Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา 350 ปี วัดคาทอลิกแห่งแรกในไทย

Posted By ไกด์เตยหอม | 15 พ.ย. 62
17,086 Views

  Favorite

ในโอกาสการเสด็จเยือนไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ผู้นำทางศาสนาของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกทั่วโลก พระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ในสัปดาห์หน้า (19-23 พ.ย. 62) ขอพาไปเที่ยวชมวัดคาทอลิกแห่งแรกในไทยกันบ้างค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เมื่อเอ่ยถึงโบสถ์คาทอลิกสวย ๆ ในไทยแล้ว หากไม่นึกถึงอาสนวิหารอัสสัมชัญ นักท่องเที่ยวหลายคนก็จะนึกถึงอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่จันทบุรีกันมากกว่า แต่ถ้าจะมาชมวัดคาทอลิกไทยที่เก่าแก่ที่สุดแล้วละก็ต้องมาที่ วัดนักบุญยอแซฟ พระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ค่ะ นั่งรถสองแถวสายวัดไก่เตี้ยมาก็ได้ เลย วัดไชยวัฒนาราม ไปราว 2.5 กม. เท่านั้นเองค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ทางเข้าวัดจะเป็นทางเดียวกับโรงเรียนยอแซฟ อยุธยาค่ะ พอเข้าประตูมาวัดจะอยู่ทางซ้าย โรงเรียนอยู่ทางขวา มีฝูงแกะ (หรือแพะ ? แต่ไม่เห็นมีเคราเลย) เดินอยู่ในสวนริมแม่น้ำด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

โบสถ์หลังไม่ใหญ่นัก ทาสีเหลืองกับสีขาวดูน่ารัก หันหน้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ถัดมาเป็นอาคารนิทรรศการ “มรดกตกทอดจากคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส” ทางขวาเป็นเรือสำเภาจำลองแบบฝรั่งค่ะ วันที่ไปเป็นวันธรรมดา แต่โบสถ์ยังเปิดอยู่ด้วย เพียงปิดไฟ ปิดแอร์ไว้เท่านั้น เลยมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมและถ่ายภาพในโบสถ์ด้วยค่ะ คริสตศาสนิกชนคาทอลิกเองหากมาเยือนก็คงจะได้แวะเข้ามาสวดภาวนาได้เช่นกัน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ณ ที่ดินพระราชทานจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชผืนนี้ เคยมีโบสถ์หลังแรกเป็นอาคารไม้ แล้วก็หลังที่ 2 ซึ่งถูกเผาทำลายไปเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 เช่นเดียวกับโบราณสถานอื่น ๆ ในกรุงศรีอยุธยา กระทั่งสมัยปลาย ร.3 พระสังฆราชปัลเลอกัวให้สร้างโบสถ์หลังที่ 3 ขึ้นตามสถาปัตยกรรมเดิม เมื่อทรุดโทรมลง พระคุณเจ้าหลุยส์ เวย์ ในสมัย ร.5 จึงให้สร้างหลังที่ 4 หลังนี้ที่สถาปนิกชาวอิตาลีเป็นผู้ออกแบบค่ะ คล้ายโบสถ์วัดคอนเซ็ปชัญ ที่กทม. เลยค่ะ เพิ่งได้รับการบูรณะล่าสุด ปี 2003 (พ.ศ. 2546)
 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ด้านหน้ามีสมุดเยี่ยมและกล่องรับบริจาคต่าง ๆ นักท่องเที่ยวเองก็มีส่วนช่วยในการทะนุบำรุงโบราณสถานแห่งนี้ได้อีกแรงด้วยนะคะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตัวโบสถ์เป็นทรงไม้กางเขน หน้าต่างประดับกระจกสี ที่ปีกวัดฝั่งซ้ายใต้แท่นวางรูปประติมากรรมแม่พระ (พระนางมารีย์) มีโลงศพของพระสังฆราชปีแอรฺ ลังแบรต์ เดอ ลา ม็อต หนึ่งในคณะสงฆ์ผู้ก่อตั้งมิสซังสยาม

