1. มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียง 2 ชนิดที่ออกลูกเป็นไข่ ได้แก่ ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมดหนาม ซึ่งพบได้ในประเทศออสเตรเลีย
2. ในบรรดาสิ่งมีชีวิตในโลก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นเพียงสัตว์ชนิดเดียวที่มีหูอยู่นอกตัว โดยภายในหูชั้นกลางของพวกมันจะประกอบไปด้วยกระดู 3 ชิ้นเพื่อส่งต่อเสียงไปยังหูชั้นใน
3. ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเล็บเท้าแต่ไม่มีนิ้วเท้า
4. ปัจจุบันมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่า 5,000 ชนิด (Species) ในโลก
5. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดล้วนมีขน แม้แต่วาฬหรือโลมาก็มีขนเช่นกัน โดยขนของมันจะอยู่บริเวณใบหน้า และเป็นช่วงที่มันอยู่ในท้องของแม่เท่านั้น ขนเหล่านี้จะหายไปหลังจากที่มันเกิด
6. แม้ว่าหลังของอูฐจะมีโหนกนูนขึ้นมา แต่จริง ๆ แล้วกระดูกสันหลังของมันมีลักษณะตรง
7. วาฬมีหัวใจขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่หัวใจของมันเต้นช้ามาก คือ 1 ครั้งใน 6 วินาที
8. มนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความฉลาด แต่นอกจากมนุษย์แล้ว โลมา ช้าง ลิงชิมแปนซี รวมถึงหมู ก็มีความฉลาดไม่แพ้กัน
9. ยีราฟมีลิ้นที่ยาวถึง 20 นิ้ว (ประมาณ 45-50 เซนติเมตร) และพวกมันสามารถใช้ลิ้นทำความสะอาดหูของพวกมันได้
10. ค้างคาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวที่บินได้
11. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีฟันที่มีลักษณะแตกต่างกันไป เพื่อประสิทธิภาพในการกินอาหาร แต่ก็มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดที่ไม่มีฟันเลย เช่น วาฬบาลีนหรือวาฬไม่มีฟัน ตัวนิ่ม หรือตัวกินมดหนาม
12. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นสัตว์เลือดอุ่น นั่นหมายความว่า พวกมันสามารถรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่อยู่เสมอ แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแต่ละชนิดก็มีระดับของอุณหภูมิภายในร่างกายต่างกัน เช่น สัตว์ประเภทโมโนทรีม (Monotremes) อย่างตุ่นปากเป็ดหรือตัวกินมดหนาม จะมีอุณหภูมิในร่างกายอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ขณะที่กระต่ายและแมว มีอุณหภูมิในร่างกายอยู่ที่ 39 องศาเซลเซียส
13. ปกติแล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่โดยการหลั่งเหงื่อหรือการสั่น แต่หมูเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่มีเหงื่อ เพราะพวกมันไม่มีต่อเหงื่อ ดังนั้น พวกมันจึงต้องกลิ้งไปบนโคลนเพื่อให้อุณหภูมิภายในร่างกายของพวกมันเย็นขึ้น
14. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยทั่วไปมีภาวะตาบอกสี ยกเว้นเพียงคนและลิง
15. มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียง 3-5% เท่านั้นที่มีคู่เพียงตัวเดียวไปตลอดชีวิตของมัน เช่น บีเวอร์ ตัวนาก หมาป่า และค้างคาวบางชนิด
16. สัตว์ส่วนใหญ่ไม่มีฟันผุเพราะว่าอาหารของพวกมันไม่ได้มีน้ำตาลสูง พวกมันเคี้ยวอาหารที่แข็งและหยาบ เช่น กระดูก เปลือกไม้ ซึ่งช่วยให้ฟันของพวกมันสะอาด อย่างไรก็ตาม หากเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านที่กินน้ำตาลมากก็อาจมีฟันผุได้เช่นเดียวกัน
17. นอของแรดไม่ได้เกิดขึ้นจากกระดูก แต่เกิดจากเคราติน (Keratin) อันเป็นองค์ประกอบหลักของขนและเล็บ ซึ่งขนที่มีลักษณะเป็นเส้นใยจะกระจุกรวมกันอยู่บนนอของแรด ทำให้มีความแข็งแรงมากจนทำให้นอของแรดเป็นอาวุธที่ทรงพลัง