หลายคนคิดว่าการอ่านส่วนผสมสกินแคร์ดูเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีแต่ชื่อสารภาษาอังกฤษ แถมยังเป็นศัพท์เฉพาะที่เราไม่รู้จัก พอเห็นภาษาอังกฤษยาวเป็นพรืดหลายบรรทัดก็เลยเลือกที่จะมองข้าม แต่นั่นอาจทำให้เราพลาดไปเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวเราได้ ดังนั้นจึงอยากจะให้ทุกคนหันมาใส่ใจการอ่านส่วนผสมสกินแคร์ก่อนเลือกซื้อเพื่อประโยชน์ต่อตัวเราเอง โดยวันนี้เรามีวิธีการอ่านส่วนผสมสกินแคร์มาแนะนำ บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด ตามไปดูกันเลยค่ะ
ชื่อส่วนผสมที่ใช้ในแต่ละผลิตภัณฑ์ส่วนมากจะแจ้งไว้บนตัวแพคเกจ กล่อง หรือกระดาษใบเล็ก ๆ ที่พับใส่ไว้ในกล่อง โดยมองหาคำว่า Ingredients เราก็จะเจอลิสต์ส่วนผสมต่าง ๆ
แล้วส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการแพ้มีอะไรบ้างล่ะ ? อันที่จริงสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนผิวแพ้ง่ายมาก บางคนไม่ค่อยแพ้อะไรเลย จึงทำให้ระบุชัดเจนอย่างละเอียดไม่ได้ว่ามีสารกี่ชนิดที่เสี่ยงต่อการแพ้ ซึ่งถ้าจะให้รู้แน่ชัดว่าเราแพ้สารอะไรบ้างควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจ แต่ก็จะมีสารที่เสี่ยงต่อการแพ้ที่พบเห็นได้ทั่วไปและควรหลีกเลี่ยง ยกตัวอย่าง เช่น
SLS / Sodium Lauryl Sulfate
Formaldehyde
Borates
Hydroquinone
Paraben (สารกันเสีย)
Mineral Oil (น้ำมันแร่)
Artificial Color / Colorants (สีสังเคราะห์)
Mercury (สารปรอท)
Perfume/Fragrance (น้ำหอม)
Alcohol ได้แก่ Ethanol, Methanol, Denatured alcohol, SD alcohol, ethyl alcohol, benzyl alcohol, isopropyl alcohol
ส่วนผสมที่ใส่มาในผลิตภัณฑ์จะเรียงจากมากไปน้อย โดยส่วนผสมที่อยู่ในลำดับต้น ๆ 5 อันดับแรก จะใส่มามากที่สุด แล้วค่อยลดมาตามลำดับ ซึ่งหมายความว่าถ้าเราหวังผลการบำรุงในด้านใดสามารถสังเกตส่วนผสมลำดับต้น ๆ ว่ามีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์หรือไม่ นอกจากส่วนผสม 5 อันดับแรกแล้วก็ต้องดูส่วนผสมอื่น ๆ ด้วยนะคะ อย่ามองข้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะที่เขียนว่า and other ingredients ให้เราช่างใจไว้ก่อนเลย เพราะไม่รู้ว่าส่วนผสมเหล่านั้นคืออะไร
• MFG ย่อมาจากคำว่า Manufacturing date แปลว่าวันที่ผลิต
• EXP หรือ Exp. date ย่อมาจาก Expiration date แปลว่าวันหมดอายุ
ควรสังเกตวันผลิตและวันหมดอายุ เพื่อจะได้รู้ว่าสินค้าชิ้นนั้นผลิตมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วใกล้หมดอายุหรือยัง เพราะบางสินค้าที่ผลิตมานานแล้วใกล้หมดอายุ (ถึงแม้ว่าจะยังไม่หมด) อาจเกิดการเสื่อมประสิทธิภาพได้ และอย่าลืมดูว่าเมื่อเปิดใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว สามารถใช้ได้ภายในกี่เดือน โดยจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปกระปุกเปิดฝาพร้อมตัวเลขบอกไว้ เช่น 6M เปิดแล้วใช้ภายใน 6 เดือน 24M เปิดแล้วใช้ภายใน 2 ปี เป็นต้น
แน่นอนว่าคนทั่วไปอย่างเราที่ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องส่วนผสมหรือชื่อสารต่าง ๆ คงไม่อาจรู้ทั้งหมดว่าสารแต่ละตัวคืออะไร ดังนั้นถ้าเห็วชื่อสารยาว ๆ แปลก ๆ ก็นำไปเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ หรือจะใช้ตัวช่วยอย่างเว็บไซต์วิเคราะห์ส่วนผสมอย่าง skincarisma.com