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ส่วนที่ปีกวัดฝั่งขวาใต้แท่นวางรูปประติมากรรมนักบุญยอแซฟ แม่พระ และพระเยซูมีโลงศพของพระสังฆราชหลุยส์ ลาโน ประมุขมิสซังมิสซังสยามองค์แรกค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็มาที่อาคารเล็ก ๆ ข้างสำเภาในภาพบนนี้ ซึ่งที่ใบเรือมีตราคณะมิสซังต่างประเทศประจำกรุงปารีส (MEP) และธงสีเหลืองของวาติกัน เพื่อบ่งบอกว่ามิชชันนารีเหล่านี้เดินทางมาในนามของพระสันตะปาปาค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภายในนิทรรศการติดแอร์ไม่ต้องกลัวร้อนเลย เริ่มต้นจากแผนที่การเดินทางของคณะมิชชันนารีฝรั่งเศสสู่กรุงศรีอยุธยาในคริสต์ศตวรรษที่ 17

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

สมณสาสน์สถาปนามิสซังสยามอย่างเป็นทางการและภาพคณะสงฆ์ในยุคก่อตั้ง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในภาพล่างนี้ ทางซ้ายคือภาพจากแสตมป์ แสดงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จออกรับอาเล็กซองดร์ อัศวินแห่งโชมง ราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ใน ค.ศ. 1685 (พ.ศ. 2228) ส่วนทางขวาคือภาพนักดาราศาสตร์คณะเยสุอิต ทูลเกล้าฯ ถวายไม้กางเขนแด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพล่างนี้เป็นภาพสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ออกญาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) และนักดาราศาสตร์คณะเยสุอิต ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันแสดงอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงปารีส

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

พระสมณสาสน์จากสมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 9 ซึ่งพระสังฆราชฟรังซัวส์ ปัลลือ เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นับเป็นพระสมณสาสน์ฉบับแรกที่เปิดความสัมพันธ์ระหว่างสยามและนครรัฐวาติกัน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้ยังมีภาพเหรียญที่ระลึกในโอกาสที่คณะทูตสยามเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 11 เป็นภาพสมเด็จพระสันตะปาปาฯ ทรงมอบเครื่องบรรณาการแก่คณะทูตสยามเพื่อนำกลับไปทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนารายณ์ต่อไป ซึ่งปัจจุบันเหรียญนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดวาติกันค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

มีภาพคณะทูตไทยที่ไปคราวนั้นด้วยซึ่งวาดโดย Carlo Marratta ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดวาติกัน เป็นภาพของออกขุนชำนาญ ใจจง ออกขุนวิเศษ ภูบาล และออกหมื่นพิพิธราชา เรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวาค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพล่างนี้เป็นภาพถ่ายจากต้นฉบับจดหมายของออกญาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ซึ่งเขียนเป็นภาษาโปรตุเกสส่งไปถวายสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 11

