Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ผู้รอดจากดึกดำบรรพ์

Posted By Plook Creator | 14 ส.ค. 61
10,114 Views

  Favorite

เรามักวิพากษ์ความสามารถในการปรับตัวและการเอาชีวิตรอดของแมลงสาบ หนึ่งในแมลงที่มีคนเกลียดมากที่สุดในโลก กล่าวถึงความสามารถของมันในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เลวร้ายและยากที่จะมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าจะอุณหภูมิที่เลวร้าย อาหารที่ขาดแคลน อากาศที่ไม่เป็นใจ ไปจนถึงการทำการทดลองเรื่องการดำรงชีวิตของมันในสภาพไร้น้ำหนัก ขาดอาหาร หรือแม้แต่อวัยวะขาด มันก็สามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้อีกนาน สภาพกัมมันตรังสีสูงก็ไม่สามารถจะทำให้มันสูญพันธุ์หรือหายไปได้ เพราะมันสามารถวิวัฒนาการและปรับตัวได้ดี คาดการณ์กันว่าหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก หรือหากโลกเราโดนอุกกาบาตพุ่งชน หรือเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง สิ่งมีชีวิตที่สามารถเอาชีวิตรอดได้หนึ่งสายพันธุ์คือ แมลงสาบ แต่หากมองย้อนจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ยังมีอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอดมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์และยังมีชีวิตอยู่ดีมีสุขในทุกวันนี้

 

แมงกะพรุน (Jellyfish) มีสายพันธุ์กว่า 1000 สปีชีส์ บ้างก็มีพิษ บ้างก็ไม่มีพิษ บ้างก็ใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงิน บ้างก็เล็กเท่าเม็ดทราย แต่เจ้าตัวหยุ่นใสเหล่านี้นี่แหละที่มีความสามารถในการดำรงเผ่าพันธุ์ พวกมันผ่านร้อนผ่านหนาวก่อนยุคที่ไดโนเสาร์จะครองโลกมาจวบจนยุคมนุษย์ครองโลก หากมองว่ามันเป็นสัตว์ชั้นต่ำ ไม่มีสมอง ไม่สามารถสื่อสารได้ ไม่มีวัฒนธรรมหรือภาษาและอารยธรรมเป็นของตัวเอง ก็คงเหมือนตัดสินปลาว่าไม่มีความสามารถเพียงแค่มันไม่สามารถปีนต้นไม้ได้ดั่งลิง เพราะแมงกะพรุนสามารถมีชีวิตอยู่มาได้สบาย ๆ กว่า 500 ล้านปีจนถึงทุกวันนี้

 

แม้จะมีชื่อห้อยว่า fish มันไม่ใช่ปลาแมงกะพรุน พวกมันเป็นสัตว์ตัวใส หยุ่น และนิ่ม ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกายกว่า 90% มันถูกจัดอยู่ในกลุ่มแพลงก์ตอนสัตว์ (Zooplankton) คำว่าแพลงก์ตอน (Plankton) มาจากรากศัพท์ภาษากรีกที่แปลว่า ล่องลอย พเนจร ซึ่งเหมือนกับชีวิตของมัน เนื่องจากมันมีขนาดเล็ก การเดินทางของมันในน้ำจึงเกิดจากการพัดของกระแสน้ำ มันเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตามแต่น้ำจะพัดพาไป และในบริเวณที่มีการกระทบกันหรือรวมตัวกันของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นคือจุดที่มีแพลงก์ตอนมาก บริเวณที่แตกต่างกัน สภาพแวดล้อมต่าง อุณหภูมิต่าง หรือแม้แต่น้ำจืดกับน้ำเค็ม ก็ทำให้มีจำนวนและชนิดของแพลงก์ตอนต่างกัน ทั้งแพลงก์ตอนพืชและแพลงก์ตอนสัตว์ต่างก็มีความสำคัญในแง่ของการเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำชนิดอื่น เป็น Primary Producer ให้กับห่วงโซ่อาหาร

 

