักษณ์ของความไม่ยุติธรรมในสังคม ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่รับรองแขกเมือง การประชุมระดับชาติที่สำคัญ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้.

empire.gif (26512 bytes)

ตึกเอ็มไพร์สเตท (ยุคปัจจุบัน)

ตึกเอ็มไพร์สเตท เป็นตึกระฟ้าอยู่บนเกาะแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 1248 ฟุต 102 ชั้น มีหน้าต่าง 6500 บาน รวมเนื้อที่ 2158000 ตารางฟุต มีลิฟต์ขึ้นลง 63 แห่ง ตึกนี้จุคนได้ประมาณ 25000 คน ที่สำคัญคือ จากชั้นล่างถึงชั้นที่ 86 เป็นโครงสร้างเสริมเหล็กอย่างดีไม่เป็นสนิม คิดเป็นน้ำหนัก 730 ตัน เหนือชั้นบนสุดมีโดมสูงขึ้นไปอีก 200 ฟุต ตึกเอ็มไพร์สเตทแห่งนี้ ใช้เป็นห้องทำงานของบริษัทใหญ่ๆ กว่า 600 บริษัท

รับประกันความคงทน 6000 ปี   ตึกแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1929 แล้วเสร็จเมื่อ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1937 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี ใช้เงินก่อสร้างราว 2000000000 บาท หรือ 5 ล้านปอนด์ สำหรับเงินในสมัยนั้น ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ในยุคปัจจุบันของโลกอีกแห่งหนึ่ง แม้ว่าจะมีตึกระฟ้าสูงๆ ที่ทันสมัยเกิดขึ้นมากมายหลายแห่งก็ตาม แต่ตึกเอ็มไพร์สเตทก็ยังคง ได้รับการเล่าขานเป็นตำนาน แห่งความยิ่งใหญ่ และมหัศจรรย์ ชิ้นแรกของคริสต์ศตวรรษที่20.

hoover.gif (26383 bytes)

เขื่อนฮูเวอร์ (ยุคปัจจุบัน)

เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในสมัยปัจจุบัน เพราะเป็นเขื่อนยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดเขื่อนแรก ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาชนะภัยทางธรรมชาติ จากน้ำท่วมอันรุนแรงจากแม่น้ำโคโลราโด บริเวณหุบเขาแบล็คแคนยอน อยู่ระหว่างรัฐเนวาดา กับรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และยังใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ และการชลประทานในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำทางภาคกลางของประเทศอีกด้วย

                                        ตัวเขื่อนสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 1282 ฟุต มีความสูง 727 ฟุต มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 17 เครื่อง ให้กำเนิดกำลังไฟฟ้าสูงถึง 1835000 กิโลวัตต์ต่อปี เหนือเขื่อนเป็นทะเลสาปขนาดใหญ่ ชื่อ มีท มีพื้นที่ทั้งหมด 225 ตารางไมล์                                เขื่อนฮูเวอร์ สร้างในสมัยประธานาธิบดี ฮูเวอร์ แห่งสหรัฐอเมริกา (ค.ศ.1922-1933) ใช้เวลาก่อสร้าง 7 ปี แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีเขื่อนขนาดใหญ่กว่าเขื่อนฮูเวอร์ เกิดขึ้นหลายแห่ง เช่น เขื่อนแกรนด์ ดิเซนต์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งได้ชื่อว่ามีความสูงที่สุดในโลก (935 ฟุต) แต่ก็ไม่อาจลบความยิ่งใหญ่ของเขื่อนฮูเวอร์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยปัจจุบันได้

goldengate.gif (34430 bytes)

สะพานโกลเดนเกรท (ยุคปัจจุบัน)

สะพานโกลเดนเกรท   เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบัน ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าเป็น สะพานแขวน ที่ยาวที่สุดในโลก ทอดข้ามอ่าวทางตอนเหนือของเมืองท่า ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปี ค.ศ.1933-1937 ในสมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูส เวลท์ ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่2 ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เฉพาะช่วงสะพานตอนกลางยาว 4200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต มีหอคอยเหล็กสองข้าง สูงข้างละ 746 ฟุต ลวดเคเบิลที่โยงทอดเป็นตัวดึงน้ำหนักสะพาน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 36 นิ้ว ข้างละ 2 เส้นรวม 4 เส้น และยังมีลวดโยงเส้นเล็ก อื่นๆอีก 27572 เส้น ตัวสะพานอยู่สูงกว่าระดับน้ำในอ่าว 220 ฟุต ใช้เป็นทางรถยนตร์ 3 ทาง และทางรถไฟอีก 2 ทาง ปัจจุบันยังคงเปิดใช้อยู่ตามปกติ.

เรือโดยสารควีนแมรี(ยุคปัจจุบัน) queenmary.gif (35673 bytes)

เรือควีนแมรี่ ถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยปัจจุบัน เพราะเป็นเรือเดินสุมทรขนาดใหญ่ ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1939 ที่อู่ต่อเรือในสก็อตแลนด์ ยาว 1004 ฟุต สูง 180 ฟุต หนัก 80773 ตัน มีอัตราความเร็ว 30 นอตต่อ

ชั่วโมง บรรทุกผู้โดยสารได้ 2075 คน สิ้นค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสมัยนั้น                              ความหรูหราและความยิ่งใหญ่ของเรือควีนแมรี่ ถูกบันทึกไว้เป็นตำนาน เล่าขานถึงความสามารถในด้านวิศวกรรมการต่อเรือของมนุษย์ในยุคนั้น ภายในเรือมีร้านอาหาร ห้องพัก คลีนิครักษาพยาบาล โรงพิมพ์ ห้องสมุด และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน บนดาดฟ้าเรือ มีพื้นที่กว้างถึง 3 เอเคอร์ ใช้เป็นสถานที่เล่นกีฬา และจัดงานเลี้ยงได้อย่างดี                                เรือโดยสารควีนแมรี่ ใช้เป็นเรือเดินสมุทรได้ระยะหนึ่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 จึงได้ถูกดัดแปลงเป็นภัตตาคาร โรงแรม และพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ ตั้งอยู่ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งยังคงให้บริการนักท่องเที่ยวมาจนทุกวันนี้ แม้ในปัจจุบันจะมีการต่อเรือเดินสมุทรที่มีขนาดใหญ่กว่าเรือควีนแมรี่แล้วก็ตาม แต่ถ้าพิจารณาย้อนไปเมื่อ 50 ปีก่อน นับได้ว่าเรือควีนแมรี่ เป็นประดิษฐกรรมที่ล้ำยุค ของมนุษย์ในสมัยนั้นเลยทีเดียว.
Share this