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ระหว่างทางเดินสู่ห้องถัดไปก็จะมีรายนามพระสงฆ์นักบวชคนสำคัญในอดีตและภาพถ่ายค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในห้องนี้มีการจัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดเรื่องราวประวัติความเป็นมาของคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทย เริ่มจากในภาพล่างนี้คือสมุดไทย สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น บันทึกเรื่องราวคำสอนทางศาสนาเป็นภาษาไทย มีการกล่าวถึงพระตรีเอกาณุภาพ ซึ่งก็คือพระเจ้าพระองค์เดียวเป็นเอกภาพ แต่ปรากฏเป็นสามพระบุคคล ตามหลักศาสนาคริสต์ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ส่วนที่ผนังใกล้ ๆ กันมีพระบรมฉายาลักษณ์ของล้นเกล้าฯ ร.4 จำลองมาจากของจริงที่ทรงส่งไปถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 พระราชสานส์ภาษาไทยพร้อมคำแปลภาษาอังกฤษที่ทรงแปลด้วยพระองค์เอง พร้อมซองผ้าและซองทองคำ ซึ่งจัดแสดงอยู่ ณ หอสมุดวาติกันค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในภาพล่างนี้เป็นหนังสือบทภาวนาเล่มจริงที่ตีพิมพ์ในสมัย ร.4 เป็นภาษาวัด คือใช้อักษรโรมันสะกดคำภาษาไทย ลองอ่านดูบรรทัดบน ๆ ได้ความว่า “บทภาวนา อันสำหรับเพลามหาบูชามิสซา” นี่อ่านเองโดยสาวยุคปัจจุบันนะคะ ผิดถูกอย่างไร ขออภัยล่วงหน้าด้วยเจ้าค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใกล้ ๆ กันมีพระราชหัตถเลขาที่ล้นเกล้าฯ ร.5 ทรงเขียนตอบถึงพระสังฆราชหลุยส์ เวย์ และคริสตชนไทย ในโอกาสที่พระสังฆราชและคริสตชนไทยถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่านค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ส่วนในภาพล่างนี้เป็นสมุดบันทึกของคุณพ่อกอลมเบต์ (คุณพ่อ = บาทหลวง) เล่าถึงการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ มกุฎราชกุมาร มาทรงวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนหลังแรกของโรงเรียนอัสสัมชัญ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ที่ผนังมีชุดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ คราวที่ล้นเกล้าฯ ร.5 เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก และเสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 โดยพระองค์ทรงเป็นพระประมุขของราชอาณาจักรที่ไม่ใช่คริสตชนพระองค์แรกที่เสด็จมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาที่วาติกัน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชยังพระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ให้พระสังฆราชหลุยส์ เวย์ ในการสร้างโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โดยมีคณะนักบวชหญิง (ซิสเตอร์/เซอร์) คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร จำนวน 7 คนจากไซ่ง่อนเดินทางมาช่วยทำหน้าที่เสมือนพยาบาล และมีแพทย์คนแรกคือ นพ. อัลฟองซ์ ปัวซ์ ซึ่งเป็นแพทย์ชาวฝรั่งเศสประจำสำนักพระราชวัง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในภาพล่างนี้คือหนังสือ สารสาสน์คฤศตัง เล่ม 1 สมัย ร.6 ค่ะ เป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือพิมพ์อุดมสารรายสัปดาห์ และนิตยสารอุดมศานต์รายเดือนในปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหาจะเป็นการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับศาสนา งานฉลอง งานบวช โครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ รวมทั้งข้อความจากพระคัมภีร์ ข้อคิด บทเทศน์ ฯลฯ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในภาพซ้ายนี้ถ่ายเมื่อครั้งที่ล้นเกล้าฯ ร.7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินในพิธีสถาปนาคุณพ่อยอห์น บอสโก ผู้ก่อตั้งคณะซาเลเซียน เป็นนักบุญใน ค.ศ. 1934 (พ.ศ. 2477) ส่วนทางขวาคือเมื่อครั้งที่ล้นเกล้าฯ ร.8 และ ร.9 (ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช) เสด็จทรงเยี่ยมพระสังฆราชแปร์รอส ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489)

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

และในภาพถัดมานี้คือภาพพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งที่ล้นเกล้าฯ ร.10 (ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ณ พระราชวังวาติกัน ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากภาพถ่ายและเอกสารแล้วยังมีสิ่งของอื่น ๆ จัดแสดงด้วย เช่น ในภาพล่างนี้คือเชิงเทียน ที่ล้นเกล้าฯ ร.6 พระราชทานเป็นเครื่องสังเค็ด (ทานวัตถุที่เจ้าภาพจัดถวายแก่พระสงฆ์ นักบวช เพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ เช่น ตู้พระธรรม โต๊ะหมู่ ฯลฯ) เนื่องในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพล้นเกล้าฯ ร.5 ค่ะ เนื่องจากขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงถ่ายมาเฉพาะส่วนที่เห็นตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ จปร ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพล่างซ้ายเป็นภาพเครื่องยศพระสังฆราช คาทอลิก มี คทาพระสังฆราช ซึ่งบ้างก็ว่ามาจากไม้เท้าคนเลี้ยงแกะ ถือเป็นผู้ที่พระเยซูซึ่งเป็นนายชุมพาบาลซึ่งก็คือคนเลี้ยงแกะ (ผู้นำ) นำฝูงแกะ (มนุษย์) ไปสู่ความดีงาม เลือกให้ทำหน้าที่ช่วยดูแลฝูงแกะ (คริสตศาสนิกชน) แทนพระองค์ หมวกทรงสูง แหวนประจำตำแหน่ง และเสื้อคลุม ส่วนภาพล่างขวานี้คือภาชนะใส่เหล้าองุ่นและน้ำในพิธีบูชาขอบพระคุณ หรือที่เรียกกันว่า “มิสซา” ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาคือถ้วยกาลิกส์และจานรองแผ่นศีล ซึ่งก็เป็นสิ่งสำคัญในพิธีมิสซาเช่นกัน โดยถ้วยกาลิกส์ใช้บรรจุเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนพระโลหิต และจานรองแผ่นศีล ซึ่งก็คือแผ่นขนมปังไร้เชื้อ (ยีสต์) เป็นสัญลักษณ์แทนพระกายของพระเยซู ที่ทรงยอมเสียสละถูกตรึงกางเขนสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปมนุษย์ และทรงกลับคืนชีพอีกครั้ง แสดงถึงชัยชนะต่อความตายและความชั่วร้ายตามหลักความเชื่อทางคริสตศาสนา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้ยังมีศาสนภัณฑ์อื่น เช่น โถน้ำพร้อมถาดรอง สำหรับการล้างมือของพระสงฆ์ในพิธีมิสซา ซึ่งชุดที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นของโบราณมีข้อความสลักว่าเป็นที่ระลึกโอกาสครบ 25 ปี แห่งการบวชพระสังฆราชของพระสังฆราชหลุยส์ เวย์ ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443)

