ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซัมเมอร์เมืองไทย ได้เวลาออกกำลังฟิตร่างให้เฟิร์ม รีดไขมันให้ลีน หุ่นจะได้เซี้ยะขยี้ใจหนุ่ม ๆ ตอนนุ่งบิกินี่เดินเก๋ ๆ ริมทะเลใช่ไหมล่ะคะ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะสาว ๆ อากาศร้อนอย่างนี้ ตารางการออกกำลังกายตามปรกติของเรา อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ไม่เถียงค่ะว่าการออกกำลังกายสำคัญ แต่ความปลอดภัยของเราต้องมาก่อน ดังนั้นขยับเข้ามาฟังคำเตือนดี ๆ ที่นี่กันสักนิดนะคะ
เพราะอากาศที่ร้อนทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น ยิ่งถ้าออกกำลังกายแล้วด้วย ปอดและหัวใจของเราก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำให้เสียเหงื่อมากขึ้นกว่าเดิม หากไม่เตรียมตัวให้ดี หรือออกกำลังกายกลางแจ้งนานเกินไป อาจทำให้เกิดพิษจากความร้อนได้แก่
เกิดจากการใช้เวลาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนนานเกินไป ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิเกิน 40 องศา อาการช่วงแรกของลมแดดคือ กระหายน้ำ ตัวร้อน หายใจหอบถี่ ปากคอแห้ง ผิวหนังแห้ง แต่เหงื่อไม่ออก ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาจมีอาการเวียนหัว ตาพร่า คลื่นไส้ อาเจียน ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายและสติสัมปชัญญะได้น้อยลง และอาจถึงขั้นหมดสติซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เกิดจากแร่ธาตุในร่างกายไม่สมดุลจากการเสียเหงื่อ ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวเกร็งอย่างรุนแรงและรู้สึกเจ็บปวดมาก บริเวณที่เกิดตะคริวได้บ่อยคือ ต้นขาและน่อง สามารถแก้ไขโดยพยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อในส่วนที่มีการหดเกร็ง
เกิดจากอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเหมือนกันแต่ไม่เกิน 40 องศา เกิดอาการอ่อนแรง เพลีย กระหายน้ำ ปวดหัว เป็นต้น วิธีแก้ไขเบื้องต้นให้พยายามหลบเข้าที่ร่มที่อากาสถ่ายเทสะดวก อาจใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามตัวเพื่อให้ร่างกายระบายความร้อนดีขึ้น
ออกกำลังกายกลางแจ้งนาน ๆ อาจทำให้แสงแดดทำร้ายผิวจนเกรียมไหม้ได้ จึงควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง และ After sun โลชั่นทุกครั้งหลังออกแดด เพื่อบรรเทาการแสบไหม้ของผิวหนัง
1. วอร์มอัพร่างกายให้พร้อม เพื่อเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมรับแรงกระแทก และป้องกันอาการบาดเจ็บขณะออกกำลังกาย และค่อย ๆ ปรับระดับการทำงานของปอดและหัวใจให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
2. ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง และดื่มอีก 1 แก้วก่อนออกกำลังกาย 15-30 นาที และจิบน้ำทุก ๆ 15-30 นาที ขณะออกกำลังกาย (ขอย้ำว่าจิบเบา ๆ สวย ๆ นะคะอย่าซดโฮ้ก ๆ) เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเสียน้ำเร็วเกินไป หลังออกกำลังกายเสร็จประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะรู้สึกกระหายน้ำหรือไม่ ให้ค่อย ๆ ดื่มน้ำอีก 2-3 แก้ว อย่าดื่มรวดเดียวนะคะ
3. ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นเกินไป
4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งช่วงแดดจัดตั้งแต่ 9.00-18.00 น. หรือออกกำลังกายในทีี่ร่ม
5. เปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย เช่น ลองหันมาว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะแทนการวิ่ง หรือไปออกกำลังกายที่ยิมฯ ให้บ่อยขึ้น
6. ออกกำลังกายให้พอดี อย่าหักโหมเกินไป ห้ามอดอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอ
7. ฝึกหายใจให้ถูกวิธี และห้ามกลั้นหายใจขณะออกกำลังกาย
8. หลังออกกำลังต้องคูลดาวน์ทุกครั้ง เพื่อค่อย ๆ ปรับระดับการทำงานของหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อต่าง ๆ ให้ลดลงอย่างปลอดภัย อย่าหยุดกระทันหันเด็ดขาด