- พฤติกรรมซุกซน หรือสมาธิสั้น : น้ำตาลที่มากเกินไปส่งผลต่อระดับพลังงานที่ผันผวน เด็กอาจมีพฤติกรรมไฮเปอร์ ขาดสมาธิ หรือหงุดหงิดง่าย
- ฟันผุ : น้ำตาลเป็นอาหารโปรดของแบคทีเรียในปาก นำไปสู่ฟันผุอย่างรวดเร็ว
- เสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน : หากเด็กบริโภคน้ำตาลสูงต่อเนื่องตั้งแต่วัยเยาว์ จะเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน และโรคเมตาบอลิก
- สร้างพฤติกรรมติดรสหวาน : เมื่อชินกับรสหวาน เด็กจะปฏิเสธอาหารที่ไม่หวาน เช่น ผัก หรือผลไม้ธรรมชาติ
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า เด็กควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 5% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน ซึ่งเท่ากับไม่เกิน 4–6 ช้อนชาต่อวัน (ประมาณ 16–25 กรัม) สำหรับเด็กวัยเรียน
แต่ในความเป็นจริง เด็กไทยจำนวนมากบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยเกิน 2–3 เท่าจากปริมาณที่แนะนำ โดยเฉพาะจากขนม น้ำหวาน และอาหารแปรรูป
- โยเกิร์ตปรุงรส / นมเปรี้ยว
- ขนมปังไส้หวาน ซีเรียลอาหารเช้า
- น้ำผลไม้กล่อง
- เครื่องดื่มรสนมต่าง ๆ
- ซอสปรุงรสและซุปก้อน
การตัดหวานทันทีอาจทำให้เด็กต่อต้าน ลองลดปริมาณน้ำตาลทีละน้อย เช่น สั่งชานมหวานน้อย เปลี่ยนจากขนมเค้กเป็นผลไม้ หรือดื่มน้ำผลไม้เจือจาง
เปลี่ยนขนมหวานสำเร็จรูปเป็นของว่างโฮมเมด เช่น กล้วยอบ ขนมจากข้าวโอ๊ต น้ำผลไม้คั้นสดไม่เติมน้ำตาล
ให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำอาหาร เช่น ปั่นสมูทตี้ผลไม้ เลือกผลไม้เอง ทำให้เด็กตื่นเต้นกับของหวานทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
ใช้การ์ตูนหรือภาพประกอบอธิบายว่า น้ำตาลมากเกินไปทำให้ฟันผุ พุงป่อง หรือไม่มีแรงเล่นกับเพื่อนได้
กำหนดว่าใน 1 สัปดาห์จะมีเพียง 1–2 วัน ที่สามารถกินของหวานได้ ทำให้เด็กรู้จักควบคุมตัวเอง และมีความสุขโดยไม่ติดหวานทุกวัน
กล้วย มะม่วงสุก สตรอว์เบอร์รี อินทผาลัม เป็นผลไม้รสหวานตามธรรมชาติที่ยังมีใยอาหารและวิตามิน
ของหวานที่วางในตู้เย็นหรือตู้กับข้าว คือสิ่งล่อตาล่อใจ หากไม่มีอยู่ในบ้าน เด็กก็ไม่เรียกร้อง
แทนน้ำอัดลม ด้วยน้ำผลไม้ปั่นไม่ใส่น้ำตาล หรือชาใบเตย ชาน้ำผึ้งมะนาวเจือจางที่ทำเอง
หยุดใช้ขนมหวานเป็นรางวัล ให้เปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่เด็กชอบ เช่น อ่านนิทาน เล่นของเล่น ไปเที่ยวสวน
หากพ่อแม่ยังติดหวาน กินน้ำอัดลม กินของหวานทุกวัน เด็กก็จะทำตามโดยไม่รู้ตัว การลดน้ำตาลในบ้านต้องเริ่มจากทุกคน
- ไม่ตำหนิหรือบังคับ เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าอาหารสุขภาพคือลงโทษ
- เปลี่ยนวิธีพูด เช่น “ผลไม้นี้อร่อยเหมือนลูกอมเลย” แทนที่จะพูดว่า “กินอันนี้เถอะ ไม่อ้วน”
- สื่อสารบวก ให้เด็กเข้าใจว่าน้ำตาลมากไปไม่ดี แต่ของหวานบางชนิดกินได้บ้างในปริมาณที่พอดี
- เชื่อมโยงกับเป้าหมายของลูก เช่น “ถ้าอยากวิ่งได้เร็ว เหมือนนักกีฬาคนนั้น ต้องกินหวานให้น้อยนะ”