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ทางซ้ายเป็นภาพอัครสังฆมณฑล 2 แห่ง คือ กรุงเทพ และท่าแร่-หนองแสง สังฆมณฑล 9 แห่ง คือ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี จันทบุรี ราชบุรี และสุราษฎร์ธานี ส่วนทางขวาคือพระธาตุ (ชิ้นส่วนกระดูก) นักบุญยอห์น บัปติสต์ ที่มิชชันนารีได้นำเข้ามายังมิสซังสยามราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 หรือช่วงราว ๆ ร.3 – ร. 5 ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เยื้อง ๆ ไปทางด้านหลังของโบสถ์จะมีสำนักงานวัดและบ้านพักพระสงฆ์ เป็นอาคาร 2 ชั้น มีป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวัด ซึ่งแม้จะไม่ใช่วัดคาทอลิกที่ใหญ่หรืออลังการที่สุดในไทย แต่ก็เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นอนุสรณ์สถานแห่งสัมพันธไมตรีดีงามระดับนานาชาติ อีกทั้งพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงมีต่อชาวไทยทุกเชื้อชาติศาสนา รวมถึงคริสตชนคาทอลิกด้วยเช่นเดียวกัน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาใกล้ ๆ รั้วซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นสุสาน จะมีห้องน้ำและหอระฆัง 

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ทางคริสต์ก็มีการตีระฆังก่อนเริ่มมิสซาวันอาทิตย์ค่ะ ลักษณะของหอระฆังนี้ดูไปคล้าย ๆ กับหอในค่ายทหารโบราณเลย จริง ๆ แล้วในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่นี่ก็ถูกเรียกว่า “ค่ายนักบุญยอแซฟ” มาก่อนด้วยค่ะ มาเที่ยวที่นี่แล้วคิดถึงแม่มะลิในละครบุพเพสันนิวาสขึ้นมาเลย   

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ขอส่งท้ายกันด้วยภาพถ้ำแม่พระ อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่มีกันในวัดคาทอลิกแทบทุกวัดเลยค่ะ เป็นถ้ำจำลองมีรูปปั้นพระนางมารีย์อยู่เบื้องหน้า แสดงถึงเหตุการณ์ที่แม่พระประจักษ์แก่นักบุญแบร์นาแด็ตที่หน้าถ้ำเล็ก ๆ ริมแม่น้ำหลายครั้ง โดยให้สวดภาวนาเพื่อผู้ที่ตกอยู่ในบาปและเพื่อโลก หากมีโอกาสมาแถว ๆ วัดไชยวัฒนารามก็แวะมาเยือนที่นี่ด้วยได้นะคะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

 “Amazing ไทยเท่” ที่เที่ยวเก๋ ๆ ใกล้ตัว อย่าลืมมาชื่นชมกันนะคะ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ไกด์เตยหอม
  • 3 Followers
  • Follow