ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ค่อยคลายความร้อนให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่วายมีปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก แหม ฝนตกทุกวัน เสื้อผ้าที่ซักไว้ตากมานานแสนนานไม่แห้งสักที ซ้ำร้ายแดดไม่มี ตากในที่ร่ม ผ้าแห้งช้า ผ้าเหม็นอับ ต้องกลับมาซักซ้ำ ตากนานก็ไม่แห้ง วนเป็นวงจรอุบาทว์สร้างความรำคาญ ใส่ไปทั้งเหม็นอับก็ไม่มั่นใจ ทั้ง ๆ ที่อากาศเย็นสบาย แต่มองตะกร้าผ้าที่ไร ปวดใจทุกที !
แต่ฝนนี้บอกเลยว่าสาว ๆ แฟน Plook women จะรักการซักผ้าหน้าฝน ไม่ต้องทนกับกลิ่นอับจากผ้าที่แห้งช้าอีกต่อไป เพราะที่นี่เรามีวิธีรับมือกับการซักและตากผ้าในหน้าฝน ให้ผ้าแห้งไว หอมชื่นใจ ใส่ตัวไหนก็มั่นใจมาฝากค่ะ พร้อมแล้วไปดูกัน
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เสื้อผ้าแห้งยากก็คือความหนาของเนื้อผ้า ช่วงหน้าฝนสาว ๆ ควรหันมาเลือกใส่เสื้อผ้าเนื้อเบา สบาย ระบายอากาศดี ประเภทสูทผ้าหนา ผ้ายีนส์ต่าง ๆ ช่วงหน้าฝนก็พับเก็บเข้าตู้ไปก่อนแล้วกันนะคะซิส เพราะเสื้อผ้าเนื้อบาง ระบายอากาศได้ดี ซักเสร็จปั่นพอแห้ง ลมพัดผ่านไม่กี่ครั้งก็แห้งสนิท ไร้กลิ่นอับกวนใจแน่นอน
พอเห็นว่าฝนตก กลัวผ้าที่ซักจะมีกลิ่นอับก็เลยโหมประโคมใส่ทั้งผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มมาก ๆ คิดว่าผ้าจะหอมใช่ไหมล่ะ บอกเลยว่าผิดถนัดค่ะ นอกจากผ้าไม่หอมแล้วยังทำให้เกิดกลิ่นอับ เกิดการสะสมของแบคทีเรียได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า เพราะเครื่องซักผ้าจะทำการคำนวณปริมาณผ้า น้ำ ไว้อัตโนมัติ หากเรากะหน่ำใส่ทั้งผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป เครื่องซักไม่สะอาด ล้างผงซักฟอกได้ไม่หมด ละลายน้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ทั่วถึง มาเจอกับผ้าหนา ไม่มีแดดจัดให้ตาก กลิ่นอับก็จะถามหาได้ง่าย ๆ ดังนั้นใส่แค่พอดี ตามคำแนะนำบนฉลากและเครื่องซักผ้านะคะ
น้ำส้มสายชูและเบคกิ้งโซดาคือตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้ผ้าไม่เหม็นอับ โดยเฉพาะผ้าที่เปียกฝน เปียกเหงื่่อ หมักหมมก่อนนำมาซัก วิธีการใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยาก แค่เติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย หรือใช้เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ และตามด้วยผงซักฟอก ลงไปซักพร้อมกัน จะช่วยลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าได้ แต่ถ้าไม่อยากใส่ลงในเครื่องซักผ้า ก็นำเสื้อผ้าที่จะซัก มาแช่น้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือเบคกิ้งโซดา ทิ้งไว้ 30-60 นาที แล้วค่อยซักตามขั้นตอนปรกติก็ช่วยได้
ตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้ผ้าที่ซักใหม่ของเราแห้งไว ไร้กลิ่นอับก็ต้องยกให้เครื่องอบผ้านี่แหละ ซักเสร็จ โยนเข้าเครื่องอบผ้าไม่นานผ้าก็แห้ง หอมสะอาดไม่ต้องเกรงใจฝน เหมาะกับการซักผ้าหน้าฝน และคนเลิกงานดึกไม่มีเวลาตากผ้าตอนกลางวัน เครื่องอบผ้าคือตัวช่วยที่ตอบโจทย์ค่ะ
แต่ถ้าไม่อยากซื้อเครื่องอบผ้าให้สิ้นเปลือง สาว ๆ ก็หันมาปรับโหมดเครื่องซักผ้าที่มีอยู่ ตั้งโหมดปั่นแห้งพิเศษในช่วงหน้าฝน ก็ทุ่นเวลาตากผ้าได้เยอะทีเดียว แต่ถ้าเครื่องซักผ้าของใครไม่มีระบบปั่นแห้งพิเศษก็แก้ไขง่าย ๆ ด้วยการใส่ผ้าขนหนูแห้งผืนใหญ่ลงไปปั่นพร้อมผ้าที่ปั่นหมาด ผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำส่วนเกินจากเสื้อผ้า ทำให้ผ้าแห้งไวขึ้นค่ะ
อย่าซักผ้าในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ซักไม่สะอาด พลังผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าชอนไชไม่ทั่วถึง ผ้าไม่สะอาดก็ก่อให้เกิดแบคทีเรียได้หากผ้าแห้งช้า
ช่องว่างระหว่างเสื้อผ้าที่ตากบนราวแต่ละตัวก็สำคัญ อย่าแขวนผ้าที่ต้องการตากชิดจนเกินไป จะทำให้ผ้าแห้งช้า และเกิดกลิ่นอับได้ง่าย
แม้จะตากผ้าในช่วงหน้าฝนที่ตากผ้าของเราก็ไม่ควรถูกฝนสาดถึง หาที่่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เปิดหน้าต่าง ประตู ให้ลมพัดเข้าออกง่าย ระบายอากาศสะดวก ฝนสาดไม่ถึง หรือใช้พัดลมเป่าช่วยอีกแรงก็จะทำให้ผ้าแห้งไวขึ้น