Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

19 เรื่องจริงบนดาวศุกร์

Posted By sanomaru | 31 มี.ค. 63
20,081 Views

  Favorite

เราท่องดวงดาวในระบบสุริยะกันมาตั้งแต่เด็ก และดาวศุกร์ก็เป็นดวงหนึ่งที่เราจำได้ง่ายและแม่นยำ เพราะมันคือหนึ่งในดาวเคราะห์ชั้นใน และอยู่ใกล้กับโลกของเรามาก แต่เรากลับมีความรู้เกี่ยวกับดาวศุกร์กันไม่มากนัก นอกจากทราบว่ามันเป็นดาวแห่งความรักและความงาม ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับดาวศุกร์ให้มากขึ้นกันเถอะ

 

1. ดาวศุกร์ถูกเรียกว่า "ฝาแฝดของโลก" เนื่องจากขนาดของมันใกล้เคียงกับโลกมาก นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของดาวศุกร์นั้นอยู่ที่ประมาณ 12,104 กิโลเมตร ขณะที่เส้นผ่านศูนย์กลางของโลกอยู่ที่ 12,742 กิโลเมตร ดังนั้น ดาวศุกร์กับโลกจึงมีขนาดแตกต่างกันเพียง 638 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนมวลของดาวศุกร์ก็ยังใกล้เคียงกับโลกมาก ๆ ด้วย โดยดาวศุกร์มีมวลราว 81% ของมวลโลก นอกจากนี้ ตำแหน่งที่ใกล้โลก และลักษณะของดาวที่คล้ายคลึงกัน คือ มีแกนกลาง ชั้นของเหลว และเปลือกด้านนอก ก็ล้วนทำให้ดาวศุกร์ถูกยกให้เป็นฝาแฝดของโลกนั่นเอง

ภาพ : Shutterstock

 

2. ดาวศุกร์โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยวงโคจรที่ใกล้เคียงวงกลมที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ และใช้เวลาประมาณ 225 วัน (บนโลก) ในการเดินทางรอบดวงอาทิตย์ ขณะที่โลกของเราใช้เวลา 365 วัน

 

3. ดาวศุกร์ใช้เวลาในการหมุนรอบตัวเองประมาณ 243 วันบนโลก จึงกล่าวได้ว่า หนึ่งวันบนดาวศุกร์นั้นยาวนานกว่าหนึ่งปีของมันเสียอีก เพราะมันใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์เพียง 225 วันเท่านั้น

 

4.  ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโดยส่วนใหญ่จะหมุนรอบตัวเองไปในทิศทวนเข็มนาฬิกา รวมถึงโลกของเราก็หมุนทวนเข็มนาฬิกาด้วย มีเพียงดาวเคราะห์สองดวงเท่านั้นที่หมุนรอบตัวเองไปในทิศตามเข็มนาฬิกา นั่นคือดาวศุกร์ และดาวยูเรนัส

ภาพ : Shutterstock

 

5. ในสมัยโบราณ ผู้คนเข้าใจว่าดาวศุกร์ที่มองเห็นในตอนหัวค่ำกับดาวศุกร์ที่มองเห็นตอนใกล้รุ่งนั้นเป็นดาวคนละดวงกัน แต่เมื่อวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ก้าวหน้า เราจึงทราบว่า ด้วยวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ที่เร็วกว่าโลก  ทำให้ดาวศุกร์วิ่งตามทันโลกทุก ๆ 584 วัน และนั่นทำให้ช่วงเวลาหนึ่งเรามองเห็นดาวศุกร์ได้ตอนหัวค่ำ เรียกว่า ดาวประจำเมือง และอีกช่วงเวลาหนึ่งเราจะมองเห็นดาวศุกร์ได้ในตอนใกล้รุ่ง เรียกว่า ดาวประกายพรึก

 