แม้ว่าจะมีหลายสปีชีส์ แต่สิ่งที่เป็นลักษณะสำคัญของแมงกะพรุนคือ อวัยวะที่เรียกว่า Mesoglea ซึ่งมีลักษณะเหมือนระฆังหรือถ้วยคว่ำ ประกอบด้วยชั้นผิวหนังสองชั้น สร้างจากเส้นใยโปรตีนที่มีของเหลวอยู่ตรงกลาง หากเทียบสัดส่วนโดยปริมาตรแล้ว มีน้ำประกอบอยู่ถึง 95% การขยับยืดหรือหดตัวของอวัยวะนี้ทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนทำให้มันเคลื่อนตัวไปในน้ำได้ และแม้ว่ามันไม่มีไขสันหลังหรือสมองเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์ชั้นสูงในตระกูลอื่น ๆ แต่โครงข่ายประสาทของมันที่กระจายตัวอยู่โดยรอบ ก็สามารถทำหน้าที่ของมันได้ดีในการช่วยให้มีชีวิตรอดได้ ไม่ว่าจะขับเคลื่อนตัวของมัน สัมผัสกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รอบ ๆ ตัว การรับสัมผัสจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เพื่อตรวจจับหาอาหารขนาดเล็กที่พอกินได้ และการที่มันไม่มีระบบย่อยอาหารแบบสัตว์ชนิดอื่นก็ไม่ได้ขัดขวางการหาอาหารของมัน เพราะมันสามารถดูดซึมและได้รับสารอาหารจากสิ่งมีชีวิตที่ขนาดเล็กกว่าได้ เมื่อแพลงก์ตอนจิ๋วเคลื่อนตัวผ่านปากเข้าไปใต้ถ้วยคว่ำนั้น ชั้นเนื้อเยื่อด้านในจะดูดซึมเอาสารอาหารที่เป็นประโยชน์จากเหยื่อเข้าไป และคายเอาของเหลือออกมา

 

ระบบป้องกันตัวเองของแมงกะพรุนก็น่าสนใจไม่แพ้กัน กลุ่มเซลล์ Nematocysts เป็นกลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่ป้องกันและโจมตีสิ่งมาสัมผัส มันมีเหล็กในหรือเข็มพิษและขดสปริงที่มีแรงดันอยู่ภายใน เมื่อได้รับการสัมผัส แรงดันที่เปลี่ยนไปบริเวณพื้นผิวเซลล์จะทำให้เซลล์เปิดออกและขดที่รูปร่างเหมือนสปริงภายในจะดีดเอาเหล็กในพุ่งออกโจมตีสิ่งที่มาสัมผัส บางสายพันธุ์มีพิษอ่อน ๆ พอให้ผิวหนังคนเราระคายเคือง บางสายพันธุ์จะสารเคมีที่เป็นพิษร้ายแรงเคลือบเหล็กในอีกทีซึ่งทำให้ผิวหนังถูกทำลาย หรืออาจจะทำลายระบบประสาท พิษของแมงกะพรุนกล่องซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีพิษร้าย สามารถฆ่าคนได้ภายใน 5 นาทีเท่านั้น แมงกะพรุนชนิดอื่น ๆ ก็มีความสามารถและลักษณะที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเรืองแสงในที่มืดได้ เนื่องจากมีเซลล์ที่มีส่วนประกอบของ biofluorescent ซึ่งเป็นสารเรืองแสงโดยชีวภาพ หรือความสามารถในการขยายพันธุ์เป็นจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วโดยการวางไข่กว่า 45,000 ฟองในคืนเดียว เช่น แมงกะพรุนสีทองที่พบในทะเลสาบปิดอยู่ภายในเกาะ Eil Mark ในประเทศปาเลา

 

ความสามารถที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาของแมงกะพรุนกว่า 1,000 สปีชีส์ที่มีอยู่บนโลกนี้ กระจายตัวอยู่ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำจืดมากมายทั่วโลก ประกอบกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ที่แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของแมงกะพรุนมานานกว่า 500 ล้านปี ทำให้มันเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้และยังอาศัยอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้อีกนาน มันอยู่มานานกว่ามนุษย์และแมลงสาบ และนักวิทยาศาสตร์ก็คาดว่ามันอาจจะมีอยู่ต่อไปได้อีกนานแม้จะต้องผ่านยุคน้ำแข็งอีกหลายรอบก็ตาม

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 15 Followers
  • Follow