วันนี้ครูพิมจึงอยากจะนำเคล็ดไม่ลับในการเตรียมตัวเตรียมใจให้กับพี่ ๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ
เด็ก ๆ กับตุ๊กตานั้น เป็นของคู่กันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่การเล่นกับตุ๊กตาโดยทั่วไป อาจจะไม่ได้สร้างการเตรียมพร้อมให้กับเด็กมากนัก ดังนั้น สิ่งที่เราควรจะต้องทำเพิ่มเติมก็คือ การค่อย ๆ อธิบายให้พี่คนโตรับรู้ถึงการมีน้อง โดยใช้ตุ๊กตาเด็กทารก หรืออาจจะตุ๊กตาอื่น ๆ ที่ลูก ๆ ชื่นชอบเป็นเสมือนตัวแทนน้อง แล้วเราจึงค่อย ๆ สอดแทรกวิธีการดูแลเด็ก ผ่านการเล่นตุ๊กตานั้นกับลูก หรืออาจจะจำลองว่า นี่จะเป็นน้องของเราในอนาคตนะ ตอนนี้แม่มีน้องจริง ๆ อยู่ในท้อง เรามาลองช่วยกันเตรียมตัวเพื่อดูแลน้องดีกว่า วิธีนี้ จะทำให้เด็กค่อย ๆ เรียนรู้และปรับตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
อีกหนึ่งวิธีการสุดคลาสสิคที่ทำได้ทุกบ้าน ก็คือ การอ่านหนังสือหรือการอ่านนิทานที่มีเรื่องราวน่ารัก ๆ เกี่ยวกับพี่น้องให้เด็ก ๆ ฟังนั่นเองค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ เกิดความรู้สึกเข้าอกเข้าใจ มีอารมณ์ร่วม หรือ empathy ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเราอาจจะใช้วิธีการเปลี่ยนชื่อของตัวละคร ให้เป็นชื่อของลูกก็ได้เช่นกันนะคะ จะได้ทำให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วมและสนใจเรื่องราวนั้น ๆ มากขึ้นนั่นเองค่ะ
การได้มีโอกาสเจอกับเด็กทารกคนอื่น ๆ ก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับพี่ได้เช่นกันค่ะ เพราะจะทำให้พี่ได้เห็นถึงมุมที่น่ารักน่าเอ็นดูของเด็กตัวเล็ก ๆ (กว่าเขา) และยังได้มีโอกาสเห็นก่อนว่า เด็กทารกนั้น ต้องการอะไรจากพ่อแม่บ้าง (อุ้ม พาเดิน ดูดนมจากเต้า) ซึ่งเราสามารถใช้โอกาสนี้ในการอธิบายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับเขาได้นั่นเองค่ะ
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับทั้งพี่และน้อง ก็คือช่วงแรกๆ ของการคลอดน้อง ซึ่งจะเป็นช่วงที่พี่คนโตก็เกิดความรู้สึกอยากได้เวลาและความใกล้ชิดจากแม่ ในขณะที่คนเล็กนั้น ก็ย่อมจะห่างจากแม่ไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว การฝึกให้พี่คนโตได้รู้จักเรียนรู้ที่จะใช้เวลากับญาติพี่น้องคนอื่นๆ บ้าง จนเกิดความคุ้นเคย จึงเป็นเรื่องที่สมควรจะทำตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกว่า เมื่อมีน้องแล้ว ตนถูกกีดกันหรือแยกออกจากแม่นั่นเอง
ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก