การที่พ่อแม่สังเกตและรับรู้ถึงความดีของลูก แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย ๆ ก็ตาม แต่มันกลับสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับลูกได้อย่างมหาศาล มาดูกันว่า “คำชม” ที่พ่อแม่ส่วนมากมักมองข้าม สร้างพลังมหาศาลให้กับลูกได้อย่างไร
ลูกจะเริ่มเรียนรู้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งช่วงเวลานี้ สิ่งสำคัญที่มีผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกมากที่สุดก็คือ การเสริมแรงจากพ่อแม่ เพื่อช่วยให้ลูกได้ค้นพบความถนัดและความชอบของตนเอง ซึ่งการเสริมแรงนี้ ก็คือ การให้คำชม และการให้กำลังใจลูกนั่นเอง
เพราะความมั่นใจจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีคนคอยให้กำลังใจ และกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กก็คือ กำลังใจจากพ่อแม่ พ่อแม่หลายคนอาจไม่ทราบว่า การพูดเชิงลบของพ่อแม่มีผลต่อพัฒนาการในทุกด้านของลูก เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมถดถอย เมื่อถูกดุถูกว่าบ่อยครั้ง ดังนั้นคำชมจึงมีความหมายมาก สำหรับการสร้างตัวตนและความสำเร็จของลูก ถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นอย่างไร ก็ต้องชมลูกไปในทิศทางนั้น เมื่อพ่อแม่ชมเขาไปในทิศทางนั้นบ่อย ๆ จะทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นอย่างนั้น และเกิดเป็นการสร้างบุคลิกของลูกขึ้นมา นอกจากนี้ คำชมยังเป็นการสร้างความมั่นใจ ทำให้ลูกรู้จักเคารพตัวเองมากขึ้นด้วย
เพราะคำชม คือการพูดถึงสิ่งดี ๆ ดังนั้นการที่พ่อแม่หมั่นชมลูกบ่อย ๆ แม้เป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย จะทำให้ลูกซึมซับและรู้จักการมองเห็นสิ่งดี ๆ ในตัวผู้อื่น และเมื่อลูกเป็นคนที่มองเห็นด้านดีของผู้อื่นเสมอ ก็จะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิต และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
จริง ๆ แล้วมนุษย์ทุกคนต้องการการยอมรับและให้เกียรติ ลูกก็เช่นกัน พ่อแม่ควรให้เกียรติลูก ด้วยการยอมรับและให้ความเคารพในการตัดสินใจของลูกในบางครั้ง ที่พ่อแม่เห็นว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่จนเกินไป พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เผชิญปัญหา และเลือกทางเดินชีวิตของตนเองบ้างในบางครั้ง และเมื่อลูกทำเรื่องนั้น ๆ สำเร็จ พ่อแม่ก็ควรให้ คำชม เป็นการเสริมแรง แต่ถ้าเรื่องนั้นยังไม่สำเร็จ หรือมีข้อผิดพลาด พ่อแม่ก็แค่คอยทำหน้าที่ให้กำลังใจ และประคับคองความเชื่อของลูกให้ไปสู่เป้าหมายที่เขาตั้งไว้ให้ได้
คำชมของพ่อแม่จะสร้างแรงผลักดันให้ลูกเกิดความพยายามและอดทน ซึ่งในบางครั้งลูกอาจต้องเผชิญกับภาวะที่พวกเขาไม่ชอบ หรือทำในสิ่งที่ไม่ถนัด แต่ถ้าพ่อแม่ให้กำลังใจและสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้น ลูกก็จะเกิดความเชื่อ จนกลายเป็นความพยายามที่จะทำสิ่ง ๆ นั้นให้สำเร็จได้
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.