กระเทียมมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เป็นพืชสมุนไพรที่ช่วยต้านแบคทีเรีย ต้านไวรัส และต้านเชื้อราได้ นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน โดยงานวิจัยที่ศึกษาผลของกระเทียมที่ส่งผลต่อการรักษาโรคไข้หวัด พบว่า ผู้ที่รับประทานกระเทียมเป็นผู้มีระยะเวลาในการป่วยที่น้อยลง นอกจากนั้นกลุ่มคนที่รับประทานกระเทียมประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ มีระยะเวลาป่วยน้อยกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอก อีกทั้งกลุ่มคนที่รับประทานกระเทียมจะหายป่วยเร็วขึ้นโดยเฉลี่ย 3.5 วัน ซึ่งเร็วกว่ากลุ่มผู้ใช้ยาหลอก
การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเมื่อเกิดอาการป่วย เนื่องจากเมื่อคุณมีอาการไม่สบาย เหงื่อจะออกได้ง่ายและเกิดอาการอาเจียนหรือท้องร่วงได้ ทำให้สูญเสียน้ำในร่างกายอย่างมาก ดังนั้น น้ำมะพร้าวจึงเป็นตัวเลือกหนึ่ง เนื่องจากในน้ำมะพร้าวมีน้ำตาลกลูโคสและเกลือแร่ ช่วยทำให้ร่างกายรักษาสมดุลของน้ำ และจากงานวิจัยที่วิจัยในสัตว์พบว่า น้ำมะพร้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
ชาสามารถรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับอาการเป็นหวัดได้ ชาร้อนมีคุณสมบัติคล้ายกับยาหดหลอดเลือดจากธรรมชาติ ที่ช่วยลดอาการคัดจมูกได้ นอกจากนั้นการจิบชายังช่วยลดการสูญเสียน้ำของร่างกายได้
ในใบชายังพบสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) เป็นสารที่พบในพืช มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยแก้ปัญหาระบบย่อยอาหาร โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้ และนอกจากนั้นในใบชามีสารแทนนิน (Tannins) มีการวิจัยพบว่า สารแทนนินในชาดำช่วยลดแบคทีเรียในลำคอได้ และยังมีอีกงานวิจัยที่พบว่า ชาดอกไม้สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดไข้หวัดนกด้วย
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรีย เนื่องจากในน้ำผึ้งมีสารชนิดหนึ่ง เรียกว่าสารต้านจุลินทรีย์ (Antimicrobial) ประกอบอยู่ นอกจากนั้นน้ำผึ้งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้นกันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น น้ำผึ้งจึงถือว่าเป็นอาหารที่เหมาะแก่ผู้ที่มีอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ในหลายงานวิจัย น้ำผึ้งยังช่วยลดอาการไอในเด็กได้ แต่เด็กที่อายุมากกว่า 12 เดือนเท่านั้นจึงจะสามารถรับประทานได้
อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า ขิงเป็นพืชที่ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะและอาการคลื่นไส้ได้ และในขิงมีฤทธิ์เหมือนกับกลุ่มยาแก้อักเสบ (NSAIDs) ที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบหรือเป็นไข้
อาหารรสจัด เช่น พริก ในพริกมีสารแคปไซซินซึ่งมีรสเผ็ดร้อน พริกมีประโยชน์มากมาย เช่น สามารถลดอาการปวด ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร จากรายงานระบุว่า การรับประทานอาหารรสจัดทำให้ลดอาการน้ำมูลไหล ลดเสมหะ และทำให้บริเวณโพรงอากาศในจมูกหรือไซนัสหายใจได้สะดวก
กล้วยถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย กล้วยมีใยอาหารที่สามารถละลายน้ำได้ ช่วยลดอาการท้องร่วงและลดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้
ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ นอกจากนั้นยังมีโปรตีน ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานและยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ในข้าวโอ๊ตยังมีสารเบต้ากลูแคนที่ช่วยต่อต้านไวรัสและแบคทีเรีย ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และลดการอักเสบของข้ออีกด้วย