ในปัจจุบันภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ดังนั้น การที่เราได้เข้าใจถึงสาเหตุ อาการเบื้องต้น การปฐมพยาบาล และแนวทางป้องกันการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว จะช่วยลดความสูญเสีย และสามารถช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยได้ทันท่วงที
• ภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดขึ้นได้อย่างไร
1. สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว ที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย
2. สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว ที่เกิดจากปัญหาสุขภาพและโรคต่าง ๆ
3. สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลวที่เกิดจาก ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ
• สัญญาณเตือนอาการภาวะหัวใจล้มเหลวที่สังเกตได้เบื้องต้น
• วิธีช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
• วิธีป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวเบื้องต้น
1. สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว ที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ได้แก่
– กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ
– ความดันเลือดสูง
– ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ
– หัวใจเต้นผิดปกติอย่างรุนแรง
– กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
– กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ
– การติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อหัวใจ
2. สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว ที่เกิดจากปัญหาสุขภาพและโรคต่าง ๆ ที่ทำให้หัวใจเกิดความเครียด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ได้แก่
– โรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดตีบตันได้
– โรคไตระยะท้าย
– โรคพิษสุราเรื้อรัง
– โรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด
– โรคเบาหวาน
– โรคความดันเลือดสูง
– โรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ (hyperthyroidism)
– มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
– โรคหลอดเลือดสมอง
– โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
– โรคปอดขั้นรุนแรง
3. สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลวที่เกิดจาก ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่
- มีภาวะอ้วน ไขมันในเลือดสูง
- การใช้ยาเคมีบำบัด
- ความหนาวเย็น ผู้ป่วยที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จะไวต่อความหนาวเย็น ความหนาวเย็นทำให้เส้นเลือดเป็นตะคริว หดเล็ก เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ ยิ่งกว่านั้นคือทำให้เส้นเลือดอุดตัน เกิดหัวใจวายได้
- ความเครียด กดดัน กังวล พักผ่อนน้อย นอนดึก ใช้สมองมาก เหน็ดเหนื่อยต่อเนื่อง ทำให้เส้นเลือดหัวใจเป็นตะคริวจนอุดตัน
- กินข้าวอิ่มไป หลังกินอาหารกระเพาะต้องแบ่งเลือดมาช่วยย่อย ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจน้อยลง รวมทั้งกระเพาะมีอาหารดันกระบังลมขึ้นไปเบียดดันหัวใจ ทำให้หัวใจที่อ่อนแออยู่ทำงานไม่ดี ทั้งสองอย่างเป็นสาเหตุให้เกิดน็อกตายกะทันหัน
- ดื่มเหล้ามาก ทำให้ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว เกล็ดเลือดรวมตัวกันมากกระทบถึงการทำงานของหัวใจ
- ออกกำลังกายหักโหม หรือใช้แรงกายอย่างหนัก ต้องใช้เลือดมาก หัวใจต้องใช้ออกซิเจนมาก เส้นเลือดหัวใจเป็นตะคริว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ก่อให้เกิดหัวใจวายได้เช่นกัน
- มีอาการเหนื่อยง่าย อาจเป็นได้ในขณะพัก หรือเวลาออกแรง
- แน่นหน้าอก ใจสั่น รู้สึกใจเต้นเร็วผิดปกติ
- นอนราบไม่ได้เวลากลางคืน หายใจลำบาก อาจต้องลุกขึ้นมาเพื่อช่วยหายใจ
- มีอาการไอมากขึ้น ลักษณะเสมหะเป็นฟองสีชมพู
- บวมที่ขา บวมที่หน้าแข้ง หลังเท้าหรือข้อเท้า เมื่อกดไปจะพบมีรอยบุ๋ม
- บางรายอาจมีอาการทางระบบประสาท มึนงง สับสนหรือเป็นลมหมดสติ
1. หากพบว่ามีผู้ป่วยหัวใจหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย หรือมีอาการเข่าข่าย ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น หรือ ติดต่อ 1669 หรือโรงพยาบาล หรือทีมกู้ภัยใกล้เคียงทันที
2. ในกรณีที่ผู้ป่วยยังมีสติ ให้สังเกตอาการของผู้ป่วยว่าสามารถหายใจเองได้หรือไม่ ชีพจรเต้นแรงหรือเปล่า หากว่าผู้ป่วยยังหายใจได้ จัดท่าผู้ป่วยในท่านั่ง หรือนอนราบกับพื้นในท่าที่สบายที่สุด ปลดเสื้อผ้าให้คลายออกเพื่อให้หายใจได้สะดวก เพื่อรอรถพยาบาลมารับ
3. ในกรณีผู้ป่วยหมดสติ ให้ประเมินความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุก่อนเป็นอันดับแรก โดยตรวจดูบริเวณรอบ ๆ ก่อนเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกับให้ตรวจการรู้สึกตัว การหายใจ และปลุกเรียกผู้ป่วยด้วยการตบไหล่ทั้งสองข้าง เรียกเสียงดัง ๆ หากไม่รู้สึกตัวและไม่หายใจ หรือหายใจผิดปกติที่เรียกว่า หายใจเฮือก ให้รีบขอความช่วยเหลือและทำการ CPR ทันที
4. จัดท่าผู้ป่วยให้นอนราบกับพื้นแข็ง โดยให้คุกเข่าบริเวณข้างลำตัวผู้ป่วยในระดับไหล่ จัดท่าผู้ป่วยนอนหงายเพื่อเปิดทางเดินหายใจโดยการ ดันหน้าผาก - ดึงคางขึ้น และตรวจสอบการหายใจโดยการเอียงหูฟังแนบที่จมูกผู้ป่วย จากนั้นให้เริ่ม ช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ด้วยการกดหน้าอก โดยวางสันมือข้างที่ถนัดบริเวณกึ่งกลางกระดูกหน้าอกระดับเต้านม และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอกด้วยความลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร โดยให้แขนเหยียดตรง ไม่งอแขน ในอัตราความเร็ว 100 - 120 ครั้งต่อนาที และทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว หรือจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง
5. หากมีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillators: AED) สามารถนำมาใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้
อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการหายใจ หมดสติ ผู้ไปพบต้องมีสติ อย่าตื่นเต้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รีบให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเท่าที่จะทำได้ รวมถึงพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาล ที่ใกล้ที่สุด ก็จะสามารถช่วยผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เขามีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น
• ถึงแม้จะมีสุขภาพดี ก็ควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้เช็คอาการผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย
• ผู้ที่มีโรคประตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ควรหมั่นพบแพทย์เป็นประจำและทานยาสม่ำเสมอ
• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิต เช่น ออกกำลังสม่ำเสมอแต่ไม่ควรหักโหม รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และพักผ่อนให้เพียงพอ
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะ
***********************************************
ที่มาข้อมูล : โรคหัวใจวาย หรือหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)
ภาวะหัวใจล้มเหลว ➤ รู้ทัน สาเหตุ อาการ วิธีรักษา
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อพบผู้ป่วยโรคหัวใจวาย