6. ชื่อของดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะจะถูกตั้งขึ้นตามชื่อเทพเจ้าในความเชื่อของชาวกรีกและโรมัน ซึ่งล้วนเป็นเพศชายทั้งหมด ยกเว้นเพียงแต่ดาวศุกร์ดวงเดียวเท่านั้นที่ถูกตั้งชื่อตามเทพีแห่งความรักและความงาม ซึ่งเป็นเพศหญิง เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ที่สว่างสุกใสที่สุด นักดาราศาสตร์ในยุคก่อนจึงสันนิษฐานว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะต้องสวยงามอย่างแน่นอน แต่แท้จริงแล้วมันกลับมีสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย

ภาพ : Shutterstock

 

7. ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดในระบบสุริยะ นั่นคือประมาณ 470 องศาเซลเซียส หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า ไม่ใช่ดาวพุธหรือที่ร้อนที่สุด เพราะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด คำตอบคือ ในความเป็นจริงแล้ว แม้ดาวพุธจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด แต่ก็มีอุณหภูมิเพียง 430 องศาเซลเซียสเท่านั้น ขณะที่ดาวศุกร์ นอกจากจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์แล้ว  นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า ชั้นบรรยากาศของมันประกอบไปด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 96% ซึ่งทำให้เกิดลักษณะของปรากฏการณ์เรือนกระจกอยู่บริเวณพื้นผิวของดวงดาว และกักเก็บความร้อนเอาไว้อีกด้วย

 

8. ประมาณ 65% ของพื้นผิวดาวศุกร์เป็นที่ราบเรียบ ส่วนที่เหลืออีก 35% เป็นภูเขา 6 แห่ง โดยมีภูเขาที่ชื่อว่า แมกเวลล์ เป็นภูเขาสูงราว 7 ไมล์ หรือ 11.3 กิโลเมตร ใกล้เคียงกับภูเขาหิมาลัย และนับได้ว่าแมกเวลล์นี้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาภูเขาบนดาวเคราะห์ทั้งหลาย

ภาพ : NASA

 

9. ความดันบรรยากาศบนดาวศุกร์นั้นโหดร้ายกับมนุษย์หรือแม้แต่ยานอวกาศ แม้แต่ยานสำรวจ Vernera ของรัสเซีย ซึ่งมีภารกิจไปสำรวจพื้นผิวดาวศุกร์ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ก็ยังไม่สามารถอยู่บนนั้นได้นานกว่า 2 ชั่วโมง เพราะระดับความดันบรรยากาศบนพื้นผิวดาวศุกร์นั้นมีค่าประมาณ 75-100 เท่าของความดันบรรยากาศบนโลก ซึ่งหากจะนึกภาพให้ออก มันก็เหมือนกับการลงไปอยู่ในมหาสมุทรที่มีระดับความลึกประมาณ 900 เมตรนั่นเอง ดังนั้น หากขยับแขนบนดาวศุกร์ เราก็จะรู้สึกเหมือนมีแรงต้านเช่นเดียวกับตอนอยู่ในน้ำ

 

10. แรงดึงดูดโน้มถ่วงของดาวศุกร์มีค่าเป็น 91% ของโลก ดังนั้น หากคุณจะกระโดดได้สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการกระโดดบนโลก และวัตถุก็จะมีน้ำหนักเบาขึ้นเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเทียบกับการชั่งน้ำหนักวัตถุบนโลก

 

11. เท่าที่นักดาราศาสตร์ทราบในตอนนี้ บนดาวศุกร์มีภูเขาไฟอยู่มากกว่า 1,600 ลูก ซึ่งมากกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะ

 

12. ลมที่พัดบนดาวศุกร์มีความเร็วสูงสุดได้ถึง 724 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมีความเร็วลมสูงกว่าพายุทอร์นาโดที่เร็วที่สุดในโลกเสียอีก

 

13. มียานอวกาศมากกว่า 40 ลำที่ถูกส่งไปสำรวจดาวศุกร์ แต่ยานอวกาศลำแรกที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดบนดาวศุกร์ คือ ยานอวกาศสัญชาติรัสเซีย

 

