คือ น้ำตาลที่อยู่ในอาหารหรือเครื่องดื่มโดยที่ผู้บริโภคอาจไม่รู้ว่ามีอยู่ เพราะไม่ได้มีรสหวานชัดเจน และไม่ได้แสดงบนฉลากว่าเป็น "น้ำตาล" ตรง ๆ แต่มาในรูปของส่วนผสมอื่น ๆ เช่น
- ฟรุกโตส (Fructose)
- กลูโคส (Glucose)
- ซูโครส (Sucrose)
- เดกซ์โทรส (Dextrose)
- มอลโตเดกซ์ตริน (Maltodextrin)
- น้ำเชื่อมข้าวโพด (High Fructose Corn Syrup)
- น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง ฯลฯ
แม้อาจดูเป็นวัตถุดิบธรรมดา แต่เมื่อบริโภคสะสมในปริมาณมาก ก็สามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นเดียวกับการกินขนมหวานโดยตรง
- ทำให้เรากินน้ำตาลเกินโดยไม่รู้ตัว
คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าอาหารจานด่วน หรืออาหารแพ็คสำเร็จจะมีน้ำตาล เช่น ซอส เครื่องปรุง หรืออาหารแช่แข็ง แต่ในความเป็นจริง มักมีน้ำตาลผสมเพื่อปรุงรสและถนอมอาหาร
- เร่งการดื้อต่ออินซูลินและเบาหวาน
การบริโภคน้ำตาลแฝงในปริมาณมากและต่อเนื่อง จะทำให้ร่างกายต้องหลั่งอินซูลินบ่อยขึ้น จนนำไปสู่ภาวะดื้ออินซูลิน และเสี่ยงเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
- เพิ่มไขมันสะสมในร่างกาย
น้ำตาลส่วนเกินจะเปลี่ยนเป็นไขมัน ทำให้เกิดไขมันพอกตับ และเพิ่มไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ
หลายแบรนด์ใช้คำว่า “Healthy” หรือ “มีไฟเบอร์สูง” แต่จริง ๆ แล้วแฝงด้วยน้ำตาลสูงมาก โดยเฉพาะรสช็อกโกแลตหรือผลไม้รวม
โยเกิร์ตแบบรสหวาน หรือแบบผลไม้ มักมีน้ำตาลแฝงเฉลี่ย 15–25 กรัมต่อขวด โดยเฉพาะสูตรที่โฆษณาว่าไม่มีไขมัน ซึ่งมักชดเชยรสชาติด้วยน้ำตาล
แม้จะระบุว่า “ไม่เติมน้ำตาล” แต่ผลไม้บางชนิดก็มีน้ำตาลธรรมชาติสูง และเมื่อแปรรูปจะไม่มีใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเลย
เช่น ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊ว ซอสเทอริยากิ หรือซอสบาร์บีคิว มักมีน้ำตาลผสมเพื่อเพิ่มรสชาติ
ขนมปังที่ดูเหมือนไม่หวาน อาจมีน้ำตาลแฝงจากกระบวนการผลิต รวมถึงเบเกอรี่ที่ใส่แป้งขัดขาว น้ำตาล เนย
เพื่อเพิ่มรสชาติให้ถูกปาก มักมีน้ำตาลแฝง เช่น ผัดกระเพราแช่แข็ง แกงกะหรี่ หรือบะหมี่สำเร็จรูป
กาแฟซอง กาแฟกระป๋อง มักมีน้ำตาลสูงจากครีมเทียม น้ำตาลทราย และไซรัปกลิ่นต่าง ๆ
- มองหาคำลงท้ายว่า (ose) เช่น Glucose, Fructose
- มองหาคำว่า Syrup เช่น Corn syrup, Maple syrup
- สังเกตช่อง “คาร์โบไฮเดรตรวม” และ “น้ำตาล”
- ระวังคำโฆษณาเช่น “ไม่มีน้ำตาลเพิ่ม” ซึ่งไม่แปลว่าไม่มีน้ำตาลทั้งหมด
- ทำอาหารกินเองให้มากขึ้น : ควบคุมวัตถุดิบได้ ลดการพึ่งอาหารสำเร็จรูป
- เลือกอ่านฉลากก่อนซื้อเสมอ : ใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่ลดโอกาสรับน้ำตาลแฝงได้มาก
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป : อาหารสดย่อมดีกว่าเสมอ โดยเฉพาะผักสด เนื้อไม่ผ่านหมัก ซุปไม่ปรุงแต่ง
- ลดการใช้ซอสปรุงรสสำเร็จรูป : เปลี่ยนมาใช้เครื่องเทศสด เช่น พริก กระเทียม น้ำมะนาว แทนซอสหวาน
- เลือกขนมที่ไม่มีน้ำตาลเติมเพิ่ม เช่น ถั่วอบแห้ง ผลไม้สด หรือขนมจากธัญพืชที่มีน้ำตาลน้อย
- ตั้งเป้าลดความหวานในชีวิตประจำวัน เช่น สั่งชา กาแฟแบบหวานน้อย → หวาน 0% → ไม่เติมน้ำตาลเลย
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยวันละ 28 ช้อนชา ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ หากย้อนดูเมนูประจำวัน เช่น ข้าวผัด + น้ำอัดลม + ขนมปัง 1 ชิ้น คุณอาจกำลังรับน้ำตาลแฝง โดยไม่รู้ตัวมากกว่า 10 ช้อนชาเข้าไปแล้ว!