ลองนึกภาพเมื่อเรายืนอยู่หน้าลำโพง เครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ หรือเครื่องบันทึกเสียง ขณะที่ไดอะแฟรมของลำโพงสั่นสัมผัสกับอากาศเราจะรู้สึกอย่างไร เรารู้สึกว่าได้ยินเสียง เสียงเกิดขึ้นมาได้เพราะมีอะไรบางอย่างถูกส่งเข้าไปในหูเป็นสิ่งที่ส่งผ่านมาตามอากาศและแหล่งกำเนิดของสิ่งนี้ก็ คือ การสั่นของแผ่นไดอะแฟรมของเครื่องรับวิทยุและเครื่องอื่น ๆ ที่กล่าวถึงข้างต้น
เมื่อส้อมเสียงถูกเคาะให้สั่นในอากาศเนื่องจากขาส้อมเสียงมีทั้งมวลและความยืดหยุ่นจะออกแรงอัดอากาศทำให้ชั้นอากาศที่อยู่ชิดเกิดความเร่งตามกฎข้อที่สองของนิวตัน แต่เนื่องจากอากาศมีความยืดหยุ่นแบบสปริงคล้ายส้อมเสียงขณะที่ขาของส้อมเสียงดีดตัวกลับโมเลกุลอากาศที่สัมผัสอยู่กับขาส้อมเสียงมีแรงคืนตัวดีดตัวกลับผ่านตำแหน่งสมดุลปกติ (ขณะที่ยังไม่สั่น) จากการสั่นติดต่อกันของขาส้อมเสียงทำให้ผิวเหนือชั้นอากาศที่อยู่ชิดขาส้อมเสียงถูกรบกวนต่อเนื่องคือสั่นตามไป ด้วยการรบกวนนี้ถูกส่งออกผ่านชั้นบาง ๆ ของอากาศแรงอัดทำให้อนุภาคอากาศเกิดการกระจัดที่ขณะใดขณะหนึ่ง ณ จุดต่าง ๆ ตามทางที่การรบกวนผ่านไปจะเกิดมีบริเวณที่อนุภาครวมตัวกันหนาแน่นกว่าปกติ ซึ่งเรียกว่า ส่วนอัด ในขณะเดียวกันจะเกิดบริเวณที่อนุภาคอากาศย้ายที่ออกไปเรียกว่า ส่วนขยาย
เพื่อให้เห็นภาพชัดลองนำขดลวดสปริงวางนอนตามแนวยาวบนพื้นแล้วจับปลายขดลวดดันไปข้างหน้าและกระตุกกลับสลับกันไปมาเร็ว ๆ จะเห็นบริเวณส่วนอัดและบริเวณส่วนขยายเดินออกไปตามความยาวของขดลวด ในบริเวณส่วนอัดและส่วนขยายมีพลังงานแฝงอยู่ ๒ ชนิดด้วยกัน คือ พลังงานจลน์ จากการเคลื่อนไหวของโมเลกุลอากาศและพลังงานศักย์เพราะโมเลกุลอากาศถูกผลักห่างจากตำแหน่งสมดุลประกอบกับอากาศก็มีความยืดหยุ่นด้วย ดังนั้นเมื่อบริเวณส่วนอัดส่วนขยายถูกส่งถ่ายทอดออกไปในอากาศก็ถือว่ามีพลังงานส่งผ่านตัวกลางออกไปในรูปของคลื่น กล่าวคือ ตัวกลางไม่ได้เดินตามคลื่นไปด้วยเพียงแต่รับพลังงานในรูปการเคลื่อนไหวแบบการสั่นและชักนำให้จุดข้างเคียงสั่นตามต่อไปเรื่อย ๆ