14. คำว่า "Friday" ในภาษาอังกฤษ ที่หมายถึงวันศุกร์ มาจากภาษาของชาวแองโกล-แซกซัน ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ทางใต้และตะวันออกของสหราชอาณาจักรระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 5 หมายถึง "Venus day" (Friga = Venus + dae = day) และภาษาอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็นำมาใช้สื่อความหมายว่า วันศุกร์หรือ Friday ด้วยเช่นกัน

ภาพ : Shutterstock

 

15. ดาวศุกร์เป็นดาวที่ไม่มีดวงจันทร์เป็นบริวาร เช่นเดียวกับดาวพุธ นอกจากนี้ดาวศุกร์ยังไม่มีวงแหวนเหมือนดาวเคราะห์อื่นด้วย

 

16. เนื่องจากดาวศุกร์อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ในระยะทางที่ใกล้เคียงกับโลก ดังนั้น อายุขัยของมันจึงน่าจะใกล้เคียงกับโลก กล่าวคือ เมื่อดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวฤกษ์เพียงดวงเดียวในระบบสุริยะของเรากลายเป็นดาวยักษ์แดง ความส่องสว่างของมันจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ทำลายดาวเคราะห์ชั้นในอย่างดาวพุธ ดาวศุกร์ และโลก ในอีกไม่กี่พันล้านปีข้างหน้า

ภาพ : Shutterstock

 

17. แม้ว่าเราจะมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าบนโลก แต่ก็ใช่ว่าท้องฟ้าบนดาวดวงอื่นจะเป็นสีเดียวกัน เพราะสำหรับท้องฟ้าบนดาวศุกร์แล้ว เราจะมองเห็นเป็นสีส้มแดงเสมอ เนื่องจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่อย่างหนาแน่นในบรรยากาศบนดาวศุกร์ ทำให้เกิดการกระเจิงของแสงอาทิตย์ รวมถึงจะมองไม่เห็นดวงอาทิตย์กลมแดงแบบที่เห็นบนโลกตอนเช้าหรือตอนเย็นด้วย เพราะดวงอาทิตย์ที่เห็นจากพื้นผิวดาวศุกร์จะเป็นสีเหลืองและถูกบดบังด้วยกลุ่มเมฆที่หนาแน่น ส่วนตอนกลางคืนก็จะเห็นท้องฟ้าเป็นสีดำ และมองไม่เห็นดวงดาวอีกด้วย

 

18. ขณะที่นักดาราศาสตร์เชื่อว่าไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวศุกร์ได้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ทั้งในด้านอุณหภูมิและความดันบรรยากาศ แต่นักธรณีวิทยากลับเชื่อว่า ดาวศุกร์ น่าจะเปนดาวอีกดวงหนึ่งที่เคยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่เช่นเดียวกับโลก แต่นั่นน่าจะผ่านมาแล้วประมาณ 300 ล้านปี

 

19. ดาวเคราะห์โดยทั่วไป จะมีหลุมอุกกาบาตขนาดต่าง ๆ เป็นหลักฐานการพุ่งชนพื้นผิวดาวนั้น ๆ แต่สำหรับดาวศุกร์กลับไม่มีหลุมอุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 1.5-2 กิโลเมตรให้เห็นเลย เพราะอุกกาบาตขนาดเล็กที่พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ จะเสียดสีกับชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นไปด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และถูกเผาไหม้จนหมดก่อนที่พวกมันจะได้สัมผัสกับพื้นผิวดาวศุกร์เสียอีก


แม้ว่าดาวศุกร์จะเปรียบเหมือนเทพีแห่งความรักและความงามหรือสาวงามก็ตาม แต่เมื่อวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ก้าวหน้ามาจนถึงจุดนี้ เราจึงพบว่าในความเป็นจริงแล้ว ดาวศุกร์นั้นโหดร้ายกว่าที่คิด และไม่ได้สวยงามอย่างที่เรามองเห็นจากโลก เหมือนกับมนุษย์บนโลกที่บางครั้งก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เราเห็นเสมอไป

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
- 19 เรื่องจริงบนดวงอาทิตย์
- 19 เรื่องจริงบนดวงจันทร์
 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • sanomaru
  • 17 Followers
  • Follow